กองทุนลั่นจังหวะดี‘ช้อนหุ้น’ เมินดัชนีทั่วโลกทรุด-ยืนยันไม่ลดน้ำหนักลงทุน

09 ก.พ. 2561 | 08:17 น.
บลจ.ไม่หวั่นตลาดหุ้นทั่วโลกทรุด ยืนนํ้าหนักลงทุนเท่าเดิม พร้อมหาจังหวะเก็บเพิ่ม ชี้ตราสารหนี้ระยะสั้นยังน่าสนใจ

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัดเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การปรับตัวลงแรงของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดหุ้นในเอเชีย เป็นสิ่งที่บริษัทคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่า ตลาดหุ้นจะมีการปรับฐานในช่วงครึ่งแรกของปี เพราะทุกตลาดตึงตัวมากบริษัทจึงไม่ได้เปลี่ยนแนวโน้มการลงทุน หรือเปลี่ยนนํ้าหนักการลงทุนแต่อย่างใดแต่การที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลงก็อาจจะเป็นจังหวะในการเข้าซื้อเพิ่มได้

[caption id="attachment_257026" align="aligncenter" width="503"] ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย[/caption]

อย่างไรก็ตามหากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)พิจารณารวดเร็วขึ้นก็จะอาจจะกระทบต่อหุ้น แต่ก็เชื่อว่าเฟด คงใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนที่จะประมวลสถานการณ์

“กลยุทธ์การลงทุนของบลจ.เองก็จะมีความหลากหลาย อย่างถ้ากังวลว่าหุ้นราคาแพง ไทยพาณิชย์ จะโฟกัสไปที่ผลประกอบการในปี 2561-2562 โดยบริษัทที่เราลงทุนจะคาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรไว้ที่ 15-20% ซึ่งเราค่อนข้างชื่นชอบการลงทุนในหุ้น ดังนั้นเมื่อดัชนีปรับตัวลงจึงเป็นจังหวะที่จะเข้าไปลงทุนได้เช่นกัน”

สำหรับตลาดตราสารหนี้เอง อัตราผลตอบแทน (yield) ปรับตัวขึ้นมานานพอสมควรแล้ว ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรจะปรับขึ้นบ้างก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกใจ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในธนาคารพาณิชย์น่าจะยังทรงตัวได้จากสภาพคล่องส่วนเกินที่ยังมีมาก การลงทุนในพันธบัตรระยะยาวจึงยังน่าหลีกเลี่ยงและระมัดระวัง

“การลงทุนในพันธบัตรระยะสั้น ยังมีจังหวะที่จะเข้าไปลงทุนได้ ซึ่งตัวบริษัทเองก็เน้นการลงทุนพันธบัตรระยะสั้น อายุไม่เกิน 2 ปีมาเป็นปีแล้ว ปัจจุบันมีสัดส่วน 80-90%”

[caption id="attachment_257025" align="aligncenter" width="335"] ชวินดา หาญรัตนกูล ชวินดา หาญรัตนกูล[/caption]

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จก. (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนในปีนี้ ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนได้แก่ สภาพคล่องในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับตํ่า ในขณะที่สินทรัพย์เพื่อการลงทุนอื่น ให้ผลตอบแทนตํ่าเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง

“ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้น น่าจะมีความผันผวนมากกว่าปีที่ผ่านมา หลังจากที่ตลาดหุ้นสำคัญๆ มีการปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระยะสั้นก็อาจมีการปรับฐานหรือเกิดแรงขายทำกำไรดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในปีนี้ก็คงต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นแต่การปรับตัวลงแรงก็จะเป็นจังหวะเข้าลงทุน”

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ไทย คาดว่าอัตราผลตอบแทนมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มเศรษฐกิจรวมถึงทิศทางดอกเบี้ยโลก ท่ามกลางความผันผวนของการไหลเข้าออกของเงินลงทุนต่างชาติ

“กลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้จะเน้นการวางพอร์ตให้มีการกระจายนํ้าหนักไปในตราสารแต่ละช่วงอายุให้มีอายุเฉลี่ยของพอร์ตอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับแนวโน้มตลาดในแต่ละช่วง”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว