ครม. ลุยบูมจันท์! 'มหาอำนาจผลไม้'

05 ก.พ. 2561 | 04:12 น.
เปิดไฮไลต์ ประชุมครม.สัญจร เมืองจันท์ รัฐ-เอกชนผนึกบูมไทยเป็นมหาอำนาจผลไม้เมืองร้อนของโลก เซ็น MOU 2 ฉบับขยายตลาด 8 จังหวัดเชื่อมจีน-กัมพูชา หอฯจันท์ เล็งเพิ่มมูลค่าการค้าผลไม้ภาคตะวันออกเป็น 2 แสนล้านใน 5 ปี

ในการเดินทางไปตรวจราชการ จ.ตราด และจันทบุรี และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2561 ณ จ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 5-6 ก.พ. นี้ ไฮไลต์สำคัญนอกจากนายกรัฐมนตรีจะได้พบปะกับประชาชนการเยี่ยมชมจุดท่องเที่ยว และรับฟังปัญหาและข้อเสนอการพัฒนาในพื้นที่แล้ว ไฮไลต์สำคัญในวันที่ 5 ก.พ. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออก (Working Dinner) ณ โรงแรมมณีจันท์ รีสอร์ท จ.จันทบุรี และในวันที่ 6 ก.พ. เป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี


P1-3337-a

นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกหอการค้าไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในการประชุมพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกร่วมกับนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ภาคเอกชนในพื้นที่ได้เตรียมนำเสนอหลายโครงการ โดยเน้นโครงการด้านยกระดับคุณภาพชีวิต ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการเกษตร ด้านการท่องเที่ยว และด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ใน 8 จังหวัดภาคตะวันออก (จันทบุรี ระยองชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด สระแก้วปราจีนบุรี นครนายก)

ทั้งนี้ โครงการที่จะนำเสนอส่วนหนึ่งเพื่อของบประมาณสนับสนุน ซึ่งจะมีทั้งเพื่อการศึกษาออกแบบ การปรับปรุงซ่อมแซมและเพื่อดำเนินการ ที่สำคัญได้แก่ โครงการบ่อบำบัดนํ้าเสียที่ อ.ปลวกแดง และอ.เมือง จ.ระยอง ที่ศึกษาเสร็จแล้ว จะใช้งบดำเนินการราว 2,200 ล้านบาท, การขยายโรงพยาบาลปลวกแดงจากขนาด 30 เป็น 120 เตียง และการขยายกำลังบุคลากรของโรงพยาบาลมาบตาพุด, การขยายเส้นทาง “เฉลิมบูรพาชลทิต” จาก อ.แกลง ไปยังสนามบินอู่ตะเภา โดยจะของบศึกษาออกแบบ 100 ล้านบาท, การศึกษาระบบขนส่งมวลชนภายในเมืองชลบุรี และพัทยา, การศึกษารถไฟทางคู่เชื่อมระยอง-จันทบุรี-ตราด, การพัฒนาเกาะช้างเพื่อรับนักท่องเที่ยว เป็นต้น

“โครงการที่จะนำเสนอในครั้งนี้มีหลายโครงการ ที่กล่าวมาส่วนใหญ่เป็นโครงการเพื่อพัฒนาด้านคุณภาพชีวิตและสังคมของคนในพื้นที่เป็นหลัก ไม่ได้เน้นตอบสนองการลงทุนในอีอีซีที่มีคณะกรรมการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลใกล้ชิดอยู่แล้ว ขณะที่อีกไฮไลต์หนึ่ง คือ การลงนามความร่วมมือ 2 ฉบับ เพื่อผลักดันประเทศไทยเป็นมหาอำนาจผลไม้เมืองร้อนของโลก ทั้งนี้ ในทุกโครงการรวมกันคาดต้องใช้งบศึกษา ออกแบบ และเพื่อดำเนินการในเบื้องต้นระหว่าง 5 พันล้าน-1 หมื่นล้านบาท”


560000004914905

ลงนาม MOU 2 ฉบับ

สอดคล้องกับ นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ที่เผยว่า ในวันที่ 6 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) 2 ฉบับ เพื่อผลักดันประเทศไทยเป็นมหานคร และมหาอำนาจด้านผลไม้เมืองร้อนของโลก ณ สหกรณ์การเกษตรมะขาม จำกัด จ.จันทบุรี โดยฉบับที่ 1 เป็นเอ็มโอยูความร่วมมือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา และฉบับที่ 2 เอ็มโอยูความร่วมมือเชื่อมโยงตลาดผลไม้ในประเทศระหว่างหอการค้าในจังหวัดแหล่งผลิต กับหอการค้าซึ่งเป็นแหล่งบริโภคและแหล่งรับซื้อสำคัญทั้งในและต่างประเทศ (เอ็มโอยูระหว่างหอการค้า 8 จังหวัดได้แก่ จันทบุรี ระยอง ตราด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราชเชียงใหม่ ศรีสะเกษ และประธานหอการค้าผิงเสียง จากจีน และประธานหอการค้าไพลิน จากกัมพูชา)

นายจอมศักดิ์ ภูติรัตน์ ประธานหอการค้า จ.จันทบุรี กล่าวว่า ยุทธศาสตร์มหานครผลไม้โลกมีจุดเริ่มต้นที่จันทบุรี ซึ่งจากนี้จะขยายเครือข่ายเชื่อมโยงการผลิตสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในครั้งนี้จะของบสนับสนุนด้านการจัดตั้งแล็บมาตรฐานตรวจสอบคุณภาพสินค้าและออกใบรับรองที่มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี (ของบ 60 ล้านบาท) นอกจากนี้จะขอการสนับสนุนการจัดตั้ง FruitComplex บนที่ดินของ อบจ.จันทบุรี ทั้งเพื่อใช้เป็นตลาดกลางซื้อขายผลไม้ ศูนย์บริหารจัดการข้อมูลด้านการผลิตและการตลาดศูนยเรียนรู้สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าด้วยนวัตกรรม รวมถึงใช้เป็นที่จัดอีเวนต์ และบิสิเนสแมตชิ่งกับผู้ค้าทั้งในและต่างประเทศ


846385-img-1421972636-3

มูลค่าการค้าผลไม้พุ่งเท่าตัว

ทั้งนี้ ตามยุทธศาสตร์มหานครผลไม้โลกได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าผลไม้ของภาคตะวันออกจากในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 9 หมื่นล้านบาท-1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นอีก 1 เท่าตัว หรือ 2 แสนล้านบาท ใน 5 ปี (2564) นอกจากนี้จะขอการสนับสนุนเรื่องแล็บมาตรฐาน เรื่องการตลาดและระบบศูนย์ข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการเพื่อผลักดันจันทบุรีเป็นมหานครอัญมณีด้วย

ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เผยว่า ในการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้กระทรวงจะนำเสนอแผนยุทธศาสตร์มหานครผลไม้ที่ได้จัดทำรายละเอียดเสร็จเรียบร้อยแล้วเสนอต่อที่ประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบ โดยแผนยุทธศาสตร์มหานครผลไม้โลกจะเป็นยุทธศาสตร์หลักของประเทศในการยกระดับผลไม้สำคัญของไทยได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด จากแหล่งปลูกไปจนถึงมือผู้บริโภคให้ได้มาตรฐานสากลยิ่งขึ้น โดยจะมีแผนทั้งระยะสั้นไปจนถึงระยะยาวในการกำกับดูแล เพื่อให้สินค้าผลไม้ทั้ง 3 ชนิดสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งตลาดในและต่างประเทศ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,337 วันที่ 4 - 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว