มาลีกรุ๊ป ทุ่ม 330 ล้าน ซื้อบริษัทผลิตเครื่องดื่มในเวียดนาม

23 ม.ค. 2561 | 11:34 น.
มาลีกรุ๊ป ทุ่ม 330 ล้าน ซื้อบริษัทผลิตเครื่องดื่มในเวียดนาม ขยายฐานการผลิตป้อนตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

[caption id="attachment_252799" align="aligncenter" width="503"] นายโอภาส โลพันธ์ศรี นายโอภาส โลพันธ์ศรี[/caption]

-23 ม.ค.61- นายโอภาส โลพันธ์ศรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศบริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มาลีกรุ๊ป ทุ่ม 330 ล้านบาท เดินหน้าขับเคลื่อนวิสัยทัศน์สู่การเป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพระดับโลก ประเดิมเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศครั้งแรกกับบริษัทร่วมทุน ลอง ควน เซฟ ฟู้ด จำกัด (Long Quan Safe Food Joint Stock Company) ผู้ผลิตเครื่องดื่มในประเทศเวียดนามเพื่อเสริมฐานการผลิตเครื่องดื่มสำหรับตลาดประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งเป้าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับสัดส่วนยอดขายต่างประเทศของมาลีกรุ๊ปจาก 40% เป็น 60%ภายใน 3 ปี

Photo (1) “การเข้าซื้อกิจการบริษัทร่วมทุน ลอง ควน เซฟ ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มในเวียดนาม ด้วยสัดส่วน 65% หรือคิดเป็นมูลค่า 330ล้านบาทของมาลีกรุ๊ปในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตเครื่องดื่มของบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้ระดับปานกลางจนถึงระดับทั่วไปในภูมิภาคอาเซียนซึ่งถือเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ที่เป็นรูปธรรมในการรุกตลาดระหว่างประเทศเพื่อขึ้นแท่นสู่เป้าหมายการเป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพระดับโลกในปี 2564ของมาลีกรุ๊ป”

สำหรับมาลีกรุ๊ป บริษัทร่วมทุน ลอง ควน เซฟ ฟู้ด จำกัด ในประเทศเวียดนามมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการที่จะมาเติมเต็มธุรกิจทั้งในส่วนของ 1.ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือเนื่องจากก่อตั้งและดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี จนผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคชาวเวียดนาม

2.สายการผลิตครบวงจรที่มีกำลังการผลิต 300 ล้านลิตรต่อปีมีคุณภาพการผลิตสูงและสามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มได้หลากหลายชนิดและรูปแบบทั้งผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม เครื่องดื่มอัดแก๊ส ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเจลลี่ในรูปแบบกระป๋องขวดพลาสติกถ้วยพลาสติกและขวดแก้วซึ่งจะทำให้มาลีกรุ๊ปมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 630 ล้านลิตรต่อปี 3.ความได้เปรียบในเรื่องการแข่งขันด้านราคาซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเจาะตลาดในวงกว้างในประเทศเกิดใหม่ในภูมิภาคอาเซียน

4.มีช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมในประเทศเวียดนามช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันจากพันธมิตรที่แข็งแกร่งและการกระจายสินค้าเข้าถึงทุกภาค โดยเฉพาะภาคใต้ของประเทศเวียดนาม

728x90-03-3-503x62 นายโอภาส กล่าวต่อว่า “จากการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างประเทศกว่า3 ปีที่ผ่านมาเป็นการเข้าถึงการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มอย่างมีศักยภาพในระดับภูมิภาคและสำหรับตลาดประเทศเกิดใหม่ในอาเซียน เราได้ร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นที่ไม่ได้มีแค่ความเข้าใจเป็นอย่างดีในเรื่องความต้องการของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่งครอบคลุมตลาดหลักที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ในปัจจุบันเราได้ทำการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศฟิลิปปินส์กับบริษัท มอนเด นิชชิน คอร์ปอเรชั่น และในประเทศอินโดนีเซียกับบริษัท พีที คีโน่ อินโดนีเซีย และล่าสุดกับการเข้าซื้อบริษัทร่วมทุน ลอง ควน เซฟ ฟู้ด จำกัดโดยการร่วมทุนเป็นการทำกลยุทธ์แบบสร้างเครือข่ายในระดับภูมิภาคด้วยการนำเอาจุดแข็งของพันธมิตรในแต่ละประเทศมาเสริมแกร่งซึ่งกันและกัน อันจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันเพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดและยั่งยืนให้กับเราในระดับภูมิภาค” ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-7-503x62