ASP ยึดศูนย์กลางกำไร ลั่นปีนี้ปั้นรายได้โต19%
“ก้องเกียรติ” เปิดกลยุทธ์ ASP ยึดศูนย์กลางทำกำไรเป็นหลักมากกว่าขยายส่วนแบ่งตลาด ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 19% โฟกัส wealth management และกองทุนรวม พับแผนลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ รุกขยายฐานรุ่นใหม่ตํ่ากว่า 40 ปี
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ASP) และบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยแผนธุรกิจกลุ่มบริษัทเอเซียพลัสฯ ปี 2561 ว่ายังเดินกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง หาธุรกิจใหม่ๆที่เป็นโอกาส โดยเฉพาะในธุรกิจที่ยังไม่มีคู่แข่งทำมาก่อน หรือเป็นบลูโอเชียน
บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโต 19% จากปีก่อน ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม ASP มีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 7.5% แต่มีกำไรเติบโตเฉลี่ยถึงปีละ 18% เป็นการตอกยํ้าการบริหารธุรกิจที่มุ่งบริหารหากำไรสุทธิไม่ใช่การบริหารเพื่อขยายส่วนแบ่งตลาด
[caption id="attachment_257370" align="aligncenter" width="503"]
ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ASP)[/caption]
สำหรับธุรกิจที่สร้างโอกาสในปีนี้ บริษัทให้ความสำคัญ เรื่อง wealth management หรือการบริหารทรัพย์สินสำหรับลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของโลกและลูกค้ากลุ่มนี้ยังต้องการที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสร้างให้ทรัพย์สินตัวเองงอกเงย
ปีที่ผ่านมาบริษัทยังได้ขยายฐานยังกลุ่ม “young generation” ที่มีอายุตํ่ากว่า 40 ปี แทนการเน้นธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการแข่งขันสูง ถูกบีบให้ค่าคอมมิสชันตํ่าลงเรื่อยๆ รวมถึงการรุกธุรกิจ กองทุนรวม และบริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ
ทั้งนี้รายได้ของกลุ่มเอเซียพลัส มาจาก 8 ธุรกิจ 4 ธุรกิจแกนหลัก คือบริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์ และบริการวาณิชธนกิจที่มีพอร์ตงานอยู่ 50 ดีล เป็นไอพีโอ และเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอย่างละ 25 ดีล
ส่วนอีก 4 ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูงมากกว่า 30% ได้แก่ บริการบริหารสินทรัพย์, ธุรกิจกองทุนรวม, การลงทุนโดยเงินทุนของบริษัทส่วนบริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ คาดจะเติบโตได้กว่า 50% ธุรกิจบริการบริหารสินทรัพย์โต 31% กองทุนรวมโต 78% บริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศโต 159% และการลงทุนโดยเงินทุนของบริษัทเติบโต 99% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
“ตราสารหนี้ปีนี้เราจะไม่ลงทุน โดยเฉพาะตราสารหนี้ต่างประเทศ และโดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐ ฯ เพราะดอกเบี้ยพันธบัตรเวลานี้ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีทะลุ 2.7% และมีแนวโน้มจะปรับเป็น 3% ฉะนั้นราคาจะร่วงอย่างเดียว”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (ASP) และบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยแผนธุรกิจกลุ่มบริษัทเอเซียพลัสฯ ปี 2561 ว่ายังเดินกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง หาธุรกิจใหม่ๆที่เป็นโอกาส โดยเฉพาะในธุรกิจที่ยังไม่มีคู่แข่งทำมาก่อน หรือเป็นบลูโอเชียน
บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโต 19% จากปีก่อน ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม ASP มีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 7.5% แต่มีกำไรเติบโตเฉลี่ยถึงปีละ 18% เป็นการตอกยํ้าการบริหารธุรกิจที่มุ่งบริหารหากำไรสุทธิไม่ใช่การบริหารเพื่อขยายส่วนแบ่งตลาด
[caption id="attachment_257370" align="aligncenter" width="503"]
สำหรับธุรกิจที่สร้างโอกาสในปีนี้ บริษัทให้ความสำคัญ เรื่อง wealth management หรือการบริหารทรัพย์สินสำหรับลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของโลกและลูกค้ากลุ่มนี้ยังต้องการที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อสร้างให้ทรัพย์สินตัวเองงอกเงย
ปีที่ผ่านมาบริษัทยังได้ขยายฐานยังกลุ่ม “young generation” ที่มีอายุตํ่ากว่า 40 ปี แทนการเน้นธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการแข่งขันสูง ถูกบีบให้ค่าคอมมิสชันตํ่าลงเรื่อยๆ รวมถึงการรุกธุรกิจ กองทุนรวม และบริการซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ
ทั้งนี้รายได้ของกลุ่มเอเซียพลัส มาจาก 8 ธุรกิจ 4 ธุรกิจแกนหลัก คือบริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์ และบริการวาณิชธนกิจที่มีพอร์ตงานอยู่ 50 ดีล เป็นไอพีโอ และเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอย่างละ 25 ดีล
“ตราสารหนี้ปีนี้เราจะไม่ลงทุน โดยเฉพาะตราสารหนี้ต่างประเทศ และโดยเฉพาะพันธบัตรสหรัฐ ฯ เพราะดอกเบี้ยพันธบัตรเวลานี้ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปีทะลุ 2.7% และมีแนวโน้มจะปรับเป็น 3% ฉะนั้นราคาจะร่วงอย่างเดียว”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
