กสอ.ทุ่มงบกว่า 22 ล. ปั้นหมู่บ้าน CIV ตั้งเป้าพัฒนาคลุม 76 จ.ภายในปีนี้!
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เดินหน้าพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) เพิ่มเติม 20 ชุมชน ตั้งเป้าพัฒนาครอบคลุม 76 จังหวัด 158 ชุมชน ภายในปีนี้! งบกว่า 22 ล้านบาท หลังประสบผลสำเร็จจากการดึงอัตลักษณ์และทุนทางวัฒนธรรมของชุมชนเป็นจุดขาย
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เผยว่า ในปี 2561 การส่งเสริมหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) จะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมชุมชนที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว (CIV 4.0) ซึ่งเป็นการต่อยอดหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาการท่องเที่ยว สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในการสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน โดยคาดว่าจะทำให้เกิดการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากชุมชนให้มีรายได้เพิ่มไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ด้วยการพลิกโฉมการท่องเที่ยวและการสร้างสรรค์สินค้าผ่านการดึงเสน่ห์วิถีชุมชนมาผสมผสาน การประยุกต์นำต้นทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์และบริการเชื่อมโยงกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างกลมกลืนและลงตัว ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ก่อให้เกิดรูปแบบและมูลค่าใหม่ทางเศรษฐกิจบนแนวคิดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ทำให้ชุมชนมีศักยภาพในการบริหารจัดการได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน และลดการเคลื่อนย้ายแรงงานจากชุมชนสู่เมือง
“เป้าหมายการพัฒนาในปีนี้ มีจำนวน 158 ชุมชน ในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ แยกเป็นการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว 20 ชุมชน ภายใต้งบประมาณ 22.61 ล้านบาท โดยเป็นการประชาสัมพันธ์จัดแสดงผลงานของแต่ละชุมชน เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักผ่านช่องทางต่างๆ และยกระดับอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว (CIV 4.0) จำนวน 138 ชุมชน ซึ่งเป็นการบูรณาการเป้าหมายร่วมกับคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยการพัฒนาจะมุ่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการชุมชน 3 ด้าน คือ ด้านกระบวนการผลิต ด้านคุณภาพมาตรฐานและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และด้านการตลาดออนไลน์ ตามความต้องการแต่ละพื้นที่ อันจะก่อให้เกิดการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10 ทั่วประเทศ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการชุมชนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว” นายกอบชัย กล่าว
สำหรับ 20 หมู่บ้านเป้าหมายที่ กสอ.จะพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ ได้แก่ 1.ชุมชนออนใต้ จ.เชียงใหม่ 2.ชุมชนน้ำเกี๋ยน จ.น่าน 3.ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย 4.ชุมชนบ้านเชียง จ.อุดรธานี 5.ชุมชนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
6. ชุมชนประแส จ.ระยอง 7. ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม 8.ชุมชนเกาะยอ จ.สงขลา 9.ชุมชนบ้านนาตีน จ.กระบี่ 10.ชุมชนบ้านเมืองเก่า จ.สุโขทัย 11.ชุมชนบ้านผารังหมี จ.พิษณุโลก 12.ชุมชนบ้านภู จ.มุกดาหาร 13.ชุมชนบ้านนาเชือก จ.สกลนคร 14. ชุมชนบ้านบางพลับ จ.สมุทรสงคราม 15. ชุมชนบ้านทุ่งประดู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 16.ชุมชนบ้านหาดส้มแป้น จ.ระนอง 17. ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ จ.ชุมพร 18. ชุมชนบ้านท่าเขา จ.พังงา 19. ชุมชนบ้านบากันเคย จ.สตูล และ 20.ชุมชนบ้านต้นตาล จ.สระบุรี
นอกจากนี้ ยังมีแผนการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนฐานราก (Local Economy) เพื่อสร้างงาน สร้างโอกาสและสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในเศรษฐกิจฐานรากด้วยการ ดึงธุรกิจเอกชนรายใหญ่เข้ามาช่วยสนับสนุนการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นในรูปแบบประชารัฐ ประกอบด้วย 1) โครงการยกระดับอุตสาหกรรมชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยว (CIV 4.0) 2)โครงการอุตสาหกรรมสร้างงาน สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้ชุมชน และ3) โครงการปั้นนักธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทย (SMEs เกษตร)
