นายกฯ สั่งขับเคลื่อน 'ไทยนิยม ยั่งยืน' ก้าวสู่ยุค 4.0 ลั่น! "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

09 ก.พ. 2561 | 09:19 น.
นายกรัฐมนตรีเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน” เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทั่วประเทศ ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม พร้อมพัฒนาประเทศไปสู่ 4.0 ต่อไป

วันที่ 9 ก.พ. 61 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตาม ‘โครงการไทยนิยม ยั่งยืน’ ซึ่งได้กล่าวมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’ ว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และแผนการปฏิรูปเพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานของทุกส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ควบคู่กับการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีคุณค่า เพื่อผลิตกำลังคน การสร้างพลังทางสังคมและลดการเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นการกระจายโอกาสอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อการพัฒนาไปสู่ประเทศไทย 4.0 โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเน้นที่การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ภายใต้แนวคิด ‘ประชารัฐ’ และการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน บนพื้นฐานการเติบโตและก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างเป็นรูปธรรม

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลและทุกกระทรวงมีนโยบายสำคัญลงไปในพื้นที่ โดยได้มีแผนงานโครงการและงบประมาณลงไปขับเคลื่อน ซึ่งมีลักษณะต่างคนต่างทำ ขาดการบูรณาการร่วมกัน ก่อให้เกิดความซ้ำซ้อน และกลายเป็นภาระให้กับประชาชน เช่น กรณีการก่อสร้างถนน แต่ชาวบ้านไม่อยากให้สร้างหรือไม่รู้เรื่องมาก่อน หรือ กรณีการวางแผนการทำงานที่ไม่พร้อมกันระหว่างกรมชลประทานกับกรมทางหลวง และอื่น ๆ จากที่มาและปัญหาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีการบริหารงานในรูปแบบ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’ เพื่อบูรณาการงานของรัฐบาลและทุกกระทรวง ซึ่งคำว่า ‘ไทยนิยม’ นั้น ไม่ใช่การสร้างกระแส ‘ชาตินิยม’ แต่อยู่บนพื้นฐานของ ‘ความเป็นไทยโดยไม่ทิ้งหลักสากล’ และ ‘ไทยนิยม’ ก็ไม่ใช่ ‘ประชานิยม’ แต่อย่างใด

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ โครงการ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’ มีกลไกสำคัญ 4 ระดับ ทำหน้าที่บูรณาการการขับเคลื่อนและติดตามงานสำคัญลงในพื้นที่เป้าหมาย 83,151 หมู่บ้าน/ชุมชน ประกอบด้วย 1.ระดับชาติ 2.ระดับจังหวัด 3.ระดับอำเภอ และ 4.ระดับตำบล ซึ่งทั้งหมด คือ ทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยตามโครงการ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’ ระดับตำบลถือเป็นแกนหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ทำหน้าที่ทั้งการสร้างการรับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และการสร้างความร่วมมือกับกลไกของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ทั้งมิติ ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม

ทั้งนี้ โครงการ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’ มุ่งขับเคลื่อนงานสำคัญ 10 เรื่อง ดังนี้

1.สัญญาประชาคมผูกใจไทยเป็นหนึ่ง ด้วยการสร้างความสามัคคี ปรองดอง จัดให้มีการทำสัญญาประชาคมให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย เพื่อรับรู้และปฏิบัติตามร่วมกัน

2.คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้วยการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ

3.ชุมชนอยู่ดีมีสุข ด้วยการพัฒนาความเป็นอยู่ อาชีพ และรายได้ ให้แก่ประชาชน ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตร และการท่องเที่ยวโดยชุมชน

4.วิถีไทยวิถีพอเพียง ด้วยการส่งเสริมให้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างวินัยการออมในทุกช่วงอายุ

5.รู้สิทธิ รู้หน้าที่ รู้กฎหมาย ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ในเรื่องสิทธิ หน้าที่ และกฎหมาย เพื่อการเป็นพลเมืองที่ดี

6.รู้กลไกการบริหารราชการด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งเรื่องกลไกการบริหารราชการแผ่นดินแต่ละระดับ และการบริหารงบประมาณ ที่มุ่งประโยชน์แก่ประชาชน

7.รู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม ด้วยการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และหลักธรรมาภิบาล

8.รู้เท่าทันเทคโนโลยี ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยี ให้ความสำคัญต่อการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องผ่านโครงการสำคัญ เช่น เน็ตประชารัฐ เป็นต้น

9.ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร

10.งานตามภารกิจของส่วนราชการ/หน่วยงาน (Function)

ซึ่งทั้ง 10 เรื่องดังกล่าว ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน และจะขยายผลเพื่อต่อยอดในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป ให้ครอบคลุมทุกมิติ


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำอีกว่า มีความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะวางรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับประเทศ โดยวางระบบและแนวทางการปฏิรูปให้นโยบายต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาสู่ฐานรากของประเทศ โดยเฉพาะนโยบายเชิงโครงสร้างที่จะยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่าง ๆ ผลสำเร็จที่จะเกิดขึ้นจากการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’ นี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อประเทศไทยในปัจจุบันเท่านั้น แต่จะส่งผลที่ดีในอนาคตด้วย จึงถือเป็นภารกิจสำคัญของคนไทยและทุกฝ่ายที่จะร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’ เพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำในตอนท้ายอีกว่า รัฐบาลมุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนโครงการ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’ โดยขอให้ไปสร้างการเรียนรู้และทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยความตั้งใจ ส่งผลให้เกิดความรักสามัคคีปรองดองกัน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมให้น้อยลง ขณะเดียวกัน การทำงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐให้มีการบูรณาการร่วมกับประชาชนด้วยการยึดถือความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรแก่ประชาชน พร้อมร่วมกันพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตผลทางการเกษตรดีขึ้น

พร้อมทั้ง ขอให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐวางตัวให้เหมาะสม ไม่ประพฤติตนเป็นนายของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความรู้สึกสบายใจและเกิดความประทับใจที่จะเข้าปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนโครงการ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางพระราชดำริศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งตรงตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 อย่างแท้จริง


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว