SME Bank ลุยยกระดับคนตัวเล็กภาคต.อ.ต่อยอดศก.ชุมชนเชื่อมEEC

04 ก.พ. 2561 | 06:06 น.
SME Development Bank ลุยพัฒนาเพิ่มความเข้มแข็งคนตัวเล็กในพื้นที่ชุมชนภาคตะวันออก สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจระดับชุมชนเชื่อมโยงรับประโยชน์ EEC เสริมแกร่งนำเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าแปรรูปผลไม้และอาหารทะเล ต่อยอดปั้นธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 15,270 ล้านบาท

 

sme

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือSME Development Bank) เผยว่า ธนาคารมีแผนยกระดับสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยระดับชุมชนทั่วประเทศ หรือ “จุลเอสเอ็มอี”สอดคล้องกับ 9 มาตรการยกระดับเอสเอ็มอีไทยของกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมเสริมมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อต่อยอดธุรกิจเติบโตยั่งยืน โดยภาคตะวันออกมีศักยภาพที่จะยกระดับเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ในช่วงปีที่ผ่านมา ธนาคารจึงได้ลงพื้นที่พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการตัวเล็กในชุมชนท่องเที่ยวภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง เช่นชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราดและชุมชนไร้แผ่นดิน จังหวัดจันทบุรี จนก้าวสู่แหล่งท่องเที่ยวและพัฒนาการผลิตสินค้าชุมชนที่มีมาตรฐาน เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

sme3

สำหรับปี2561 ธนาคารจะขยายการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนภาคตะวันออกหรือ ELE (Eastern Local Economy) โดยเฉพาะโครงการพัฒนาผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor) ที่เชื่อมโยงตั้งแต่เกษตรกรสวนผลไม้ ผู้รวบรวมผลไม้ ผู้แปรรูป โรงงานแปรรูป ผู้ค้าปลีกค้าส่ง ผู้ส่งออก รวมทั้งห้องเย็นขนาดเล็ก(Cold Storage)ในแหล่งผลิต และเชื่อมต่อไปยังห้องเย็นขนาดใหญ่ (Public Cold Storage) ที่มีโครงการจะลงทุนในพื้นที่มาบตาพุดซึ่งเป็นศูนย์กลาง EEC (Eastern Economic Corridor)เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจผลไม้ครบวงจรตลอดจนเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ธนาคารได้ลงพื้นที่และศึกษาพัฒนาในพื้นที่ 5 ชุมชน 3 จังหวัดประกอบด้วย

 

1.ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง 2.ชุมชนทุ่งเพล จ.จันทบุรี 3.ชุมชนเกาะกูด 4.ชุมชนเกาะช้าง และ 5.ชุมชนเกาะหมาก จ.ตราด โดยทั้ง 5 ชุมชนรวมกันจำนวน 5,799 ครัวเรือนประชากรรวมกันทั้งสิ้น จำนวน 16,300 คน เมื่อผ่านการพัฒนายกระดับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นด้านพัฒนาสินค้าชุมชน และพัฒนาสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชนแล้ว คาดจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ชุมชนไม่ต่ำกว่า 15,270 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึง ราคาค่าที่พักปรับสูงขึ้น และเกิดการซื้อสินค้าที่ระลึกมากขึ้นด้วย

sme2

“เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาธนาคารนำร่องพัฒนาพื้นที่ 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ชุมชนไร้แผ่นดิน และชุมชนท่าระแนะ เริ่มตั้งแต่หาข้อมูล ศึกษาเศรษฐกิจชุมชน ร่วมประชุมกับผู้นำชุมชนและคนในชุมชน สอบถามความต้องการ สำรวจผู้ประกอบการในชุมชนว่ายังขาดเรื่องใดเกี่ยวกับการทำธุรกิจบ้างพบว่า ผู้ประกอบการคนตัวเล็กในชุมชนไม่มีการจัดทำบัญชี และขาดความรู้ด้านภาษี ทำให้กิจการไม่ราบรื่น ขาดเงินทุนหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง เมื่อธนาคารเข้าถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว จึงได้จัดกิจกรรมพัฒนาที่ตรงความต้องการของชุมชน เช่น ฝึกอบรมการทำบัญชีอย่างเป็นระบบ ให้ความรู้ด้านภาษีแก่ชุมชน เป็นต้น จนทำให้ผู้ประกอบตัวเล็กในชุมชนมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น” นายมงคล กล่าว

728x90-03

ส่วนการพัฒนาในด้านอื่น ๆ นั้น ธนาคารจะศึกษาว่าแต่ละชุมชนยังมีจุดอ่อนด้านใดบ้าง จากนั้นเข้าไปเสริมแกร่งให้ตรงจุดที่ผ่านมาช่วยเหลือชุมชนยกระดับโฮมสเตย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ในส่วนการผลิตสินค้าบางชุมชนมีสินค้าขึ้นชื่อที่มีเอกลักษณ์ตัวเอง ตลาดมีความต้องการสูง แต่มีขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน จึงเป็นข้อจำกัดด้านการตลาดเช่น ข้าวเกรียบยาหน้า ของชุมชนน้ำเชี่ยว จ.ตราด ธนาคารได้นำผู้เชี่ยวชาญเข้าไปคิดระบบรวมถึงพัฒนาเครื่องจักรช่วยการผลิตได้รวดเร็วขึ้นเป็นต้นนอกจากนั้น ช่วยยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่มาตรฐาน อย. ซึ่งจากการดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนมากขึ้นจากรายได้ 10,000บาทต่อเดือนในปี 2559 เพิ่มเป็น 20,000บาทต่อเดือนในปี 2560 เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมาเยือนในชุมชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

sme1

นายมงคล กล่าวต่อว่า เป้าหมายการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวปี 2561 นี้ค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากธนาคารต้องพัฒนาศักยภาพชุมชน ให้สามารถรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจชุมชนภาคตะวันออกให้ได้ โดยยึดหลักให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาและเมื่อชุมชนใดเข้มแข็งแล้ว หากต้องการเงินทุนเพื่อต่อยอดขยายธุรกิจ ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) วงเงิน 50,000 ล้านบาท มุ่งช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว ท่องเที่ยวชุมชน และเกษตรแปรรูป วงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท 3 ปีแรก คิดอัตราดอกเบี้ย 3%ต่อปี ฟรีค่าธรรมเนียมบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) 4 ปีแรก เพื่อยกระดับมาตรฐานท่องเที่ยวชุมชนสามารถรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9