COM7เร่งเกมดันเป้ารายได้โต15%

02 ก.พ. 2561 | 05:56 น.
COM7 ประกาศกลยุทธ์ประจำปี 61 ตั้งเป้ารายได้โต 15% พร้อมทุ่มงบลงทุน 380 ล้านบาท ขยายอาณาจักรค้าปลีกไอที คาดสิ้นปีนี้เห็น 600 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นสาขาภายใต้แบรนด์ของบริษัท กว่า 500 สาขา และจากธุรกิจแฟรนไชส์อีก 100 สาขา

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศไทยในนาม BANANA, Studio7, BKK และ iCare เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจค้าปลีกไอทีในกลุ่มบริษัท ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ปี 2561 จะเติบโตอีก 15% จากปีก่อน

โดยวางกลยุทธ์เพิ่มไลน์สินค้า และบริการให้ครบวงจร จากสิ้นปี 2560 มีจำนวน 434 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ แบ่งเป็นร้าน Banana 177 สาขา Samsung shop 10 สาขา Oppo 11 สาขา Huawei และ Vevo 2 สาขา ส่วนร้าน Studio 7 มีจำนวน 90 สาขา U-Store 8 สาขา ร้าน BKK 40 สาขา และร้านกล้อง Shot Pro 2 สาขา รวมทั้งธุรกิจบริการผ่านร้าน iCare จำนวนทั้งหมด 26 สาขา และสิทธิ์บริหาร TRUE Shop เปิดให้บริการแล้วจำนวน 68 สาขา รวมทั้งเข้าไปบริหารพื้นที่ IT ในเทสโก้ โลตัส และขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าไอทีในรูปแบบอื่นๆ เพิ่มเติมอีก ตอกยํ้าการเป็นผู้นำค้าปลีกไอทีที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย

[caption id="attachment_253778" align="aligncenter" width="335"] สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7[/caption]

คาดว่าในสิ้นปีนี้ COM7 จะมีสาขารวมกันกว่า 600 สาขา แบ่งเป็นสาขาภายใต้การบริหารของบริษัท รวมกันกว่า 500 สาขา และจากธุรกิจแฟรนไชส์ที่ตั้งเป้าไว้ในสิ้นปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วม 100 สาขา โดยใช้แบรนด์ Banana Shopping ปั้นธุรกิจแฟรนไชซ์ดังกล่าว เจาะตลาดลูกค้ากลุ่ม SMEs ที่เริ่มแล้วตั้งแต่ไตรมาส 4/2560 ที่ผ่านมา และปัจจุบันมีผู้ตอบรับเข้ามาแล้ว 80 ร้านค้า เข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ ภาพรวมยอดขายสินค้าไอที สมาร์ทโฟน และสินค้าแบรนด์แอปเปิลมีการเติบโตที่ดี จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ออกมากระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง และมีระดับราคาต่อเครื่องสูง อาทิ iPhone 8, iPhone 8s, iPhoneX, Samsung Note 8, Huaiwei Mate 10 Pro นอกจากนี้ยังมีแบรนด์อื่นๆ อีก ทั้ง OPPO และ VIVO เข้ามาเจาะตลาดในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งบริษัท ยังได้รับแรงสนับสนุนจากพันธมิตรในกลุ่ม TRUE และพันธมิตรรายอื่นๆ ทำโปรโมชันส่งเสริมการขายและการตลาด ทำให้ในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโตของสินค้าทุกกลุ่มธุรกิจ และมั่นใจจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2561 นี้ได้

สำหรับสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท มาจากกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งไอโฟนและสมาร์ทโฟนรวมกันอยู่ที่ประมาณ 49% ของยอดขายทั้งหมด รองลงมาคือกลุ่มแล็ปท็อป 20%, แอ็กเซสซอรี 16%, แท็บเลต 12% และอื่นๆ

ทั้งนี้ภาพรวมธุรกิจขายโทรศัพท์เคลื่อนที่พ่วงกับซิมและแพ็กเกจจากค่ายมือถือ ได้รับส่วนแบ่งกำไรที่ดี สิ้นปี 2560 ทำได้ที่ 1.8 แสนเลขหมายตามเป้า และตั้งเป้าปี 2561 จะขายเครื่องพ่วงซิมได้ 2 แสนเลขหมาย พร้อมกับรุกตลาดออนไลน์ต่อเนื่องภายใต้แบรนด์ BananaStore.com เพื่อสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่และใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการขาย ตั้งเป้ารายได้จากตลาดออนไลน์ในปี 2561 อยู่ที่ 800 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทในเครือ บริษัท โนวัส อินทิเกรชั่น จำกัด (NOVUS INTEGRATION) มีความพร้อมรุกขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Commercial และ Education ผ่านแบรนด์ Banana Business ตั้งเป้ารายได้โตก้าวกระโดดจากธุรกิจดังกล่าวไว้ที่ 900 ล้านบาท แบ่งเป็น Commercial 400 ล้านบาท และ Education 500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 2561 บริษัท วางงบลงทุนไว้ที่ 380 ล้านบาท ส่วนใหญ่นำไปใช้ขยายสาขาภายใต้การบริหารของบริษัท จำนวน 220 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้รีโนเวตร้านสาขาเดิมประมาณ 60 ล้านบาท ใช้สำหรับกิจกรรมทางการตลาด 50 ล้านบาท ลงทุนใน NOVUS INTEGRATION 20 ล้านบาท งบลงทุนสำหรับธุรกิจออนไลน์ 20 ล้านบาท และธุรกิจแฟรนไชส์ Banana Store.com 10 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,335 วันที่ 28 - 31 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว