"กฤษฎา"แจงด่วน !หลังขรก.ร้องสับสนสั่งประกบจ.ขับเคลื่อนนโยบาย
"กฤษฎา" แจงด่วน !หลัง จนท./ขรก.ร้องสับสน สั่งผู้บริหารเกษตรฯประกบจังหวัดทำงานร่วมขับเคลื่อนนโยบาย
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้สั่งการด่วนที่สุดถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง เรื่อง การปฎิบัติงานตามนโยบายและแนวทางของกระทรวงเกษตรฯ ว่าได้รับเสียงสะท้อนข้อคิดเห็นจากข้าราชการ ในพื้นที่บางกลุ่มแสดงความเห็นว่าช่วงนี้กระทรวง (หมายถึง รมว.กษ.) สั่งงานผ่านไลน์และหนังสือสั่งการรวมทั้งได้ออกไปประชุมในพื้นที่ด้วย
"ทำให้มีงานและขั้นตอนการทำงานของกระทรวงเกษตรฯหลายประการหลายเรื่อง จึงเริ่มสับสนว่าจะต้องเริ่มทำงานอะไรบ้าง จึงจะตรงเป้าหมายที่กระทรวงฯต้องการหรือกำหนดไว้นั้นผมขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของกษ.ในภาพรวมที่เราต้องรับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดังนี้ ว่ากระทรวงยังคงยึดถือโครงการสำคัญตามนโยบายเดิมที่รัฐบาลเห็นชอบแล้ว"
เช่นโครงการเกษตรแปลงใหญ่ เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน การพัฒนาองค์กรเกษตรกรประชารัฐฯลฯรวมประมาณ 12-15 เรื่อง เหมือนเดิมตามที่ทำกันอยู่แล้ว เพียงแต่เน้นว่าโครงการทั้งนั้น ให้มีการต่อ/เติม/แต่ง เพื่อให้โครงการ ได้ขยายผลเป็นรูปธรรม หรือปิดจุดอ่อนหรือแก้ไขปัญหาของโครงการเป็นต้น กล่าวคือถ้าโครงการเหล่านั้นดีแล้ว ก็ให้ทำต่อทันที แต่ถ้ามีปัญหาอุปสรรคเล็กน้อยให้ปรับเติมสิ่งที่ขาดหรือบกพร่อง หรือถ้ามีจุดอ่อนหรือปัญหามากให้ใช้วิธีการปรับแต่งโครงการใหม่ได้แต่อาจคงเป้าหมายเดิมไว้
"ผมได้แยกงานอำนวยการระดับจังหวัด ให้อยู่ในความรับผิดชอบโดยตรงของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และให้งานฝ่ายปฏิบัติการอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเกษตรจังหวัด/อำเภอ แต่การทำงานในพื้นที่ทั้งงานนโยบาย(agenda)และงานการแก้ไขปัญหาเกษตรกรในพื้นที่(area-based)นั้น หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯในพื้นที่เช่นชลประทาน/พัฒนาที่ดิน/สหกรณ์จังหวัดฯลฯ ต้องลงไปร่วมกันทำกับฝ่ายปฏิบัติการคือเกษตรจังหวัดหรือเกษตรอำเภอ"
โดยมอบหมายให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นผู้ประสานงาน และติดตามงานเพราะกสจ.ต้องรับผิดชอบงานแผนและนโยบายของกระทรวงเกษตรฯในพื้นที่และขอให้ยึดหลักการตลาดนำการผลิต
"กล่าวคือเมื่อพวกเราไปแนะนำให้ชาวบ้านหรือเกษตรกรเพาะปลูก หรือทำการปศุสัตว์หรือทำการประมงเลี้ยงสัตว์น้ำแล้ว เมื่อได้ผลผลิตจะต้องขายได้มีตลาดรับซื้อโดยผมขอให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดได้ประสาน(พาณิชย์)พณ./อุตสาหกรรมจังหวัดหรือหน่วยงานที่มีความต้องการผลผลิตทางการเกษตรเช่นสถานศึกษา/โรงพยาบาล/เรือนจำหรือหน่วยทหารที่ต้องประกอบเลี้ยงเจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษา ผู้ป่วยหรือนักโทษ ผู้ต้องขัง หรือประสานกับหอการค้า สภาอุตสาหกรรม บริษัทประชารัฐรักสามัคคีหรือภาคเอกชน ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ เพื่อมาทำการพิจารณาซื้อสินค้าจากเกษตรกรโดยตรง"
นอกจากนี้นายกฤษฎากล่าวอีกว่า "ปัจจุบันผมได้มอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูง กษ.ลงมาเป็นผู้แนะนำ(coaching)การทำงานเป็นรายจังหวัดแล้ว จึงขอให้พวกเราในจังหวัดต่างๆได้ติดต่อขอคำแนะนำได้ ขณะเดียวกันขอให้ผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบจังหวัดตามข้อตกลงไว้แล้ว ได้คอยสดับรับฟังปัญหาต่างๆในจังหวัดที่ตนเองรับผิดชอบด้วย เพื่อค่อยช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้จังหวัดเหล่านั้น หากเป็นปัญหาเชิงนโยบายหรือต้องการขอรับการสนับสนุนจากผู้กำหนดนโยบายหรือรัฐบาล ก็ขอให้แจ้งมาที่ผมได้ทันทีและตลอดเวลา"
ขอยืนยันว่าขอให้ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ได้มุ่งมั่นทำงานด้วยความทุ่มเททั้งสติ ปัญญากำลังและความสามารถด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ก็ถือว่าทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะข้าราชการของกระทรวงเกษตรฯได้ถูกต้องแล้วไม่สับสนแน่นอน
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าได้สั่งการด่วนที่สุดถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง เรื่อง การปฎิบัติงานตามนโยบายและแนวทางของกระทรวงเกษตรฯ ว่าได้รับเสียงสะท้อนข้อคิดเห็นจากข้าราชการ ในพื้นที่บางกลุ่มแสดงความเห็นว่าช่วงนี้กระทรวง (หมายถึง รมว.กษ.) สั่งงานผ่านไลน์และหนังสือสั่งการรวมทั้งได้ออกไปประชุมในพื้นที่ด้วย
"ทำให้มีงานและขั้นตอนการทำงานของกระทรวงเกษตรฯหลายประการหลายเรื่อง จึงเริ่มสับสนว่าจะต้องเริ่มทำงานอะไรบ้าง จึงจะตรงเป้าหมายที่กระทรวงฯต้องการหรือกำหนดไว้นั้นผมขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของกษ.ในภาพรวมที่เราต้องรับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดังนี้ ว่ากระทรวงยังคงยึดถือโครงการสำคัญตามนโยบายเดิมที่รัฐบาลเห็นชอบแล้ว"
"ผมได้แยกงานอำนวยการระดับจังหวัด ให้อยู่ในความรับผิดชอบโดยตรงของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และให้งานฝ่ายปฏิบัติการอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเกษตรจังหวัด/อำเภอ แต่การทำงานในพื้นที่ทั้งงานนโยบาย(agenda)และงานการแก้ไขปัญหาเกษตรกรในพื้นที่(area-based)นั้น หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯในพื้นที่เช่นชลประทาน/พัฒนาที่ดิน/สหกรณ์จังหวัดฯลฯ ต้องลงไปร่วมกันทำกับฝ่ายปฏิบัติการคือเกษตรจังหวัดหรือเกษตรอำเภอ"
โดยมอบหมายให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นผู้ประสานงาน และติดตามงานเพราะกสจ.ต้องรับผิดชอบงานแผนและนโยบายของกระทรวงเกษตรฯในพื้นที่และขอให้ยึดหลักการตลาดนำการผลิต
นอกจากนี้นายกฤษฎากล่าวอีกว่า "ปัจจุบันผมได้มอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูง กษ.ลงมาเป็นผู้แนะนำ(coaching)การทำงานเป็นรายจังหวัดแล้ว จึงขอให้พวกเราในจังหวัดต่างๆได้ติดต่อขอคำแนะนำได้ ขณะเดียวกันขอให้ผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบจังหวัดตามข้อตกลงไว้แล้ว ได้คอยสดับรับฟังปัญหาต่างๆในจังหวัดที่ตนเองรับผิดชอบด้วย เพื่อค่อยช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้จังหวัดเหล่านั้น หากเป็นปัญหาเชิงนโยบายหรือต้องการขอรับการสนับสนุนจากผู้กำหนดนโยบายหรือรัฐบาล ก็ขอให้แจ้งมาที่ผมได้ทันทีและตลอดเวลา"
ขอยืนยันว่าขอให้ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ได้มุ่งมั่นทำงานด้วยความทุ่มเททั้งสติ ปัญญากำลังและความสามารถด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ก็ถือว่าทุกท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะข้าราชการของกระทรวงเกษตรฯได้ถูกต้องแล้วไม่สับสนแน่นอน
