ทุ่ม 1.5 พันล้าน! ตั้ง 'ตลาดผลไม้โลก'

27 ก.พ. 2561 | 05:09 น.
1137

ครม. เดินหน้ามาตรการเพิ่มผลผลิตผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตั้งเป้าเพิ่มผลผลิต 10% ภายใน 3 ปี พร้อมเทงบ 1,580 ล้านบาท ดันไทย “ตลาดกลางผลไม้โลก” ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ที่ จ.จันทบุรี วันที่ 5-6 ก.พ. ได้หารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในพื้นที่ ถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้กำหนดแนวทางการช่วยเหลือโดยใช้มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารธุรกิจเอสเอ็มอี ระยะเวลาดำเนินการโครงการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561-2563 โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะลดต้นทุนการผลิตได้ 10% ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายหรือลดต้นทุนได้ประมาณ 3-5% ของต้นทุนทั้งหมด และจากปัญหาของเกษตรกรในการขายสินค้าให้กับพ่อค้าคนกลาง ซึ่งมักจะต่อรองราคาไม่ได้ เพราะพ่อค้าคนกลางจะเป็นผู้กำหนดราคา กระทรวงอุตฯ จึงต้องการสร้างมาตรฐานระบบการซื้อขายผลไม้ให้เป็นสากล เชื่อมโยงกับผู้ค้าในตลาดโลก ให้เกษตรกรมีอำนาจต่อรองด้านราคากับผู้ซื้อได้

 

[caption id="attachment_146928" align="aligncenter" width="462"] อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม[/caption]

ทั้งนี้ สำหรับโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (Easten Fruit Corridor : EFC) ตั้งอยู่ในนิคม Smart Park จ.ระยอง ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ใช้งบประมาณ 1,580 ล้านบาท คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนและการซื้อขายผลไม้ในโครงการนี้ประมาณ 51,931 ล้านบาท โดยระบบตลาดกลางประมูลผลไม้คุณภาพสูงของภาคตะวันออก มีแนวทางการพัฒนาระบบที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล พัฒนาระบบมาตรฐานสินค้าเกษตร ด้วยระบบตลาดประมูลไม้ดอกจากประเทศเนเธอร์แลนด์ มาประยุกต์ให้เป็นระบบตลาดประมูลซื้อขายผลไม้

“โครงการนี้คาดว่า จะทำให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ลดปัญหาผลผลิตทางการเกษตรขาดแคลนหรือล้นตลาด แก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้เกิดการลงทุนใหม่ของนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร มีมูลค่าการส่งออก ผลไม้สดและผลไม้แปรรูปเพิ่มขึ้น เกิดการจ้างงานใหม่ในพื้นที่ภาคตะวันออก และลดภาระงบประมาณของรัฐบาลในการอุดหนุนราคาสินค้าเกษตรระยะยาว”

 

[caption id="attachment_247664" align="aligncenter" width="503"] สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์[/caption]

ด้าน นายสินธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ครม.สัญจร อนุมัติในหลักการโครงการจัดตั้งระเบียงผลไม้ภาคตะวันออกในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตและตลาดผลไม้เมืองร้อนที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยได้อนุมัติวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการระยะที่ 1 จำนวน 80 ล้านบาท เริ่มดำเนินการในงบฯ 2561 ภายใต้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5 ด้าน คือ การบริหารจัดการผลผลิต การบริหารจัดการการตลาด การวิจัยและพัฒนา พัฒนาองค์กรและเกษตรกร และพัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศ

ทั้งยังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการผลักดันประเทศไทยให้เป็น ‘มหานครผลไม้ของโลก’ ระหว่าง 4 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรฐานผลไม้ไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสร้างเครือข่ายผู้ผลิตและเครือข่ายตลาด ทั้งนี้ความร่วมมือจะมีผลทันทีหลังจากที่ได้ลงนามใน MOU ระหว่างกัน


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8-10 ก.พ. 2561 หน้า 16

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว