แบงก์บล็อกทุกทาง ซื้อขาย‘เงินดิจิตอล’
แบงก์พาณิชย์รับไม้ทางการไม่ปล่อยกู้ลงทุนเงินดิจิตอลทุกทาง “กรุงศรี-ธนชาต” ยันยังไม่พบพฤติกรรมใช้บัตรเครดิตชำระราคา ยันระบบพร้อมสกัดทุกธุรกรรม-บล็อกเว็บไซต์ที่ต้องสงสัยได้ทันที บิตคอยน์ร่วงหนักแตะ 6,140 ดอลลาร์
สถานการณ์ล่าสุด 3 ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อาทิ เจพีมอร์แกน และลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป และธนาคารในเครือแห่งสหราชอาณาจักร ประกาศไม่รับบัตรเครดิตจากลูกค้าในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสกุลเงินดิจิตอลทุกชนิด หลังจากราคาเงินดิจิตอลดิ่งอย่างหนักในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
มูลค่าตลาดสกุลเงินดิจิตอลเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ลดลงกว่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาที่ 3.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ราคาบิตคอยน์ผันผวนหนัก และนักลงทุนเทขายหุ้นดาวโจนส์เอาเงินมาปิดขาดทุนบิตคอยน์ และเมื่อเวลา 15.36 น. ของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาบิตคอยน์ซื้อขายที่ 6,140 ดอลลาร์ ลดลง 773 ดอลลาร์ หรือ 11%
[caption id="attachment_118061" align="aligncenter" width="503"]
ฐากร ปิยะพันธ์[/caption]
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่กรุงศรี คอนซูเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิตอล แบงกิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธนาคารยังไม่พบธุรกรรมผิดปกติจากการใช้บัตรเครดิตซื้อหรือลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล ประกอบกับไทยมีการกำกับดูแลเรื่องการเก็งกำไรค่าเงิน ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กรุงศรีฯ ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีธุรกรรมที่น่าสงสัย หรือมีเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการลงทุนในลักษณะเก็งกำไร ซึ่งผิดวัตถุประสงค์การใช้บัตรเครดิต จะดำเนินการบล็อกเว็บไซต์เพื่อไม่ให้สามารถทำธุรกรรมได้ทันที
อย่างไรก็ตามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เว็บไซต์ต่างๆ มีการพัฒนาต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลเข้ามาเป็นที่นิยม และมีการเกี่ยวโยงไปยังธุรกรรมแชร์ลูกโซ่ กรุงศรีฯ จึงได้มีการติดตามและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้การใช้บัตรเครดิตผิดไปจากวัตถุประสงค์
“ในอดีตหากเราพบว่ามีเว็บไซต์ที่ต้องสงสัยจะเป็นการเก็งกำไรค่าเงิน หรือผิดไปจากธุรกรรมการใช้บัตรเครดิต หรือกรณีลูกค้า reverse transaction บอกว่าได้ของไม่ตรง แต่กลับพบว่ายังสั่งของกับเว็บนี้อีกหลายครั้ง ซึ่งถือเป็นธุรกรรมน่าสงสัยอันนี้เราก็อาจตรวจสอบและบล็อกทันที ซึ่งเรื่องนี้ทำมาสัก 2-3 ปีแล้ว ปัจจุบันเราก็ยังมอนิเตอร์ตลอดเวลาเรายังไม่พบการซื้อหรือลงทุนสกุลเงินดิจิตอลผ่านการทำธุรกรรมด้วยบัตรเครดิต เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการโอนเงินตัดบัญชีมากกว่าการใช้บัตรเครดิต”
[caption id="attachment_136230" align="aligncenter" width="503"]
ธีรนุช ขุมทรัพย์[/caption]
นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ตอนนี้ธนาคารยังไม่พบธุรกรรมการใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้อหรือลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล อย่างไรก็ตามธนาคารธนชาตมีระบบที่เรียกว่า Monitoring ระบบติดตามและตรวจสอบธุรกรรมที่ต้องสงสัยหรือผิดปกติอยู่แล้ว ซึ่งหากมีการทำธุรกรรมที่น่าสงสัย เช่น ใช้บัตรเครดิตในพื้นที่สุ่มเสี่ยง หรือใช้ในร้านค้าแห่งเดียวกันแต่มีปริมาณจำนวนรายการค่อนข้างมาก หรือใช้ในร้านค้าบิตคอยน์ออนไลน์ เป็นต้น
หากระบบตรวจสอบเจอหรือเกิดธุรกรรมน่าสงสัยเหล่านี้ระบบจะมีการสกัด
[caption id="attachment_211872" align="aligncenter" width="295"]
ผกาฉัตร เตชาบูรพานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย FIRST และผู้บริหารสาย PRIME ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)[/caption]
นางสาวผกาฉัตร เตชาบูรพานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย FIRST และผู้บริหารสาย PRIME ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันในไทยมีนายหน้าซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลผ่านเว็บไซต์ที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีอยู่ 2 ราย แต่เว็บไซต์ดังกล่าวไม่ได้เปิดให้มีการใช้บัตรเครดิตในการซื้อขายและลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล โดยยังเป็นการทำธุรกรรมโอนเงินผ่านบัญชีเท่านั้น หากดูธุรกรรมเบื้องต้นของธนาคารไทยพาณิชย์ปัจจุบันยังไม่พบธุรกรรมการใช้บัตรเครดิตในการซื้อหรือลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลแต่อย่างใด
ธนาคารยังติดตามดูแลเว็บไซต์ที่เข้าข่ายเล่นการพนันด้วย หากพบว่ามี Merchant Code ร้านค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวด Gaming ที่เข้าข่ายพนันธนาคารจะดำเนินการบล็อกและไม่เปิดให้สามารถทำธุรกรรมทันที แต่ในส่วนของการซื้อและลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลยังไม่พบชัดเจน แต่ธนาคารได้เฝ้าติดตาม รวมถึงรอดูแนวนโยบายจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะมีนโยบายออกมาอย่างไร ซึ่งธนาคารก็พร้อมจะปฏิบัติตาม
“เมืองไทยยังไม่มีกฎหมายควบคุมว่าห้ามซื้อขายในรูปแบบใด ซึ่งเราก็ดูแลอยู่ให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของธปท. และในบาง Transaction ที่เกี่ยวกับการพนัน ซื้อหวยออนไลน์ เราก็บล็อกเว็บไซต์เหล่านี้ด้วย และคอยมอนิเตอร์เพื่อป้องกันตลอดเวลา”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
สถานการณ์ล่าสุด 3 ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อาทิ เจพีมอร์แกน และลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป และธนาคารในเครือแห่งสหราชอาณาจักร ประกาศไม่รับบัตรเครดิตจากลูกค้าในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสกุลเงินดิจิตอลทุกชนิด หลังจากราคาเงินดิจิตอลดิ่งอย่างหนักในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
มูลค่าตลาดสกุลเงินดิจิตอลเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ลดลงกว่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาที่ 3.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ราคาบิตคอยน์ผันผวนหนัก และนักลงทุนเทขายหุ้นดาวโจนส์เอาเงินมาปิดขาดทุนบิตคอยน์ และเมื่อเวลา 15.36 น. ของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 ราคาบิตคอยน์ซื้อขายที่ 6,140 ดอลลาร์ ลดลง 773 ดอลลาร์ หรือ 11%
[caption id="attachment_118061" align="aligncenter" width="503"]
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่กรุงศรี คอนซูเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิตอล แบงกิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธนาคารยังไม่พบธุรกรรมผิดปกติจากการใช้บัตรเครดิตซื้อหรือลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล ประกอบกับไทยมีการกำกับดูแลเรื่องการเก็งกำไรค่าเงิน ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กรุงศรีฯ ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีธุรกรรมที่น่าสงสัย หรือมีเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการลงทุนในลักษณะเก็งกำไร ซึ่งผิดวัตถุประสงค์การใช้บัตรเครดิต จะดำเนินการบล็อกเว็บไซต์เพื่อไม่ให้สามารถทำธุรกรรมได้ทันที
อย่างไรก็ตามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เว็บไซต์ต่างๆ มีการพัฒนาต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลเข้ามาเป็นที่นิยม และมีการเกี่ยวโยงไปยังธุรกรรมแชร์ลูกโซ่ กรุงศรีฯ จึงได้มีการติดตามและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้การใช้บัตรเครดิตผิดไปจากวัตถุประสงค์
“ในอดีตหากเราพบว่ามีเว็บไซต์ที่ต้องสงสัยจะเป็นการเก็งกำไรค่าเงิน หรือผิดไปจากธุรกรรมการใช้บัตรเครดิต หรือกรณีลูกค้า reverse transaction บอกว่าได้ของไม่ตรง แต่กลับพบว่ายังสั่งของกับเว็บนี้อีกหลายครั้ง ซึ่งถือเป็นธุรกรรมน่าสงสัยอันนี้เราก็อาจตรวจสอบและบล็อกทันที ซึ่งเรื่องนี้ทำมาสัก 2-3 ปีแล้ว ปัจจุบันเราก็ยังมอนิเตอร์ตลอดเวลาเรายังไม่พบการซื้อหรือลงทุนสกุลเงินดิจิตอลผ่านการทำธุรกรรมด้วยบัตรเครดิต เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการโอนเงินตัดบัญชีมากกว่าการใช้บัตรเครดิต”
[caption id="attachment_136230" align="aligncenter" width="503"]
นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ตอนนี้ธนาคารยังไม่พบธุรกรรมการใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้อหรือลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล อย่างไรก็ตามธนาคารธนชาตมีระบบที่เรียกว่า Monitoring ระบบติดตามและตรวจสอบธุรกรรมที่ต้องสงสัยหรือผิดปกติอยู่แล้ว ซึ่งหากมีการทำธุรกรรมที่น่าสงสัย เช่น ใช้บัตรเครดิตในพื้นที่สุ่มเสี่ยง หรือใช้ในร้านค้าแห่งเดียวกันแต่มีปริมาณจำนวนรายการค่อนข้างมาก หรือใช้ในร้านค้าบิตคอยน์ออนไลน์ เป็นต้น
หากระบบตรวจสอบเจอหรือเกิดธุรกรรมน่าสงสัยเหล่านี้ระบบจะมีการสกัด
[caption id="attachment_211872" align="aligncenter" width="295"]
นางสาวผกาฉัตร เตชาบูรพานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย FIRST และผู้บริหารสาย PRIME ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันในไทยมีนายหน้าซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลผ่านเว็บไซต์ที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีอยู่ 2 ราย แต่เว็บไซต์ดังกล่าวไม่ได้เปิดให้มีการใช้บัตรเครดิตในการซื้อขายและลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล โดยยังเป็นการทำธุรกรรมโอนเงินผ่านบัญชีเท่านั้น หากดูธุรกรรมเบื้องต้นของธนาคารไทยพาณิชย์ปัจจุบันยังไม่พบธุรกรรมการใช้บัตรเครดิตในการซื้อหรือลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลแต่อย่างใด
ธนาคารยังติดตามดูแลเว็บไซต์ที่เข้าข่ายเล่นการพนันด้วย หากพบว่ามี Merchant Code ร้านค้าที่ถูกจัดอยู่ในหมวด Gaming ที่เข้าข่ายพนันธนาคารจะดำเนินการบล็อกและไม่เปิดให้สามารถทำธุรกรรมทันที แต่ในส่วนของการซื้อและลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลยังไม่พบชัดเจน แต่ธนาคารได้เฝ้าติดตาม รวมถึงรอดูแนวนโยบายจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าจะมีนโยบายออกมาอย่างไร ซึ่งธนาคารก็พร้อมจะปฏิบัติตาม
“เมืองไทยยังไม่มีกฎหมายควบคุมว่าห้ามซื้อขายในรูปแบบใด ซึ่งเราก็ดูแลอยู่ให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของธปท. และในบาง Transaction ที่เกี่ยวกับการพนัน ซื้อหวยออนไลน์ เราก็บล็อกเว็บไซต์เหล่านี้ด้วย และคอยมอนิเตอร์เพื่อป้องกันตลอดเวลา”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
