บูมอีเวนต์ใหญ่เที่ยว‘ดาษดา’ Gen 2 รุกต่อยอดธุรกิจส่งออกดอกไม้
ใกล้จะปิดฉากแล้วสำหรับการจัดเทศกาลดอกไม้แห่งปี สำหรับ “ดาษดา แกลเลอรี่ เขาใหญ่” แม็กเนตท่องเที่ยวฝั่งปราจีนบุรี ซึ่งผลตอบรับของการจัดงานนี้เป็นอย่างไร และทิศทางในการขับเคลื่อนธุรกิจนี้จะเดินหน้าอย่างไร
อ่านได้จากสัมภาษณ์ “สุวดี บุญตานนท์” ทายาท “ปวเรศ บุญตานนท์” เจ้าของ PSP Group กลุ่มธุรกิจคลังนํ้ามันและโรงผลิตนํ้ามันหล่อลื่นจาระบีรายใหญ่ของไทย และผู้ก่อตั้งดาษดา เขาใหญ่
++สเกลงานใหญ่กว่าทุกปี
ด้วยความเป็นเจเนอ-เรชัน 2 ซึ่งเข้ามานั่งดูแลการบริหารโครงการดาษดา นามบริษัทดีเอสดี ไลฟ์สไตล์โมทีฟ จำกัด เต็มตัวมาหลายปี ทำให้การจัดเทศกาลดอกไม้ในปีนี้ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2560-28 กุมภาพันธ์ 2561 ในคอนเซ็ปต์ “Once Flower Upon A Time กาลครั้งหนึ่ง...ดอกไม้” จึงยิ่งใหญ่กว่าทุกปี
เพราะไม่เพียงนำจุดเด่นของกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส หลายสายพันธุ์และมีสีสันมากที่สุด ซึ่งปลูกอยู่แล้วภายในโรงเรือนที่นี่ เพื่อส่งออกไปขายที่ญี่ปุ่น แบ่งบางส่วนมาจัดแสดงอยู่ในเรือนกระจกขนาดใหญ่เท่านั้น
ในปีนี้ทางดาษดายังได้ไปซื้อไลเซนส์โชว์ดอกคริสซาน ติมัมกว่า 50 สายพันธุ์นำเข้าจากเนเธอร์แลนด์เข้ามาปลูกในโรงเรือนที่นี่ด้วย และการจัดแสดงไฮเดรนเยีย สายพันธุ์ยักษ์ ที่เราพัฒนาพันธุ์จนมีช่อดอกขนาดใหญ่พิเศษ เส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 30-40 เซนติเมตร ปลูกและออกดอกในฤดูฝนและร้อน ได้ จากปกติที่เป็นดอกไม้ที่ออก ดอกในช่วงฤดูหนาวรวมถึงสีสันยามคํ่าคืนจากการจัดแสดงโดมไฟ อุโมงค์ไฟหลากหลายแบบ นํ้าพุเต้นระบำ ซึ่งออกแบบโดย Wet Design บริษัทออกแบบ นํ้าพุ อันดับ 1 ของโลก
++ดึงผู้เข้าชมงาน 2 แสนคน
การจัดงานในปีนี้เราตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงาน 2 แสนคน คาดว่าจะมีรายได้ราว 50-60 ล้านบาท (เฉพาะรายได้จากบัตรเข้าชมงานอย่างเดียว) ซึ่งการจัดงานแสดงดอกไม้ เดิมก็เคยคิดว่าจะจัดทุก 3 เดือนต่อปี เพื่อหวัง สร้างจุดขายตลอดทั้งปี แต่เราเห็นแล้วว่าไม่คุ้มค่าในการลงทุน เราจึงปรับทิศทางมาจัดงานเพียง 1 ครั้งต่อปี แต่จัดให้ยิ่งใหญ่เพื่อเป็นอีเวนต์ใหญ่ประจำปีเพื่อ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งการจัด งานเพียงปีละครั้ง แล้วเลี้ยงตัวเองทั้งปี ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เพราะเทียบกับทั้งปีที่ดาษดามีนักท่องเที่ยวกว่า 2.5-3 แสนคนต่อปี และจะได้มีเวลาสำหรับการเตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ในครั้งหน้า ที่คาดหวังผู้เข้าชมงานกว่า 2.5 แสนคน
ไม่เพียงการจัดแสดงดอกไม้ที่นี่เท่านั้น ดาษดา ก็ยังไปสร้างชื่อในการจัดแสดงดอก ไม้ในระดับโลกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การไปจัดแสดงดอกไม้ ที่เมืองโอกินาวา การไปร่วมงานจัดแสดงดอกไม้ที่ไต้หวัน เป็นต้น นอกจากนี้เธอยังมีแผนจะรีโนเวต “ดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซ้นส์ รีสอร์ท” ด้วย เนื่องจากเปิดให้บริการมากว่า 8 ปีแล้ว
[caption id="attachment_257053" align="aligncenter" width="503"]
สุวดี บุญตานนท์[/caption]
++รุกธุรกิจส่งออกดอกไม้
นอกจากการบริหารดาษดา แกลเลอรี่ เขาใหญ่แล้ว ล่าสุดเจน2 “สุวดี” ยังได้รับมอบหมายให้ไปดูแลธุรกิจส่งออกดอกไม้ ในนาม บริษัท ดาษดา บลอสซั่ม จำกัด ด้วย ซึ่งเธอจะเน้นการหาลูกค้าต่างประเทศเพิ่ม มากขึ้น เพื่อรองรับการขยาย แปลงปลูกดอกไม้ ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น
อย่างที่เมืองปากเซ ประ เทศลาว เราได้เช่าที่ไว้ 90 ปี เพื่อ ปลูกเยอบีร่า ดอกหน้าวัว เนื่องจากอากาศหนาวทั้งปี เน้นส่งออกไปขายประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะสร้างโรง เรือนเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่เรามีโรงเรือนอยู่แล้วที่ประเทศเวียดนาม
อีกทั้งยังมีแผนจะร่วมทุนกับไต้หวัน ในการร่วมพัฒนาฟาแลนนอปซิสสายพันธุ์ใหม่ เพื่อส่งออกไปขายประเทศญี่ปุ่นด้วย ทั้งนี้ดอกไม้ทั้งหมดที่เราปลูกเพื่อส่งออก จะถูกนำไปวางขายในตลาด ประมูลดอกไม้ (ออกชัน มาร์เก็ต) ในต่างประเทศ
ทั้งหมดล้วนเป็นทิศ ทางของดาษดา ภายใต้การบริหารของนิวเจเนอเรชันที่เกิดขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
อ่านได้จากสัมภาษณ์ “สุวดี บุญตานนท์” ทายาท “ปวเรศ บุญตานนท์” เจ้าของ PSP Group กลุ่มธุรกิจคลังนํ้ามันและโรงผลิตนํ้ามันหล่อลื่นจาระบีรายใหญ่ของไทย และผู้ก่อตั้งดาษดา เขาใหญ่
++สเกลงานใหญ่กว่าทุกปี
ด้วยความเป็นเจเนอ-เรชัน 2 ซึ่งเข้ามานั่งดูแลการบริหารโครงการดาษดา นามบริษัทดีเอสดี ไลฟ์สไตล์โมทีฟ จำกัด เต็มตัวมาหลายปี ทำให้การจัดเทศกาลดอกไม้ในปีนี้ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2560-28 กุมภาพันธ์ 2561 ในคอนเซ็ปต์ “Once Flower Upon A Time กาลครั้งหนึ่ง...ดอกไม้” จึงยิ่งใหญ่กว่าทุกปี
เพราะไม่เพียงนำจุดเด่นของกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส หลายสายพันธุ์และมีสีสันมากที่สุด ซึ่งปลูกอยู่แล้วภายในโรงเรือนที่นี่ เพื่อส่งออกไปขายที่ญี่ปุ่น แบ่งบางส่วนมาจัดแสดงอยู่ในเรือนกระจกขนาดใหญ่เท่านั้น
