เตือนเชียร์เล่นบิตคอยน์เสี่ยงคุก

30 ม.ค. 2561 | 03:30 น.
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ชี้แจงให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนในข้อกฎหมายของพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการชักชวนซื้อ-ขาย สกุล เงินดิจิตอล (Cryptocurrency) ดังนี้

1.สกุลเงินดิจิตอล(Cryptocurrency) เช่น Bitcoinเป็นต้น เป็นหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ใช่เงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไทย ซึ่งปรากฏตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ฉบับที่ 8/2557เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2557 2.มูลค่าของสกุลเงินดิจิตอลเกิดจากอุปสงค์และอุปทานของตัวมันเองที่ทำให้มูลค่าของมันเพิ่มขึ้น หรือลดลงโดยที่ตัวมันเองไม่มีกิจการใดที่ถูกต้องตามกฎหมายรองรับในการสร้างรายได้ เพื่อการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน

บาร์ไลน์ฐาน 3. มูลค่าของเงินสกุลดิจิตอลที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เป็นแรงจูงใจทำให้ประชาชนสนใจ ที่จะซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลเพราะคิดว่ามีผลตอบแทนสูงและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงอาจส่งผลให้มีการชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลมากขึ้น และ 4. ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินฯ ได้วางหลักข้อกฎหมายว่า ผู้ใดอยู่ในประเทศไทยโฆษณา หรือประกาศเชิญชวนให้ลงทุนใดๆ ที่มีพฤติกรรมจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราสูง โดยไม่มีกิจการใดที่ถูกต้องตามกฎหมายรองรับ อาจมีลักษณะเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายนี้ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-10 ปีและปรับตั้งแต่ 5 แสนบาทถึง 1ล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 1 หมื่นบาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่

ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คลัง ธปท. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางดูแลสกุลเงินดิจิตอลอย่างเหมาะสม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,335 วันที่ 28 - 31 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9