ขนส่งทางบกยกระดับแท็กซี่ ติด GPS บริการผ่านแอพ Taxi OK-เริ่มแล้ว 6 พันคัน

กรมการขนส่งทางบก จับมือผู้ประกอบการศูนย์แท็กซี่เปิดตัว Taxi OK มิติใหม่แท็กซี่ไทย ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมเพิ่มทางเลือกเรียกรถผ่านแอพพลิเคชัน Taxi OK ดีเดย์พร้อมให้บริการแล้ว 6,000 คัน ยันราคาเริ่มต้น 35 บาท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการเปิดตัว “Taxi OK มิติใหม่แท็กซี่ไทย” ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมเพิ่มทางเลือกเรียกรถผ่านแอพพลิเคชัน Taxi OK ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2561 เป็นต้นไป เน้นจุดเด่นที่ความเข้าใจความต้องการของผู้โดยสารด้วยแอพพลิเคชันใช้งานได้ง่าย มั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง พร้อมสาธิตวิธีเรียกใช้บริการรถ Taxi OK ผ่านแอพพลิเคชันเป็นปฐมฤกษ์

“ยังให้ความสำคัญต่อ 5 เรื่องที่จะแก้ไขระบบให้บริการแท็กซี่ให้ได้มาตรฐาน นั่นคือ ส่วนแรก ผู้ให้บริการที่มีอยู่ในปัจจุบันราว 1 แสนคัน ส่วนที่ 2 คือผู้ขับขี่ ต่อไปจะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่จะได้รับการพัฒนาด้วยกรณีให้บริการอบรมการให้บริการอย่างถูกต้อง พร้อมยืนยันที่จะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป ส่วนที่ 3 ผู้ใช้บริการทั่วไป จะต้องขอความร่วมมือจากกรณีร้องเรียนจำนวนมาก สามารถช่วยเป็นหูเป็นตาช่วยตรวจสอบ ส่วนที่ 4 ผู้กำกับดูแล คือกรมการขนส่งทางบกที่ต่อไปนี้จะมีผู้กำกับดูแล 2 ชั้นคือกรมการขนส่งทางบกและผู้ประกอบการศูนย์แท็กซี่ต่างๆจะเข้ามาร่วมกันสร้างระบบการกำกับดูแลต่อไป และส่วนที่ 5 เทคโนโลยีที่จะนำมาใช้งานเพื่อยกระดับให้บริการรถแท็กซี่ทุกคัน”

ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่าได้เดินหน้าโครงการ “Taxi OK มิติใหม่แท็กซี่ไทย” ซึ่งถือเป็นการยกระดับการให้บริการรถแท็กซี่ไทยทั้งระบบเป็นครั้งแรก ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับ ดูแล และควบคุมความปลอดภัยจากภาครัฐ เพิ่มศักยภาพการเข้าถึงบริการอย่างสะดวก รวดเร็ว

ทั้งนี้ Taxi OK เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 วันนี้ให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะแตกต่างจากแท็กซี่มิเตอร์ในปัจจุบัน เนื่องจากพัฒนาขึ้นโดยมุ่งไปยังสิ่งที่ผู้โดยสารต้องการอย่างแท้จริง เช่น การใช้เทคโนโลยี GPS Tracking ที่มีระบบยืนยันตัวตนผู้ขับรถ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกความปลอดภัย กล้องบันทึกภาพในรถแบบ Snap Shot ปุ่มฉุกเฉิน SOS จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

“ขบ.ยังได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้พื้นที่เป็นจุดจอดรอของรถ Taxi OK ในแหล่งชุมชนที่ประชาชนนิยมใช้บริการรถแท็กซี่เป็นจำนวนมาก อาทิ จุดจอดกรมการขนส่งทางบก จุดจอดหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการเข้าถึงผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”

ด้านดร.เอกชัย สุมาลี ที่ปรึกษาโครงการ กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันมีแท็กซี่ให้บริการราว 1 แสนคันทั่วประเทศ แต่ ณ วันนี้มีแท็กซี่โอเค รูปแบบบริการวีไอพีเพิ่มได้อีกราว 6,000 คันก่อนที่จะขยายออกไปยังต่างจังหวัดต่อไปในเร็วๆ นี้ รถที่จะเป็นแท็กซี่โอเคให้บริการวีไอพีจะเป็นรถที่จดทะเบียนใหม่ทั้งหมด จะยังให้บริการในราคาเริ่มต้น 35 บาทไปก่อนในช่วงแรกนี้และชำระค่าเรียกผ่านแอพพลิเคชันเพิ่มอีกเพียง 20 บาทเท่านั้น ได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยพร้อมให้ผู้โดยสารมั่นใจได้ทุกคัน เรียกใช้บริการที่สะดวกขึ้นหากโหลดแอพไว้ในโทรศัพท์มือถือ เบื้องต้นนั้นพบว่าราคารถต่อคันที่นำมาให้บริการแท็กซี่โอเค ราคาต่อคันราว 1.3-1.5 ล้านบาท มีทั้งระบบไฟฟ้าและดีเซล ซึ่งเพิ่มความสะดวกการเดินทางและให้บริการทั้งผู้ประกอบการแท็กซี่และผู้ใช้บริการ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,335 วันที่ 28 - 31 มกราคม พ.ศ. 2561