‘คาร์มานา’เป้า 3 หมื่นคันภายในปี 63 ‘อีโคคาร์-ปิกอัพ’ฮิต!

ธุรกิจการซื้อ-ขายรถยนต์ทั้งรถใหม่ป้ายแดง - รถมือ2 ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือ เว็บไซต์เริ่มได้รับความนิยม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้อินเตอร์เน็ตที่แพร่หลาย ประกอบกับความเชื่อมั่นของตัวลูกค้าที่มีต่อการซื้อ-ขายผ่านเว็บไซต์ต่างๆมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มของธุรกิจนี้จะเป็นอย่างไร วันนี้ฐานยานยนต์มีโอกาสพูดคุยกับสตาร์ตอัพคนไทย อย่าง ณพล ชัยศิลป์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์มานา จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ Carmana.com ที่เข้ามารุกในแพลตฟอร์มดังกล่าวและชูจุดขายว่า “ซื้อขายรถบ้านมือ 2 ครบวงจรกับเจ้าของตัวจริง ไม่ผ่านคนกลาง”

++เทรนด์ซื้อ-ขายออนไลน์
เทรนด์การซื้อ-ขายรถออนไลน์เติบโต มีหลายคนเข้ามาใช้ช่องทางนี้ในการทำธุรกิจ แต่รูปแบบที่เหมือนกับคาร์มานายังไม่มี โดยเรามีเป้าหมายคือเปลี่ยนพฤติกรรมของคน และสร้างความเชื่อมั่น-ไว้วางใจในการซื้อขายรถมือ 2 ซึ่งรูปแบบการขายของเราจะเน้นรถบ้าน และเราจะเป็นตัวกลางที่ช่วยประเมิน มีการแนะนำข้อมูลต่างๆให้ทั้งกับผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะเรามองว่าการซื้อขายรถมือ 2 ต้องแฟร์ทั้งกับคนซื้อและคนขาย

[caption id="attachment_257152" align="aligncenter" width="335"] ณพล ชัยศิลป์วัฒนา[/caption]

++ผลตอบรับในปี2560
เราให้บริการแบบวัน สต็อป เซอร์วิส มีทีมเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล คอยเป็นตัวกลาง ช่วยเหลือลูกค้าทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสารเรื่องข้อมูลรถ-ราคากลางการตรวจสภาพรถ พร้อม ทั้งมีไฟแนนซ์รองรับ และเราไม่มีค่าจัดไฟแนนซ์ นอกจากนั้นแล้วเรายังมีแคมเปญออกมาสมํ่าเสมอ ด้วยบริการทั้งหมดที่เรารวบรวมไว้ทำให้การตอบรับในปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ

โดยเมื่อแยกจำนวนคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของเราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเดือน ก.ค.60 มีจำนวน 4 หมื่น แต่พอถึงเดือน ธ.ค.60 มียอดเข้าชมกว่า 1.6 แสน และเมื่อดูยอดวิวสะสมของลูกค้าที่เข้าชมพบว่ามีกว่า 1.6 ล้าน ในจำนวนนี้ 60% เป็น นิว ยูสเซอร์ ที่เข้ามาดู ขณะที่คอลล์เซ็นเตอร์ จากเดิมเรามี 400 คู่สาย ตอนนี้เพิ่มเป็น 600 คู่สายต่อเดือน ด้านจำนวนรถจากเดิม ม.ค.60 มี 2,600-2,700 คัน ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3,800-3,900 คัน

ในแง่พาร์ตเนอร์ เรามีเครือข่ายสถาบันการเงิน หรือไฟแนนซ์ อาทิ กรุงศรีออโต้ , ทิสโก้, ไอซีบีซี, ซิตี้ และจะเพิ่มอีก 2 เจ้าได้แก่ ธ.ธนชาตและฐานเศรษฐการ โดยสถาบันการเงินแต่ละเจ้าจะมีจุดเด่นจุดแข็งที่แตกต่างกันไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าของเราได้พอสมควร

