บิตคอยน์จะกลับมา 20,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่?

08 ก.พ. 2561 | 23:05 น.
TP10-3338-3B ผ่านปี 2018 มาได้เดือนนิดๆ “บิตคอยน์” สกุลเงินดิจิตอลยอดนิยม ก็กลายเป็นประเด็นให้ทั่วโลกจับตากันแบบไม่กะพริบครับ จากราคาสูงสุดที่ 19,850 ดอลลาร์ต่อ 1 บิตคอยน์ แต่ขณะที่ผมเขียนอยู่นี้ ราคาร่วงลงไปอยู่ระหว่าง 7,000-8,000 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์กันแล้ว

ดังนั้น คำถามสำคัญก็คือ เกิดอะไรขึ้นในเดือนมกราคม ที่น่าจะเป็นเดือนที่เลวร้ายที่สุดของบิตคอยน์ และบิตคอยน์จะสามารถพลิกกลับไปแตะที่ระดับเกือบๆ 2 หมื่นดอลลาร์ได้เหมือนเดิมหรือไม่ คำถามเหล่านี้น่าสนใจครับ

ในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว มูลค่าตลาดของบิตคอยน์หายวูบไปถึง 44,200 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าตลาดโดยรวมที่ 200,000 ล้านดอลลาร์ แน่นอนว่า ปัจจัยที่ฉุดบิตคอยน์ลงมากขนาดนี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่ภาครัฐในหลายๆประเทศเริ่มเข้ามาควบคุมบิตคอยน์กันมากขึ้น ด้วยความหวาดกลัวว่าบิตคอยน์จะถูกใช้เป็นช่องทางของกลุ่มอาชญากรรม และการฟอกเงิน

ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ไม่ว่าจะ “บล็อกเชน” หรือ “บิตคอยน์” นั้น ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้แนวปรัชญาที่ว่า ต้องการให้เป็นระบบที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของภาครัฐ และเป็นระบบที่อยู่เหนืออิทธิพลของธนาคาร ดังนั้นมูลค่าของบิตคอยน์ จะไม่ถูกแทรกแซงจากภาคการเมือง หรือจากธนาคารกลาง แต่ราคาจะเป็นไปตามกลไกตลาดอย่างแท้จริง

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ได้ทำให้บิตคอยน์ถูกใช้เป็นช่องทางส่งเงินของกลุ่มอาชญากรและกลุ่มมาเฟียในญี่ปุ่นในช่วงเริ่มแรกของการใช้ แม้จนถึงขณะนี้ บิตคอยน์ก็ยังถูกใช้โดยกลุ่มเหล่านี้อยู่ และนี่ก็คือข้อเสียของบิตคอยน์

TP10-3338-1B ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เกาหลีใต้ ได้มีความพยายามควบคุมบิตคอยน์อย่างหนัก แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งห้ามการซื้อขายบิตคอยน์ออกมา แต่ก็ได้ออกกฎระเบียบใหม่ซึ่งก็คือ ผู้ทำการซื้อขายบิตคอยน์ จะต้องใช้ชื่อจริง นามสกุลจริงในการเปิดบัญชี จะใช้เพียงบัญชีนิรนามเหมือนเดิมไม่ได้ นั่นหมายความว่า การซื้อขายบิตคอยน์ในเกาหลีใต้จะไม่เป็นความลับอีกต่อไปว่าใครเป็นผู้เล่น

นอกจากนั้นแล้ว ที่อินเดีย ทางด้านรัฐมนตรีคลัง ก็ได้แย้มว่าอาจจะห้ามการใช้สกุลเงินดิจิตอล ทุกสกุลในการชำระในระบบการเงินของประเทศ โดยให้เหตุผลว่า เงินสกุลเหล่านี้ถูกใช้ไปในทางมิชอบ เช่นโดยกลุ่มอาชญากรรม และมาเฟีย เป็นต้น ในเวลาไล่เลี่ยกัน เว็บไซต์ Bitfinex ซึ่งเป็นเว็บไซต์แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอล ก็ถูกทางการสหรัฐอเมริกาเรียกตรวจสอบ เพราะต้องสงสัยว่าจะมีการปั่นราคาบิตคอยน์ และสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ

เหตุการณ์เหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลจากภาครัฐของประเทศต่างๆ ที่เริ่มจะเข้ามาควบคุมบิตคอยน์มากขี้น แม้ว่าสกุลเงินดิจิตอลสกุลนี้ จะได้รับความนิยมมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงขนาดที่ในบางบริษัทในบางประเทศเริ่มจ่ายเงินเดือนกันด้วยบิตคอยน์แล้ว แม้กระทั่งในวงการกีฬา อย่างเช่น ทีมฟุตบอลในตุรกีที่มีชื่อว่า “ฮารูนัสสตาปอร์” ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จะจ่ายเงินบางส่วนให้แก่นักเตะด้วยบิตคอยน์!

สิ่งที่เห็นได้ชัดขณะนี้ก็คือ ความนิยมในบิตคอยน์ กำลัง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปพร้อมๆกับความวิตกกังวลจากภาครัฐ ซึ่งหลังจากนี้ เราน่าจะได้เห็นการเข้ามาควบคุมบิตคอยน์มากขึ้นในหลายๆ ประเทศครับ

นอกจากนั้น ผลจากที่มีการเปิดการซื้อขายบิตคอยน์ ในตลาดล่วงหน้าที่ชิคาโก (CBOE) แล้ว และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดแนสแดคในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งก็คาดว่าจะทำให้นักลงทุนรายใหญ่ รวมไปถึงเฮดจ์ฟันด์ กระโดดเข้ามาลงทุนในบิตคอยน์มากขึ้นกว่าเดิม และน่าจะทำให้ราคา ผันผวนมากขึ้นกว่านี้อีกด้วย

และต่อคำถามสำคัญที่ว่า บิตคอยน์จะกลับไปแตะ 20,000 ได้อีกครั้งหรือไม่? ก็ต้องรอจนกว่าพายุที่ก่อตัวจากการเข้าไปควบคุมของภาครัฐจะสงบลงเมื่อไหร่ แต่ละประเทศจะมีมาตรการที่เข้มข้นมากขนาดไหน เมื่อนั้นถึงจะทราบทิศทางที่แน่ชัดของบิตคอยน์อีกครั้งครับ

และก็ต้องไม่ลืม ว่าเมื่อรายใหญ่เข้ามาเล่นในตลาดฟิวเจอร์แล้ว ราคาก็น่าจะเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงได้อย่างหนักๆ เช่นกันครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,338 วันที่ 8 - 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว