ดีแทคจัด On Top Training เพาะเมล็ดดิจิตอล
เส้นทางการพัฒนาบุคลากรของดีแทค เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปลายปี 2559 ที่ซีอีโอ “ลาร์ส นอร์ลิ่ง” ออกมาประกาศวิชัน นำบล็อกเชน (Blockchain) เข้ามากระตุ้นคนดีแทค รองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิตอลของไทย พร้อมเพิ่มขีดความสามารถสู่ระดับโลก โดยตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ดิจิตอลแบรนด์ ในปี 2020
“นาฎฤดี อาจหาญวงศ์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ทุกอย่างที่ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลทำ จะลิงก์ไปกับกลยุทธ์ระยะยาว (long term strategy) ของดีแทค และหนึ่งในวิธีการพัฒนาคนดีแทคให้เป็นคนดิจิตอล คือ โปรแกรม “40-hour Challenge” ที่เป็นการเปิดโอกาสให้คนดีแทคกว่า 4 พันคน เข้าร่วมคอร์สอบรมเกี่ยวกับดิจิตอลผ่านระบบออนไลน์ 40 ชั่วโมง โดยดีแทคได้ร่วมมือกับ Lynda.com Coursera และเทเลนอร์ จัดสรรคอร์สนับพันคอร์ส มาให้พนักงานได้เลือกให้ตรงกับความต้องการของตัวเองให้มากที่สุด
ช่องว่างของทักษะในองค์กรที่ขาดแคลน และบุคลากรต้องการ มีทั้งส่วนของ Hard Skills อาทิ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) และส่วนของ Soft Skills อาทิ การสร้างประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience), การเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า (Customer Centric) ซึ่งทักษะด้าน Soft Skills ถือเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า Hard Skills เพราะปัจจุบันบุคลากรไม่ว่าจะอยู่ในแผนกไหนๆ ก็ต้องการทักษะความรู้ที่เกี่ยวกับดิจิตอลทั้งสิ้น
ที่ผ่านมา ดีแทคใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน mindset ของบุคลากร จนเข้าใจดีแล้ว ทุกคนต้องเปลี่ยน เพื่อการก้าวไปสู่การเป็นเบอร์ 1 ดิจิตอลแบรนด์ และองค์กรยังได้สนองตอบคนพันธุ์ดิจิตอลใน 6 ลักษณะ ไม่ว่าจะเป็น การจัดสถานที่ที่สนับสนุนให้เขาทำงานได้จริง (Focused on Accomplishments) การเปิดโอกาสให้บุคลากรได้เรียนรู้ตลอดเวลา(Continuous Learning) การมอบสวัสดิการ หรือโบนัสในรูปแบบใหม่ๆ ให้ (Non-Traditional Benefits) การให้คุณค่ากับทั้ง Soft Skills และ Hard Skills การเปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานเป็นโปรเจ็กต์ (Project-based Work) และพนักงานยังสามารถทำงานข้ามแผนกได้ (Cross-Functional Coolaboration)
การเทรนนิ่งเป็นแค่ 1 อย่าง ของกลยุทธ์ด้าน HR กลยุทธ์เอชอาร์ของดีแทค มี 4 เรื่องหลักๆ คือ 1.การบริหารจัดการให้แน่ใจว่า มีโครงการสร้างองค์กรในขนาดที่ใช่ ทำให้คนทำงานได้อย่างดี (Organization) 2. Culture วัฒนธรรมองค์กรที่มีช่วยให้บุคลากรได้เรียนรู้ สามารถสร้างผลงาน และมีความสุขในการทำงาน 3. Skills&Capability และ 4. Digital Journey การเป็นบริษัทดิจิตอล ต้องมีการสร้างสรรค์ให้พนักงานได้มีเส้นทางสู่การเป็นคนดิจิตอล
ทักษะหลักๆ ที่ดีแทคจัดคอร์สให้กับพนักงาน กับโปรแกรม “40-hour Challenge” เนื้อหาในการเรียนรู้ พนักงานแต่ละคนสามารถเลือกได้เอง เพื่อให้เขาสามารถนำมาใช้กับการทำงานได้จริง โดยหลักๆ ที่เตรียมไว้มี 5 ด้าน คือ 1. Digital Marketing 2.Digital Channels 3. Appiled Analytics 4. Design และ 5. Product Development
โปรแกรม “40-hour Challenge” มีทักษะดิจิตอลทั้งในรูปแบบ Soft Skills และ Hard Skills โดยจะมีคะแนนของแต่ละคลาสในหัวข้อ ตั้งแต่รูปแบบการทำงานแบบอะไจล์ ไปสู่การวิเคราะห์ และประสบการณ์ของลูกค้าดิจิตอล คอร์สจัดเป็นรูปแบบออนไลน์ที่สามารถเรียนรู้ที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ และเพื่อให้การเรียนไม่น่าเบื่อ ยังได้ใช้เกมเข้ามาประยุกต์ (gamification) ซึ่งเมื่อเรียนคลาสไหนสำเร็จแล้ว สามารถปลดล็อกรับ badge คอร์สขั้นสูง และดีแทคคอยน์ได้
“นาฎฤดี” บอกว่า โปรแกรม “40-hour Challenge” เป็น On Top Training ที่เข้ามาเติมเต็มคอร์สอบรมอื่นๆ ทำให้บุคลากรของดีแทคก้าวสู่การเป็นมนุษย์พันธุ์ดิจิตอลได้อย่างรวดเร็ว และตรงกับความต้องการของเขาจริงๆ และรูปแบบการอบรมเดิมๆ ก็จะมีการพัฒนาให้เข้ากับแนวทางการพัฒนาองค์กรสู่ดิจิตอลด้วยเช่นกัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,334 วันที่ 25 - 27 มกราคม พ.ศ. 2561
“นาฎฤดี อาจหาญวงศ์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ทุกอย่างที่ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลทำ จะลิงก์ไปกับกลยุทธ์ระยะยาว (long term strategy) ของดีแทค และหนึ่งในวิธีการพัฒนาคนดีแทคให้เป็นคนดิจิตอล คือ โปรแกรม “40-hour Challenge” ที่เป็นการเปิดโอกาสให้คนดีแทคกว่า 4 พันคน เข้าร่วมคอร์สอบรมเกี่ยวกับดิจิตอลผ่านระบบออนไลน์ 40 ชั่วโมง โดยดีแทคได้ร่วมมือกับ Lynda.com Coursera และเทเลนอร์ จัดสรรคอร์สนับพันคอร์ส มาให้พนักงานได้เลือกให้ตรงกับความต้องการของตัวเองให้มากที่สุด
ที่ผ่านมา ดีแทคใช้เวลาในการปรับเปลี่ยน mindset ของบุคลากร จนเข้าใจดีแล้ว ทุกคนต้องเปลี่ยน เพื่อการก้าวไปสู่การเป็นเบอร์ 1 ดิจิตอลแบรนด์ และองค์กรยังได้สนองตอบคนพันธุ์ดิจิตอลใน 6 ลักษณะ ไม่ว่าจะเป็น การจัดสถานที่ที่สนับสนุนให้เขาทำงานได้จริง (Focused on Accomplishments) การเปิดโอกาสให้บุคลากรได้เรียนรู้ตลอดเวลา(Continuous Learning) การมอบสวัสดิการ หรือโบนัสในรูปแบบใหม่ๆ ให้ (Non-Traditional Benefits) การให้คุณค่ากับทั้ง Soft Skills และ Hard Skills การเปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานเป็นโปรเจ็กต์ (Project-based Work) และพนักงานยังสามารถทำงานข้ามแผนกได้ (Cross-Functional Coolaboration)
การเทรนนิ่งเป็นแค่ 1 อย่าง ของกลยุทธ์ด้าน HR กลยุทธ์เอชอาร์ของดีแทค มี 4 เรื่องหลักๆ คือ 1.การบริหารจัดการให้แน่ใจว่า มีโครงการสร้างองค์กรในขนาดที่ใช่ ทำให้คนทำงานได้อย่างดี (Organization) 2. Culture วัฒนธรรมองค์กรที่มีช่วยให้บุคลากรได้เรียนรู้ สามารถสร้างผลงาน และมีความสุขในการทำงาน 3. Skills&Capability และ 4. Digital Journey การเป็นบริษัทดิจิตอล ต้องมีการสร้างสรรค์ให้พนักงานได้มีเส้นทางสู่การเป็นคนดิจิตอล
โปรแกรม “40-hour Challenge” มีทักษะดิจิตอลทั้งในรูปแบบ Soft Skills และ Hard Skills โดยจะมีคะแนนของแต่ละคลาสในหัวข้อ ตั้งแต่รูปแบบการทำงานแบบอะไจล์ ไปสู่การวิเคราะห์ และประสบการณ์ของลูกค้าดิจิตอล คอร์สจัดเป็นรูปแบบออนไลน์ที่สามารถเรียนรู้ที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ และเพื่อให้การเรียนไม่น่าเบื่อ ยังได้ใช้เกมเข้ามาประยุกต์ (gamification) ซึ่งเมื่อเรียนคลาสไหนสำเร็จแล้ว สามารถปลดล็อกรับ badge คอร์สขั้นสูง และดีแทคคอยน์ได้
“นาฎฤดี” บอกว่า โปรแกรม “40-hour Challenge” เป็น On Top Training ที่เข้ามาเติมเต็มคอร์สอบรมอื่นๆ ทำให้บุคลากรของดีแทคก้าวสู่การเป็นมนุษย์พันธุ์ดิจิตอลได้อย่างรวดเร็ว และตรงกับความต้องการของเขาจริงๆ และรูปแบบการอบรมเดิมๆ ก็จะมีการพัฒนาให้เข้ากับแนวทางการพัฒนาองค์กรสู่ดิจิตอลด้วยเช่นกัน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,334 วันที่ 25 - 27 มกราคม พ.ศ. 2561
