ธปท.จับมือ TBA หนุน SMEs ทำบัญชีเดียว 5 แบงก์ใหญ่จูงใจลดดอกเบี้ยคงที่ 5% นาน 2 ปี

07 ก.พ. 2561 | 10:16 น.
ธปท.ผนึกสมาคมธนาคารไทย กระตุ้นเอสเอ็มอีเข้าระบบบัญชีเล่มเดียว จูงใจดอกเบี้ยต่ำคงที่ 5% นาน 2 ปี พร้อมออกแนวนโยบายการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน หวังระยะยาวช่วยลดความเสี่ยงการบริหารจัดการ-ผู้ประกอบการได้ดอกเบี้ยต่ำลง ลั่นไม่กระทบการเติบโตสินเชื่อเอสเอ็มอีในระบบ

BOT_2565 นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายสถาบันเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้กำหนดแนวนโยบายการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินเพื่อรองรับมาตรการบัญชีเล่มบัญชีเล่มเดียวของภาครัฐ ภายหลังจากการที่ภาครัฐได้ออกกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs จัดทำบัญชีและงบการเงินที่สะท้อนสถานะทางการเงินอย่างโปร่งใส หรือจัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงของกิจการ ซึ่งสาระสำคัญ คือ ในการพิจารณาสินเชื่อ สถาบันการเงินต้องให้ความสำคัญกับงบการเงินที่ผู้ประกอบการใช้แสดงต่อกรมสรรพากรมากยิ่งขึ้น โดยแนวนโยบายนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมความพร้อม

ทั้งนี้ ธปท.ยืนยันว่าแนวนโยบายนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าเดิมจนกว่าจะถึงรอบการทบทวนพิจารณาวงเงิน (credit reviews) หรือการต่ออายุสัญญาเดิม ในขณะที่ลูกค้าใหม่ก็มีโอกาสได้รับสินเชื่อสอดคล้องกับศักยภาพที่แท้จริงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี กรณีลูกค้าที่ยังไม่จัดทำบัญชีเดียวในระยะยาวการประเมินค่าความเสี่ยงของลูกค้าอาจจะเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากงบการเงินไม่สะท้อนถึงสภาพข้อเท็จจริงจากการค้าขาย ทำให้ธนาคารประเมินความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสะท้อนกลับมาในเรื่องของต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นผ่านอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และวงเงินที่ได้รับอาจจะไม่ตรงกับความต้องการ แต่ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับการเติบโตสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั้งระบบแต่อย่างใด

“งบการเงินบัญชีเล่มเดียว จะเป็นการยกระดับ ธรรมาภิบาลของธุรกิจให้โปรงใสตามสภาพธุรกิจ ซึ่งการยื่นงบบัญชีเดียวที่ถูกต้อง เช่น ขาย 100 บาท ลงบัญชี 100 บาท แต่ที่ผ่านมาอาจจะมีเอสเอ็มอี ขายได้ 150 บาท แต่ลงบัญชีเพียง 100 บาท และที่เหลือ 50 บาทจดลงในเศษกระดาษ ซึ่งเวลาไปยื่นงบธนาคารเพื่อขอสินเชื่อ ธนาคารพิจารณาว่าขนาดธุรกรรมไม่สอดคล้องความเป็นจริง เพราะเมื่อนำไปเทียบธุรกิจลักษณะเดียวกันแต่ยอดขายห่างกัน ทำให้การประเมินความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ลูกค้าก็จะได้ดอกเบี้ยแพงกว่าคนที่ทำบัญชีเดียว ซึ่งหากในระยะยาวหากลูกค้าทำบัญชีเดียวดอกเบี้ยที่ได้จะถูกลง และต้นทุนการบริหารความเสี่ยงของธนาคารก็จะลดลงด้วย”

BOT_2619 นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย (TBA) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มแรงจูงใจสำหรับลูกค้าที่มีงบการเงินที่โปร่งใส สอดคล้องกับแนวนโยบายพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินรองรับมาตรการบัญชีเล่มเดียวสถาบันการเงิน สมาคมธนาคารไทยจึงมีโปรแกรมให้สถาบันการเงินลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมให้ต่ำลง โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% นาน 2 ปี ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงปกติที่คิดอยู่ MRR+2 หรือเฉลี่ยประมาณ 8% รวมทั้งจะส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในการทำบัญชีแก่ผู้ประกอบการ ซึ่งจะมีการจัดให้ความรู้แก่ลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในเดือนมีนาคมนี้

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งหมด 2.7-2.8 ล้านราย และมีการจดแจ้งเป็นนิติบุคคลประมาณ 6 แสนราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีประมาณ 4.5 แสนราย จดแจ้งการทำบัญชีเล่มเดียวแล้ว ที่เหลืออีก 1.5 แสนราย กำลังรอจดแจ้งเข้าระบบบัญชีเดียวอยู่ ส่วนลูกค้าเอสเอ็มอี 2.7-2.8 ล้านราย คาดว่าจะทยอยเข้ามาจดแจ้งทำบัญชีเดียวให้ถูกต้องมากขึ้น ซึ่งบางรายอาจจะยังไม่รู้เรื่องการลงบัญชี ดังนั้น สมาคมธนาคารไทยและธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME Bank) ร่วมจัดสัมมนาให้ความรู้กับลูกค้าในเรื่องดังกล่าวด้วย ขณะที่ฐานลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารกสิกรไทยอยู่ที่ 2.8 แสนราย เป็นนิติบุคคล 45%

“แนวทางการจัดทำบัญชีเดียว ถือเป็นแนวทางที่มีประโยชน์ เพราะการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกับข้อเท็จจริงของธุรกิจ จะทำให้การพิจารณาวงเงินสินเชื่อได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าและตามสภาพความเป็นจริง และทำให้เกิดความเสี่ยงน้อยลง และการให้ Incentive จะเป็นแรงจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาในระบบบัญชีเดียว ซึ่ง 5 ธนาคารใหญ่จะนำร่องให้ Incentive โดยแรงจูงใจที่ธนาคารทำนี้ก็เพื่ออยากให้ระบบแข็งแกร่งขึ้น” โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6