ขณะที่ผลการตอบรับในเชิงการวัดผลความพึงพอใจ เราพบว่า 84% ลูกค้าที่ซื้อรถกับเราจะมีการบอกต่อ ส่วนลูกค้าที่ซื้อรถกับเราเฉลี่ยอายุ 30 ปีขึ้นไปคิดเป็น 80% และที่เหลือ 20% อายุตํ่ากว่า 30 ปี ซึ่งเราคาดหวังว่าในอนาคตสัดส่วนของลูกค้าอายุตํ่ากว่า 30 ปีจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 30 % ด้านกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิง มีสัดส่วนเข้ามาซื้อรถกับเราคิดเป็น 40% ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงแรก ที่มีเพียง 25%

++รถยอดนิยม
รถที่ขายดีในเว็บไซต์ของเราจะเป็นรถอีโคคาร์ อาทิ อัลเมร่า ส่วนรถปิกอัพก็ขายดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอีซูซุ ดีแมคซ์ ซึ่งเทรนด์ ในปี 2561 รถที่ราคาตํ่ากว่า 4 แสนบาทจะยังคงได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะมองว่าคนรุ่นใหม่ หรือเริ่มต้นทำงาน จะเริ่มจากการซื้อรถคันแรกในราคาที่ไม่สูงเกินไปนัก

++แผนงานรองรับการเติบโต
ปีที่ผ่านมาเราปรับบิสิเนสโมเดลและมีแผนต่างๆเยอะมากไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมการันตี ราคาขาย, คาร์ แมทชิ่ง เซอร์วิส, โปรแกรมตรวจสภาพรถ, การจัดไฟแนนซ์,การจัดหารถ ดังนั้นในปีนี้เราเตรียมต่อยอด ทุกแผนงานที่เราได้ทำไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยกระบวนการทั้งหมดจะต้องรวดเร็วขึ้น ยกตัวอย่าง เดิมการซื้อ-ขาย ใช้เวลา 2 อาทิตย์ ก็อาจจะปรับเป็นภายใน 7 วันให้ทุกอย่างแล้วเสร็จ ซึ่งความพร้อมของเราคือการเพิ่มบุคลากร จากในทีมที่มี 24 คน เป็น 30 คน

ขณะที่การให้บริการลูกค้า จะทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ให้อนุมัติสินเชื่อเร็วขึ้น ส่วนการทำงานกับลูกค้าก็จะอำนวยความสะดวกเรื่องการเตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อม ส่วนการตลาด-แคมเปญต่างๆยังมีให้เห็น ยกตัวอย่าง ลูกค้าที่สนใจซื้อรถมือ 2 ตอนนี้ รับดอกเบี้ยตํ่า 2.79% ต่อปีพร้อมบริการฟรี ไม่คิดค่าจัด

++รุกตลาดตจว.
เราตั้งเป้าว่าในปี 2562 จะขยายไปยังตลาดต่างจังหวัด โดยคาดว่าจะเป็นชลบุรี เพราะพื้นที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ส่วนรูปแบบที่ไปเปิดนั้นจะเป็นสเกลเล็กๆก่อน เพราะต้องเช็กฟีดแบ็กว่าลูกค้าตอบรับมากน้อยแค่ไหน

++เป้าหมาย 3หมื่นคัน
ปีที่ผ่านมาเราตั้งเป้าการขายผ่านเว็บไซต์ของเรา 800 คัน และในปีนี้เราตั้งไว้ 1,200 คัน และภายในปี 2563 เราจะทำได้ 3 หมื่นคัน ซึ่งเรายังคงยึดเป้าหมายที่เราได้วางไว้ โดยเรามั่นใจว่าจากแนวทางและแผนงานต่างๆ ที่ได้วางไว้ จะทำให้ในอนาคตเมื่อลูกค้าต้องการซื้อรถมือ 2 จะต้องคิดถึงคาร์มานา ส่วนรายได้ของเรา หากรถขายได้มากเท่าไร เราก็มีรายได้เติบโตขึ้นตาม ซึ่งรายได้ที่เกิดขึ้นนั้นเราไม่ได้มาจากลูกค้าแต่จะมาจากพาร์ตเนอร์อย่างไฟแนนซ์

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561