ซีรีส์อินเดียชิงเรตติ้งไพรม์ไทม์ เจเคเอ็นขน 20 เรื่องใหม่ป้อนช่องทีวีดิจิตอลดันรายได้โต15%

08 ก.พ. 2561 | 06:49 น.
ซีรีส์อินเดีย ลงจอทีวีดิจิตอล กวาดเรตติ้งช่วงไพรม์ไทม์ แซงละครไทย-วาไรตี เจเคเอ็น ทุ่มงบซื้อเพิ่มอีกกว่า 20 เรื่องป้อนพันธมิตร ทั้งหน้าเก่า-ใหม่ ช่อง 8 คว้าอีก 10 เรื่องหวังดันสู่เบอร์ 3 พร้อมรายได้ทะลุ 2,000 ล้าน

การแข่งขันธุรกิจทีวีดิจิตอล คีย์ความสำเร็จคือการมีคอนเทนต์ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ชม เพื่อทำคะแนนเรตติ้งให้ได้สูงๆ เพราะสินค้าแบรนด์จะได้เลือกที่จะเข้ามาซื้อเวลาโฆษณา ช่องทีวีดิจิตอลที่มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมคนไทย ย่อมได้เปรียบในการแข่งขัน หนึ่งในรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมคือรายการละครหรือซีรีส์ ซึ่งมีทั้งละครไทย และจากต่างประเทศ ซึ่งที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ ละครหรือซีรีส์อินเดีย ที่บางเรื่องสามารถทำเรตติ้งแซงหน้าละครไทยได้หลายเรื่อง

ซีรีส์อินเดีย เรื่อง หนุมาน สงครามมหาเทพ ที่ออกอากาศทางช่อง 8 เคยทำเรตติ้งได้สูงสุดถึง 4.499 เป็นอันดับ 2 รองจากละครมือปราบเหยี่ยวดำ ที่ออกอากาศทางช่อง 7 ที่มีเรตติ้ง 5.431 ในช่วงวันที่ 25มกราคม 2561 สำหรับรายการที่ออกอากาศในช่วงเวลา 20.00-22.30 น. และซีรีส์หนุมานทำเรตติ้งได้สูงกว่ารายการ The Mask Singer 3 ที่มีเรตติ้ง 3.950 ที่ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ด้วยซํ้า

MP34-3337-A นอกจากนี้ รายการที่ทำเรตติ้งได้สูงสุดของช่อง 8 ยังเป็นซีรีส์อินเดีย ซึ่งข้อมูลในวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ซีรีส์หนุมาน สามารถทำเรตติ้งสูงสุด 3.306 รองลงมาเป็นซีรีส์ลิขิตแค้นแสนรัก ทำเรตติ้ง 1.189 ส่วนอันดับ 3 เป็นรายการเกมเรียงเบอร์ รายการประเภทวาไรตี ที่ทำเรตติ้ง 0.896

ความสำเร็จของซีรีส์อินเดีย ส่งผลให้ช่องทีวีดิจิตอลหลายช่อง ได้ปรับผังรายการใหม่ด้วยการนำซีรีส์มาเสริมเพื่อเรียกคนดูและเรตติ้ง อาทิ ช่องเวิร์คพอยท์ ที่ได้นำซีรีส์เรื่อง ศึกสองราชันย์ โปรุสvs อเล็กซานเดอร์ ที่เตรียมออกอากาศในวันจันทร์ถึงศุกร์ช่วงเวลา 21.30 น. โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้ ถือเป็นการนำเอาซีรีส์เรื่องดังกล่าวมาชนกับเรื่องลิขิตแค้น แสนรัก ที่ออกอากาศทางช่อง 8 ซึ่งได้ปรับผังจากการออกอากาศในช่วงเย็นมาเป็นเวลา 21.00 น. นอกจากช่องเวิร์คพอยท์แล้ว ยังมีกระแสข่าวว่าช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 และช่องทีวีดิจิตอลอีก 3-4 ช่องที่เตรียมปรับผังรายการ ด้วยการนำซีรีส์อินเดียเข้ามาเสริมด้วย

 

jak นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้จัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ เปิดเผยว่า ได้เตรียมนำซีรีส์อินเดียเรื่องใหม่มาจำหน่ายให้กับช่องทีวีดิจิตอลไม่ตํ่ากว่า20เรื่อง จากก่อนหน้านี้ได้จำหน่ายไปแล้วกว่า 50 เรื่อง ซึ่งมีช่องทีวีที่ซื้อซีรีส์อินเดียไปแล้ว ได้แก่ กลุ่มช่อง 3 กว่า 10 เรื่อง ช่อง 8 กว่า 10 เรื่อง ช่องไบรท์ทีวี 10 เรื่อง และยังมีช่องทีวีดิจิตอลอีก 3-4 ช่องที่ซื้อซีรีส์ไปแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะเดียวกันยังวางแผนจำหน่ายซีรีส์อินเดียไปในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีด้วย

ทั้งนี้ บริษัทได้ถือลิขสิทธิ์ซีรีส์อินเดียจาก 4 สตูดิโอชั้นนำของประเทศอินเดียแต่เพียงผู้เดียว ได้แก่ ค่ายโซนี่ ฟอกซ์ บีบีซี และวายคอม ทำให้ซีรีส์อินเดียที่ออกอากาศในประเทศไทย เจเอ็นเคจึงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศไทย ซึ่งแต่ละปีบริษัทจะใช้งบลงทุน 600-800 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์รายการและซีรีส์จากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายที่ผ่านมารายได้จากซีรีส์อินเดียมีสัดส่วนเพียง 20-25%ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากกระแสความนิยมในซีรีส์อินเดียและจะช่วยให้บริษัทเติบโต 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

“การซื้อขายซีรีส์อินเดียในปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้คาดว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ล้านบาท กระแสซีรีส์อินเดียที่ได้รับความนิยม เป็นเพราะมีวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกับคนไทย ไม่ว่าจะเป็นศาสนา ประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ หรือบทสนทนา ทำให้คนดูเสพติดทางสายตากับซีรีส์อินเดีย”

ด้านนายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าช่อง 8ประสบความสำเร็จกับซีรีส์อินเดีย ในเรื่อง “สีดาราม ศึกรักมหาลงกา” มหากาพย์ตำนานรักตำนานโลก “หนุมาน สงครามมหาเทพ”ซีรีส์แฟนตาซีและ “ลิขิตแค้นแสนรัก” ซีรีส์อินเดียแนวโรแมนติกแอกชัน ทำให้ช่อง 8 ขึ้นแท่นครองแชมป์เรตติ้งผู้ชมซีรีส์อินเดียสูงสุดของประเทศ คว้าอันดับ 1 แซงรายการช่วงไพรม์ไทม์ของทุกช่อง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,337 วันที่ 4 - 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว