SCB ชูกลยุทธ “กลับหัวตีลังกา” สู่ดิจิทัลเต็มตัว ลดต้นทุน คน-สาขา

22 ม.ค. 2561 | 15:04 น.
 

ธ.ไทยพาณิชย์ ชูกลยุทธ์ปี 61 “Going Upside Down” เพิ่มประสิทธิภาพ –ขีดความสามารถการใช้ข้อมูล รุกธุรกิจโลกดิจิตัล-นิวบิสซิเนต ตั้งเป้า 3 ปีเป็น Digital Platform ลดต้นทุนลง 30% เหลือพนง.1.5 หมื่นคน-สาขา 400 แห่ง

[caption id="attachment_252546" align="aligncenter" width="503"] นายอาทิตย์ นันทวิทยา นายอาทิตย์ นันทวิทยา[/caption]

นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) กล่าวว่า ภายใต้การแข่งขันที่เข้มข้นของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และการเข้ามาของธุรกิจ Patform ระดับโลกที่กำลังจะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของธุรกิจธนาคาร กอปรกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปิดรับการใช้เทคโนโลยีอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้การบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก ที่เห็นชัดเจนคือ โครงสร้างรายได้จากที่มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมประมาณ 30% และอีก 70% มาจากดอกเบี้ย เริ่มเห็นว่ารายได้จากค่าธรรมเนียมค่อย ๆ ลดลงที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากการแทนที่ของเทคโนโลยีแทนการให้บริการโดยคน

ปี 2561 จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการปรับตัวครั้งใหญ่อีกครั้ง ภายใต้กลยุทธ์ “Going Upside Down” (กลับหัวตีลังกา) ที่ธนาคารจะโฟกัส5 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.Lean the Bank (เพิ่มประสิทธิภาพธนาคาร) 2.High Margin Lending (ปล่อยสินเชื่อธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง) 3.Digital Acquisition (การดำเนินธุรกิจในโลกดิจิตอล) 4.Data Capabilities (เพิ่มขีดความสามารถในการใช้ข้อมูล) 5.New Business Model (ธุรกิจรูปแบบใหม่ )` ขณะที่ที่รายได้หลักของธนาคาร ยังคงมาจากธุรกิจ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อเพื่อการบริโภค และการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) โดยธนาคารตั้งเป้าหมายสูงสุดในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเป็น Digital Platform ขนาดใหญ่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลเป็นหลัก

5_2020 SCB Vision ต่อข้อถามที่ว่าการเป็น Digital Platform ส่งผลให้ธนาคารในอีก 3 ปีจะมีความคล่องตัวจากขนาดที่สลิมมากขึ้น จะส่งผลต่อจำนวนพนักงานและสาขาอย่างไร ? เขากล่าวว่าเป้าสาขาจากปัจจุบันที่มี 1,153 แห่ง ตั้งเป้าใน 3 ปีหรือปี 2563 จะให้ลดเหลือ 400 สาขา และพนักงานงานจาก 27,000 คน จะเหลือ 15,000 คน แต่ทั้งนี้ธนาคารไม่มีธงจะปลดพนักงานออกแต่อย่างไร เนื่องจากทุกปีจะมีพนักงานลาออกอยู่แล้วปีละประมาณ 3,000คน ช่วง 3 ปีน่าจะได้ 10,000 คน พร้อมกับชะลอรับพนักงานโดยการโยกย้ายไปยังศูนย์ธุรกิจที่ธนาคารจะเน้นมากขึ้น ขณะเดียวกันการทำธุรกรรมลูกค้าจะผ่านเทคโนโลยี่และโมบายมากขึ้น แทนสาขา

“จากที่แบงก์ทุ่มงบลงทุนด้านเทคโนโลยีเป็นหลักวงเงินรวม 40,000 ล้านบาท เราตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี ต้นทุนดำเนินการของแบงก์ จะลดลงได้ประมาณ 30% ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้และกำไรในอนาคต จากที่ผ่านมาเฉลี่ยปีหนึ่ง ๆแบงก์มีรายได้ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท และ 30 % เป็นกำไรสุทธิหรือเฉลี่ยปีละ 4 หมื่นล้านบาท ในจำนวน 1.3 แสนล้านบาท “

728x90-03-3-503x62 ทั้งนี้ปีที่ผ่านมา ธนาคารไทยพาณิชย์ได้เปลี่ยนผ่านองค์กรภายใต้ภารกิจ “SCB Transformation” เพื่อเป้าหมายการเป็น “The Most Admired Bank” โดยได้มุ่งเน้นการสร้างรากฐานขององค์กรใหม่ ได้แก่ การยกระดับเทคโนโลยีของธนาคารเพื่อรองรับยุคดิจิทัล การเพิ่มขีดความสามารถของเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม รวมถึงการพัฒนาบริการบน New Mobile Banking หรือ SCB Easy ที่มุ่งเน้นให้เป็น Lifestyle Application รวมถึงการผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสด ด้วยพัฒนาระบบการชำระเงินผ่าน QR Code ฯลฯ ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-7-503x62