ANONAเล็งเพิ่มช่องจำหน่าย แตกไลน์สินค้าดันรายได้โต10%

29 ม.ค. 2561 | 04:06 น.
เครื่องหอมแบรนด์ ANONA เตรียมเพิ่มช่องทางการจำหน่ายกระจายสู่พื้นที่ต่างจังหวัด พร้อมต่อยอดแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ขยายฐานลูกค้า เชื่อดันรายได้ปี 61 เติบโตได้อีก 10% จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้ต่อเดือนเป็นตัวเลข 6 หลัก

นางสาวสุพิชชา กอเจริญพาณิชย์ ผู้ก่อตั้ง “ANONA” ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องหอมโดยนำยักษ์มาเป็นเอกลักษณ์เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ANONA” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปี 2561 มีแผนที่จะเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กระจายไปสู่พื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้าโดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินงานเพื่อหาทำเลที่ดีที่สุดในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า จากเดิมที่ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์จะมีวางจำหน่ายอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นร้านนายอินทร์ทั้ง 20 สาขา ห้างเทอร์มินอล 21 (Terminal 21), ห้างมาร์บุญครอง, ห้างเซ็นทรัล สาขาชิดลม เพื่อเข้ากลุ่มลูกค้าที่อยู่ในเมือง และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นต้น

[caption id="attachment_253045" align="aligncenter" width="336"] สุพิชชา กอเจริญพาณิชย์ สุพิชชา กอเจริญพาณิชย์[/caption]

นอกจากนี้ ยังมีวางจำหน่ายที่หอศิลป์, นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และงานแสดงศิลปะที่มีการจัดขึ้นยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงยังมีวางจำหน่ายตามหัวเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น อย่างไรก็ดี ในระยะหลังเริ่มมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นรูปแบบของบริษัท หรือองค์กรเข้ามาสั่งผลิตภัณฑ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมไปในวงกว้างมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังจะมีการต่อยอดแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ANONA” ไปสู่ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เครื่องหอมแต่ยังคงคอนเซ็ปต์ของความเป็นไทยเอาไว้ เพื่อเจาะฐานลูกค้าในกลุ่มอื่น ซึ่งล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมกับแบรนด์ และตอบโจทย์ทางการตลาด

“เครื่องหอมภายใต้แบรนด์ ANONA ปัจจุบันมีวางจำหน่ายอยู่ด้วยกัน 4 กลิ่น ได้แก่ 1. สีเขียว ซึ่งเป็นกลิ่นตะไคร้ 2. สีแดง ซึ่งเป็นกลิ่นน้ำมันระกำ โดยทั้ง 2 กลิ่นดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นกลิ่นออริจินัลที่ผู้บริโภคชาวไทยและชาวต่างชาติชื่นชอบ 3. สีขาว ซึ่งเป็นกลิ่นมะนาว และ 4. สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นกลิ่นเปปเปอร์มินต์โดยการต่อยอดผลิตภัณฑ์อาจจะเป็นรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่เครื่องหอม เพราะมองว่าน่าจะเยอะเกินไปสำหรับผู้บริโภค”

TP13-3334-1B นางสาวสุพิชชา กล่าวต่อไปอีกว่า จากแผนการทำตลาดในปีนี้เชื่อว่าจะทำให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นมาอีก 10% จากปี 2560 ที่ผ่านมาซึ่งมียอดขายอยู่ที่ตัวเลข 6 หลักต่อเดือน ส่วนภาพรวมของธุรกิจในอนาคตนั้น ต้อง การให้มีผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดไปได้อย่างหลากหลายมากกว่าแค่เครื่องหอม รวมถึงเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคมากขึ้น และสามารถทำตลาดไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ANONA” ก็มีวางจำหน่ายอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ในความรู้สึกส่วนตัวแล้วมองว่าผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบมาน่าจะมีความเหมาะสมกับการทำเป็นของฝาก หรือสินค้าที่ระลึก ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาและซื้อกลับไปมากกว่าที่จะไปถูกนำเสนออยู่ที่ตลาดต่างประเทศ

สำหรับจุดเด่นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ANONA” คือแพ็กเกจจิ้งที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทยด้วยอัตลักษณ์ของยักษ์ อีกทั้งยังให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับเรื่องของกลิ่น โดยจากประสบการณ์ที่เคยพบเจอในการซื้อผลิตภัณฑ์ในตลาด บางผลิตภัณฑ์ที่รูปลักษณ์ภายนอกดูสวยงามแต่ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ด้านในกลับตรงกันข้าม ดังนั้น ตนจึงเลือกใช้สมุนไพรที่มีคุณภาพ และได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี โดยเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยแบบบริสุทธิ์ ซึ่งแม้ว่าจะมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง แต่จะให้ความหอมที่คงทนมากกว่า

728x90-03-3-503x62-3-503x62 “หากถามถึงกุญแจสำคัญที่ไขไปสู่ความสำเร็จที่ยึดในการทำธุรกิจนั้น ตนเลือกที่จะใช้ใจมีอะไรที่ดีที่สุดก็ต้องการมอบให้กับผู้บริโภค โดยที่ตอนเริ่มต้นก็ไม่ได้คิดว่าจะสู้กับผู้ใด แต่จะต้องมีความมุ่งมั่นและมีสติผ่านไปให้ได้ อีกทั้งการทำธุรกิจจะต้องรักษาคุณภาพต่อพันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้า เพื่อรักษาแบรนด์ให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน และที่สำคัญในโลกของการเปลี่ยน แปลงที่เกิดขึ้นเร็วในยุคปัจจุบัน จะต้องไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา เพราะอาจจะมีคู่แข่งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,334 วันที่ 25 - 27 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9