PTTEP กำไรพุ่ง 60% กำ 6 หมื่นล.ลุยลงทุน

29 ม.ค. 2561 | 12:00 น.
ปตท.สผ.โชว์กำไรปี 2560 กว่า 2 หมื่นล้านบาท โตพรวด 60% รับอานิสงส์ราคานํ้ามันพุ่ง ตั้งงบลงทุน 6 หมื่นล้านบาท เดินหน้าโครงการโมซัมบิก-แอลจีเรีย-เวียดนาม” ประ กาศพร้อมเข้าประมูลบงกช-เอราวัณ

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) เปิดเผยผลประกอบการปี 2560 มีกำไรสุทธิ 20,579 ล้านบาท หรือ 4.54 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 12,859 ล้านบาท หรือ 2.76 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 60%

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP กล่าวว่า ในผลประกอบการปี 2560 แม้จะมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์เนื่องจากการปรับแผนการลงทุน ของโครง การมาเรียนา ออยล์ แซนด์จำนวน 558 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 17,500 ล้านบาท แต่บริษัทยังรักษาระดับ EBITDA margin ที่ 70% สะท้อนความสำเร็จในการบริหารจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายและต้นทุนให้อยู่ในระดับตํ่าเพื่อให้สามารถแข่งขันได้

[caption id="attachment_254384" align="aligncenter" width="335"] สมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP สมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PTTEP[/caption]

ปี 2560 PTTEP มีรายได้รวม 153,198 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 152,745 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 836 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโต 80% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลหลักจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางราคานํ้ามันโลกจาก 35.91 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเทียบเท่านํ้ามันดิบในปีก่อนหน้าเป็น 39.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเทียบเท่านํ้ามันดิบ

ในขณะที่ต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) ลดลงจาก 30.46 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเทียบเท่านํ้ามันดิบ มาอยู่ที่ 29.05 ดอล ลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเทียบเท่านํ้ามันดิบ ถึงแม้ว่าในปีที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้รับผลกระทบจากความต้องการรับก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยลดลง แต่ด้วยความพยายามในการเพิ่มปริมาณการผลิตคอนเดนเสตและนํ้ามันดิบส่งผลให้สามารถรักษาปริมาณการขายตามเป้าหมายที่ 299,206 บาร์เรลเทียบเท่านํ้ามันดิบ โดย ณ สิ้นปี 2560 ปตท.สผ. มีสภาพคล่องเทียบเท่าเงินสดจำนวนสูงถึง 146,008 ล้านบาท

จากผลประกอบการที่ดี คณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 อนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับปี 2560 ที่ 4.25 บาทต่อหุ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ที่บริษัทได้จ่ายสำหรับงวด 6 เดือนแรกในอัตรา 1.50 บาทต่อหุ้นส่วนที่เหลืออีก 2.75 บาทต่อหุ้น จะจ่ายในวันที่ 12 เมษายน 2561

สำหรับแผนงานปี 2561 นายสมพร กล่าวว่า PTTEP ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 ไว้ที่ 105,510 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน 60,227 ล้านบาท และรายจ่ายดำเนินงาน จำนวน 45,283 ล้านบาท เพื่อรักษาระดับปริมาณการขายปิโตร เลียมของแหล่งผลิตในปัจจุบันไว้ที่ประมาณ 300,000 บาร์เรลเทียบเท่านํ้ามันดิบต่อวัน โดยจะเน้นการเพิ่มปริมาณการผลิตนํ้ามันดิบและคอนเดนเสตให้มากขึ้น และมีเป้าหมายที่จะคงต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) อยู่ในระดับประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเทียบเท่านํ้ามันดิบ เพื่อให้แข่งขันได้

728x90-03-3-503x62-3-503x62 สำหรับแผนงานที่สำคัญของ ปตท.สผ. ในปี 2561 ที่ต้องเร่งทำ เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตในอนาคต คือการพัฒนาโครงการที่สำคัญเพื่อการตัดสินใจขั้นสุดท้าย 3 โครงการได้แก่โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ที่ตั้งเป้าการผลิตในปี 2566 ด้วยกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติ 12 ล้านตันต่อปี ขณะนี้ได้เริ่มการเคลื่อนย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ก่อสร้างของโครงการและอยู่ระหว่างการขออนุมัติแผนพัฒนา

โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ อยู่ระหว่างรอผลการอนุมัติแผนพัฒนาจากรัฐบาลแอลจีเรีย โดยคาดว่าจะได้รับอนุมัติภายในไตรมาส 1 ปี 2561 และโครงการเวียดนาม บี และ 48/95 และ 52/97 ซึ่งมีเป้าหมายจะผลิตก๊าซธรรมชาติในปี 2564 ด้วยกำลังการผลิตรวม 490 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

“ในปีนี้ ปตท.สผ. จะร่วมประมูลสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุด้วยอย่างแน่นอน ทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองและปริมาณการผลิตให้กับบริษัท ขณะเดียวกันเรายังมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมในพื้นที่ยุทธศาสตร์หลักของปตท.สผ. ทั้งในไทย ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตะวันออกกลาง รวมถึงการมองหาโอกาสต่อยอดธุรกิจก๊าซธรรมชาติให้ครบวงจรในประเทศที่เรามีความสามารถในการแข่งขันจากการที่เรามีฐานทางธุรกิจมาก่อน” นายสมพร กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,335 วันที่ 28 - 31 มกราคม พ.ศ. 2561