ขสมก.แจงกรณีติดตั้งCash Boxหลังถูกร้องเรียน
ขสมก.แจงกรณีติดตั้งCash Boxหลังถูกร้องเรียน
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ตามที่สื่อออนไลน์ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 หลายแห่ง ได้พาดหัวข่าวว่า“บริษัท แม่โขง ลุยร้อง สตง.ตรวจสอบ ขสมก.” โดยมีเนื้อหาข่าวความว่า “ตามที่บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถส่งมอบเครื่องอ่านบัตร (E-Ticket) และเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash Box) ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา แต่ ขสมก.ยังไม่ยกเลิกสัญญา จึงเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทดังกล่าว” นั้น
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ขอชี้แจง ดังนี้
1. ขสมก.มีนโยบายติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash Box) บนรถโดยสารประจำทาง เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนที่ไม่ได้ถือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรแมงมุม” และประชาชนที่ไม่ได้ใช้บริการรถโดยสารอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเพื่อรองรับการใช้บริการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และใช้บริการรถโดยสารของ ขสมก.เป็นครั้งคราว ซึ่งไม่สะดวกที่จะใช้บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket)
2.ตามสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) กำหนดให้บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ต้องติดตั้งเครื่องอ่านบัตรและเครื่องเก็บค่าโดยสารบนรถ จำนวน 2,600 คัน โดยแบ่งการส่งมอบเป็น 3 งวด ดังนี้
งวดที่ 1 ส่งมอบจำนวน 100 คัน ภายใน 120 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา
งวดที่ 2 ส่งมอบจำนวน 700 คัน ภายใน 180 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา
งวดที่ 3 ส่งมอบจำนวน 1,800 คัน ภายใน 360 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา
ตามสัญญาฯข้อ 7 ได้กำหนดบทปรับ กรณีบริษัทฯไม่สามารถส่งมอบงานได้ทันตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา ดังนี้
2.1.กรณีบริษัทฯไม่สามารถส่งมอบงานงวดที่ 1 ทันตามกำหนด จะต้องถูกปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.20 ของวงเงินค่าเช่าระบบบนรถโดยสาร จำนวน 100 คันต่อเดือน นับถัดจากวันที่ครบกำหนดดังกล่าว จนถึงวันที่บริษัทฯได้ส่งมอบงานถูกต้องครบถ้วน
2.2.กรณีบริษัทฯไม่สามารถส่งมอบงานงวดที่ 2 ทันตามกำหนด จะต้องถูกปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.20 ของวงเงินค่าเช่าระบบบนรถโดยสาร จำนวน 700 คันต่อเดือน นับถัดจากวันที่ครบกำหนดดังกล่าว จนถึงวันที่บริษัทฯได้ส่งมอบงานถูกต้องครบถ้วน
2.3.กรณีบริษัทฯไม่สามารถส่งมอบงานงวดที่ 3 ทันตามกำหนด จะต้องถูกปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.20 ของวงเงินค่าเช่าระบบบนรถโดยสาร จำนวน 1,800 คันต่อเดือน นับถัดจากวันที่ครบกำหนดดังกล่าว จนถึงวันที่บริษัทฯได้ส่งมอบงานถูกต้องครบถ้วน
3.ปัจจุบัน ขสมก.อยู่ระหว่างดำเนินการตามบทปรับข้อ 1, 2 เนื่องจากบริษัทฯยังไม่สามารถส่งมอบงานงวดที่ 1, 2 ได้ตามสัญญา โดยขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างส่งมอบงานงวดที่ 1 จำนวน 100 คัน ทั้งนี้ ขสมก.ไม่ได้ยกเลิกการติดตั้งและยังไม่ได้จ่ายค่าเช่าเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash Box) ให้กับบริษัทฯแต่อย่างใด
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ตามที่สื่อออนไลน์ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 หลายแห่ง ได้พาดหัวข่าวว่า“บริษัท แม่โขง ลุยร้อง สตง.ตรวจสอบ ขสมก.” โดยมีเนื้อหาข่าวความว่า “ตามที่บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถส่งมอบเครื่องอ่านบัตร (E-Ticket) และเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash Box) ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา แต่ ขสมก.ยังไม่ยกเลิกสัญญา จึงเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทดังกล่าว” นั้น
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ขอชี้แจง ดังนี้
1. ขสมก.มีนโยบายติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash Box) บนรถโดยสารประจำทาง เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนที่ไม่ได้ถือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรแมงมุม” และประชาชนที่ไม่ได้ใช้บริการรถโดยสารอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเพื่อรองรับการใช้บริการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และใช้บริการรถโดยสารของ ขสมก.เป็นครั้งคราว ซึ่งไม่สะดวกที่จะใช้บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket)
2.ตามสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) กำหนดให้บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ต้องติดตั้งเครื่องอ่านบัตรและเครื่องเก็บค่าโดยสารบนรถ จำนวน 2,600 คัน โดยแบ่งการส่งมอบเป็น 3 งวด ดังนี้
งวดที่ 1 ส่งมอบจำนวน 100 คัน ภายใน 120 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา
งวดที่ 2 ส่งมอบจำนวน 700 คัน ภายใน 180 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา
งวดที่ 3 ส่งมอบจำนวน 1,800 คัน ภายใน 360 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา
ตามสัญญาฯข้อ 7 ได้กำหนดบทปรับ กรณีบริษัทฯไม่สามารถส่งมอบงานได้ทันตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญา ดังนี้
2.1.กรณีบริษัทฯไม่สามารถส่งมอบงานงวดที่ 1 ทันตามกำหนด จะต้องถูกปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.20 ของวงเงินค่าเช่าระบบบนรถโดยสาร จำนวน 100 คันต่อเดือน นับถัดจากวันที่ครบกำหนดดังกล่าว จนถึงวันที่บริษัทฯได้ส่งมอบงานถูกต้องครบถ้วน
2.2.กรณีบริษัทฯไม่สามารถส่งมอบงานงวดที่ 2 ทันตามกำหนด จะต้องถูกปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.20 ของวงเงินค่าเช่าระบบบนรถโดยสาร จำนวน 700 คันต่อเดือน นับถัดจากวันที่ครบกำหนดดังกล่าว จนถึงวันที่บริษัทฯได้ส่งมอบงานถูกต้องครบถ้วน
2.3.กรณีบริษัทฯไม่สามารถส่งมอบงานงวดที่ 3 ทันตามกำหนด จะต้องถูกปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.20 ของวงเงินค่าเช่าระบบบนรถโดยสาร จำนวน 1,800 คันต่อเดือน นับถัดจากวันที่ครบกำหนดดังกล่าว จนถึงวันที่บริษัทฯได้ส่งมอบงานถูกต้องครบถ้วน
3.ปัจจุบัน ขสมก.อยู่ระหว่างดำเนินการตามบทปรับข้อ 1, 2 เนื่องจากบริษัทฯยังไม่สามารถส่งมอบงานงวดที่ 1, 2 ได้ตามสัญญา โดยขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างส่งมอบงานงวดที่ 1 จำนวน 100 คัน ทั้งนี้ ขสมก.ไม่ได้ยกเลิกการติดตั้งและยังไม่ได้จ่ายค่าเช่าเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash Box) ให้กับบริษัทฯแต่อย่างใด