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เผยว่า ในปี 2561 การส่งเสริมหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) จะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมชุมชนที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว (CIV 4.0) ซึ่งเป็นการต่อยอดหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาการท่องเที่ยว สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในการสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน โดยคาดว่าจะทำให้เกิดการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากชุมชนให้มีรายได้เพิ่มไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ด้วยการพลิกโฉมการท่องเที่ยวและการสร้างสรรค์สินค้าผ่านการดึงเสน่ห์วิถีชุมชนมาผสมผสาน การประยุกต์นำต้นทุนวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์และบริการเชื่อมโยงกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างกลมกลืนและลงตัว ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ก่อให้เกิดรูปแบบและมูลค่าใหม่ทางเศรษฐกิจบนแนวคิดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ทำให้ชุมชนมีศักยภาพในการบริหารจัดการได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน และลดการเคลื่อนย้ายแรงงานจากชุมชนสู่เมือง
“เป้าหมายการพัฒนาในปีนี้ มีจำนวน 158 ชุมชน ในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ แยกเป็นการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว 20 ชุมชน ภายใต้งบประมาณ 22.61 ล้านบาท โดยเป็นการประชาสัมพันธ์จัดแสดงผลงานของแต่ละชุมชน เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักผ่านช่องทางต่างๆ และยกระดับอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว (CIV 4.0) จำนวน 138 ชุมชน ซึ่งเป็นการบูรณาการเป้าหมายร่วมกับคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยการพัฒนาจะมุ่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการชุมชน 3 ด้าน คือ ด้านกระบวนการผลิต ด้านคุณภาพมาตรฐานและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และด้านการตลาดออนไลน์ ตามความต้องการแต่ละพื้นที่ อันจะก่อให้เกิดการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10 ทั่วประเทศ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการชุมชนสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว” นายกอบชัย กล่าว
สำหรับ 20 หมู่บ้านเป้าหมายที่ กสอ.จะพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบในปีนี้ ได้แก่ 1.ชุมชนออนใต้ จ.เชียงใหม่ 2.ชุมชนน้ำเกี๋ยน จ.น่าน 3.ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย 4.ชุมชนบ้านเชียง จ.อุดรธานี 5.ชุมชนเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
6. ชุมชนประแส จ.ระยอง 7. ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม 8.ชุมชนเกาะยอ จ.สงขลา 9.ชุมชนบ้านนาตีน จ.กระบี่ 10.ชุมชนบ้านเมืองเก่า จ.สุโขทัย 11.ชุมชนบ้านผารังหมี จ.พิษณุโลก 12.ชุมชนบ้านภู จ.มุกดาหาร 13.ชุมชนบ้านนาเชือก จ.สกลนคร 14. ชุมชนบ้านบางพลับ จ.สมุทรสงคราม 15. ชุมชนบ้านทุ่งประดู่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 16.ชุมชนบ้านหาดส้มแป้น จ.ระนอง 17. ชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ จ.ชุมพร 18. ชุมชนบ้านท่าเขา จ.พังงา 19. ชุมชนบ้านบากันเคย จ.สตูล และ 20.ชุมชนบ้านต้นตาล จ.สระบุรี
นอกจากนี้ ยังมีแผนการยกระดับเศรษฐกิจชุมชนฐานราก (Local Economy) เพื่อสร้างงาน สร้างโอกาสและสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในเศรษฐกิจฐานรากด้วยการ ดึงธุรกิจเอกชนรายใหญ่เข้ามาช่วยสนับสนุนการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นในรูปแบบประชารัฐ ประกอบด้วย 1) โครงการยกระดับอุตสาหกรรมชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยว (CIV 4.0) 2)โครงการอุตสาหกรรมสร้างงาน สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้ชุมชน และ3) โครงการปั้นนักธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทย (SMEs เกษตร)
