เชฟโรเลต รักษ์ช้าง โคโลราโด เซนเทนเนียล อิดิชัน 2018 โชว์แกร่ง

30 ม.ค. 2561 | 11:52 น.
เชฟโรเลต จัดกิจกรรม “เชฟฯรักษ์ช้างป่า” โดยยกพลสื่อมวลชนจากกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมทดสอบสมรรถนะของปิกอัพ “โคโลราโด เซนเทนเนียล อิดิชัน ปี 2018 และโคโลราโด ไฮ คันทรี สตอร์ม” ระยะทางไป-กลับมากกว่า 500 กิโลเมตร ซึ่งทริปนี้สื่อมวลชนยังร่วมทำกิจกรรมสร้างโป่งเทียมเพื่อช้างและสัตว์ป่า ณ ป่าละอู ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานอีกด้วย

MP33-3335-1A สำหรับปิกอัพ “โคโลราโด เซนเทนเนียล อิดิชัน ปี 2018 และ โคโลราโด ไฮ คันทรี สตอร์ม” เป็นเรือธงจากค่ายเชฟโรเลต ที่เพิ่งจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเชฟโรเลตภูมิใจนำเสนอรถรุ่นนี้เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นโปรดักต์ที่ฉลองครบรอบ 100 ปีของต้นกำเนิดปิกอัพเชฟโรเลตในโลกใบนี้ และที่สำคัญ โคโลราโด เซนเทนเนียล อิดิชัน 2018 ยังผลิตเพียง 100 คันสำหรับตลาดในประเทศไทย

โดยรถรุ่นพิเศษนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบแปรผัน (Variable Geometry Turbocharger - VGT) ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า (132 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร (325 ฟุต-ปอนด์) ที่ 2,000 รอบต่อนาที มาตรฐานไอเสียยูโร 4 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือก

MP33-3335-3A ส่วนคุณสมบัติหรือฟังก์ชันเด็ดที่เชฟโรเลตใส่เข้ามาในรถรุ่นใหม่ อาทิ ระบบมายลิงก์รุ่นใหม่ ระบบสั่งการด้วยเสียง สิริ อายส์ ฟรี และครั้งแรกในปิกอัพระดับเดียวกันกับฟังก์ชันรีโมตสตาร์ต นอกจากนั้นแล้วยังปรับปรุงช่วงล่างใหม่ และระบบเบรกใหม่

สำหรับราคามีให้เลือกทั้งแบบโคโลราโด 2.5 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2 ประตู เกียร์ธรรมดา เซนเทนเนียล อิดิชัน เริ่มต้นที่ 8.14 แสนบาท และสูงสุดในรุ่น โคโลราโด 2.5 ลิตรขับเคลื่อน 2ล้อ 4 ประตู ไฮ คันทรี เซนเทนเนียล อิดิชั่น ราคา 1,103,000 บาท

MP33-3335-2A ขณะที่โคโลราโด 2.5 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2 ประตู และ 4 ประตู เกียร์ธรรมดา เซนเทนเนียล อิดิชัน มีตัวถังสีขาว Summit White และสีนํ้าเงิน Blue Me Away Metallic ส่วนรุ่นโคโลราโด 2.5 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2 ประตู และขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 ประตู ไฮ คันทรี เซนเทนเนียล อิดิชันมีตัวถังสีขาว SummitWhite

ถือเป็นข้อมูลเบื้องต้นสำหรับรถรุ่นใหม่นี้ ซึ่งก่อนจะออกเดินทาง “ฐานยานยนต์” ได้ลองสำรวจรูปร่างหน้าตากันเล็กน้อย โดยความพิเศษของการครบรอบ 100 ปี ดังนั้นเจ้ารถรุ่นนี้ก็จะเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นโลโกโบว์ไทฉลองครบรอบปิกอัพ 100 ปี ตราสัญลักษณ์ฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี

MP33-3335-4A สติกเกอร์สีดำรุ่นพิเศษด้านบนฝากระโปรงหน้า และล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้วที่ดูดุเข้ม พื้นปูกระบะและชุดคิ้วล้อ รวมไปถึงสปอร์ตบาร์ ที่มีทั้งสีดำเงา และสีขาว เรียกว่าโชว์หรา มองจากจุดไหนก็จะเห็นตราสัญลักษณ์ครบรอบ 100 ปีติดอยู่ที่ตัวรถ

