นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของประชากรในประเทศ แม้ว่าจะเผชิญกับปัญหาด้านสาธารณสุขที่มีความท้าทายอย่างมาก อาทิ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ และความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งรัฐบาลได้มีมาตรการต่าง ๆ ที่รองรับกับปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ ไทยยังมุ่งเน้นให้มีมาตรการป้องกันปัญหาทางสาธารณสุข โดยสนับสนุนให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงและลดความเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ พร้อมขอชื่นชมผู้อำนวยการใหญ่ WHO ที่ได้นำที่ประชุมออกกำลังกายตามคำแนะนำของผู้แทนไทยระหว่างการประชุมผู้บริหาร WHO ณ เจนีวา ทั้งนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ได้แสดงความประทับใจในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ของนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม โดย WHO สนใจที่จะจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เช่นกัน
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่าไทยมีแนวคิดจะจัดตั้ง ASEAN Centre for Active Aging and Innovation ขึ้นในประเทศภายในปี 2562 เพื่อเป็นกลไกสำคัญของภูมิภาคในการเชื่อมโยงความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันถึงการขยายความร่วมมือระหว่างไทย- WHO ให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ได้มอบโล่เกียรติยศแก่ไทย เพื่อยกย่องผลงานที่สามารถขจัดโรคเท้าช้างให้หมดไปจากไทย เมื่อปี 2560