ในปีนี้ทางดาษดายังได้ไปซื้อไลเซนส์โชว์ดอกคริสซาน ติมัมกว่า 50 สายพันธุ์นำเข้าจากเนเธอร์แลนด์เข้ามาปลูกในโรงเรือนที่นี่ด้วย และการจัดแสดงไฮเดรนเยีย สายพันธุ์ยักษ์ ที่เราพัฒนาพันธุ์จนมีช่อดอกขนาดใหญ่พิเศษ เส้นผ่าศูนย์กลางกว้าง 30-40 เซนติเมตร ปลูกและออกดอกในฤดูฝนและร้อน ได้ จากปกติที่เป็นดอกไม้ที่ออก ดอกในช่วงฤดูหนาวรวมถึงสีสันยามคํ่าคืนจากการจัดแสดงโดมไฟ อุโมงค์ไฟหลากหลายแบบ นํ้าพุเต้นระบำ ซึ่งออกแบบโดย Wet Design บริษัทออกแบบ นํ้าพุ อันดับ 1 ของโลก
การจัดงานในปีนี้เราตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงาน 2 แสนคน คาดว่าจะมีรายได้ราว 50-60 ล้านบาท (เฉพาะรายได้จากบัตรเข้าชมงานอย่างเดียว) ซึ่งการจัดงานแสดงดอกไม้ เดิมก็เคยคิดว่าจะจัดทุก 3 เดือนต่อปี เพื่อหวัง สร้างจุดขายตลอดทั้งปี แต่เราเห็นแล้วว่าไม่คุ้มค่าในการลงทุน เราจึงปรับทิศทางมาจัดงานเพียง 1 ครั้งต่อปี แต่จัดให้ยิ่งใหญ่เพื่อเป็นอีเวนต์ใหญ่ประจำปีเพื่อ ดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งการจัด งานเพียงปีละครั้ง แล้วเลี้ยงตัวเองทั้งปี ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เพราะเทียบกับทั้งปีที่ดาษดามีนักท่องเที่ยวกว่า 2.5-3 แสนคนต่อปี และจะได้มีเวลาสำหรับการเตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ในครั้งหน้า ที่คาดหวังผู้เข้าชมงานกว่า 2.5 แสนคน
ไม่เพียงการจัดแสดงดอกไม้ที่นี่เท่านั้น ดาษดา ก็ยังไปสร้างชื่อในการจัดแสดงดอก ไม้ในระดับโลกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การไปจัดแสดงดอกไม้ ที่เมืองโอกินาวา การไปร่วมงานจัดแสดงดอกไม้ที่ไต้หวัน เป็นต้น นอกจากนี้เธอยังมีแผนจะรีโนเวต “ดาษดา เดอะ ฟลาวเวอร์ เอสเซ้นส์ รีสอร์ท” ด้วย เนื่องจากเปิดให้บริการมากว่า 8 ปีแล้ว
[caption id="attachment_257053" align="aligncenter" width="503"]
++รุกธุรกิจส่งออกดอกไม้
นอกจากการบริหารดาษดา แกลเลอรี่ เขาใหญ่แล้ว ล่าสุดเจน2 “สุวดี” ยังได้รับมอบหมายให้ไปดูแลธุรกิจส่งออกดอกไม้ ในนาม บริษัท ดาษดา บลอสซั่ม จำกัด ด้วย ซึ่งเธอจะเน้นการหาลูกค้าต่างประเทศเพิ่ม มากขึ้น เพื่อรองรับการขยาย แปลงปลูกดอกไม้ ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น
อย่างที่เมืองปากเซ ประ เทศลาว เราได้เช่าที่ไว้ 90 ปี เพื่อ ปลูกเยอบีร่า ดอกหน้าวัว เนื่องจากอากาศหนาวทั้งปี เน้นส่งออกไปขายประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะสร้างโรง เรือนเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่เรามีโรงเรือนอยู่แล้วที่ประเทศเวียดนาม
อีกทั้งยังมีแผนจะร่วมทุนกับไต้หวัน ในการร่วมพัฒนาฟาแลนนอปซิสสายพันธุ์ใหม่ เพื่อส่งออกไปขายประเทศญี่ปุ่นด้วย ทั้งนี้ดอกไม้ทั้งหมดที่เราปลูกเพื่อส่งออก จะถูกนำไปวางขายในตลาด ประมูลดอกไม้ (ออกชัน มาร์เก็ต) ในต่างประเทศ
ทั้งหมดล้วนเป็นทิศ ทางของดาษดา ภายใต้การบริหารของนิวเจเนอเรชันที่เกิดขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