สำรวจตรวจสอบรูปร่างหน้าตารถใหม่กันพอหอมปากหอมคอ ก็ได้เวลาออกเดินทางไปทดสอบสมรรถนะและทำกิจกรรม “เชฟฯรักษ์ช้างป่า” โดยจุดหมายปลายทางแรกที่สื่อมวลชนต้องแวะคือโรงงานนิยมค้าเกลือที่ผลิตเกลือดิบและแร่ธาตุ ซึ่งเป็นของสำคัญที่จะนำไปสร้างโป่งเทียมให้กับช้างและสัตว์ป่า โดยจุดนี้ก็ได้โชว์ความสามารถในการแบก นํ้าหนักบรรทุกถุงเกลือและถุงบรรจุแร่ธาตุที่มีนํ้าหนักรวมมากกว่า 500 กก. (ข้อมูลตามโบร์ชัวร์ระบุว่ารถรุ่นใหม่นี้สามารถบรรทุกของหนักได้สูงสุด 700 กก.)

แม้จะบรรทุกของหนัก แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินทาง โดยปิกอัพจากค่ายมะกันยังโชว์ความแข็งแกร่ง และตอบสนองได้ดี คงต้องยกความดีความชอบให้กับพวงมาลัยไฟฟ้าและขุมพลังดูราแม็กซ์ ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร อีกประการหนึ่งคือการปรับปรุงช่วงล่างใหม่ เมื่อผสานรวมกับแชสซีส์ที่มีความบึกบึนก็ทำให้รถปิกอัพรุ่นนี้มีความสมูธ แม้จะแบกนํ้าหนักมาก

MP33-3335-5A หลังจากนั้นออกเดินทางและมุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีจุดหมายปลายทางคือศูนย์บริการข้อมูล ณ ป่าละอู เพื่อรับฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับความจำเป็นในการสร้างโป่งเทียม และการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันของคนและสัตว์ ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างโป่งเทียม เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์ป่า และเป็นการบรรเทาปัญหาช้างป่าบุกรุกเขตชุมชนซึ่งสร้างความเสียหายแก่เรือกสวนไร่นาของชาวบ้านในพื้นที่

นอกจากนั้นแล้ว สื่อมวลชนยังช่วยสร้างรั้วกึ่งถาวรและร่วมกันทาสี ซึ่งรั้วนี้จะช่วยป้องกันช้างป่าบุกรุกเข้าสู่พื้นที่เกษตรกรรมและพื้นที่อันตรายได้ เช่นถนน

เมื่อรับฟังข้อมูลต่างๆแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้พาสื่อมวลชนเข้าไปยังจุดที่จะสร้างโป่งเทียม โดยสภาพถนนเป็นออฟโรด จุดนี้ “โคโลราโด เซนเทนเนียล อิดิชัน ปี 2018 และโคโลราโด ไฮ คันทรี สตอร์ม” ได้แสดงฝีมือกันอย่างเต็มที่ในการบุกตะลุยกันแบบหัวสั่นหัวคลอน โดยใช้ทั้งโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ และแม้ว่าพื้นที่หลังกระบะจะขนของหนัก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะทุกคันสามารถฝ่าฟันเข้าไปในจุดที่สร้างโป่งเทียมได้

728x90-03-3-503x62-3-503x62 หลังจากทำกิจกรรมแล้วเสร็จ เหล่าสื่อมวลชนก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้ายคือปราณบุรี ซึ่งสภาพถนนช่วงนี้เป็นทางราบ สามารถทำความเร็วได้ ความรู้สึกสำหรับการนั่งอยู่ในห้องโดยสารถือว่าสบาย ไม่อึดอัด ทั้งที่นั่งในแถวหน้า และเบาะหลัง มีความนุ่มนวล ไม่แข็งกระด้าง

โดยรวมๆถือเป็นปิกอัพที่มีของดีอยู่ในตัวเยอะเอาเป็นว่าใครที่อยากรู้ว่ามีดีอย่างไรจะถูกจริตจะถูกใจหรือไม่ก็ไปทดลองขับด้วยตัวเองที่โชว์รูมเชฟโรเลต หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจกันอีกทีว่าจะดีล!หรือไม่ดีล!!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,335 วันที่ 28 - 31 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9