VTEเนื้อหอม!นักลงทุนหนุนพีพี

22 ม.ค. 2561 | 09:15 น.
บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) (VTE) แจ้งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2561 มีมติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้ง ที่ 1/2561 วันที่ 5 มีนาคม 2561 เวลา 14.00 น. เพื่อขออนุมัติลดทุนและเพิ่มทุน

บริษัทจะลดทุนจดทะเบียนจำนวน 187,675,687 บาท จากเดิม 1,266,554,542 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,078,878,855 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียน จาก 1,078,878,855 บาท เป็น 1,539,209,053 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญจำนวน 460,330,198 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

ทั้งนี้บริษัทจะขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพื่อจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ที่จะนำเสนอให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 300 ล้านหุ้น ในราคาที่ไม่ต่ำกว่า 90% ของราคาตลาดคำนวณแบบถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักย้อนหลัง 7 วัน และวันกำหนดราคาเสนอขายหุ้นต้องย้อนหลังไม่เกินกว่า 3 วันทำการก่อนวันแรกที่เสนอขายต่อนักลงทุน โดยจะแจ้งรายชื่อนักลงทุนก่อนการจัดส่งหนังสือนัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ไปยังผู้ถือหุ้น
vte1 นอกจากนี้จะเพิ่มทุนให้แก่ Macquarie Bank Limited ซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป ตามที่ได้รับอนุมัติแล้วจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560

ที่ประชุมคณะกรรมการยังได้มีมติว่า การรับรองการเข้าลงทุนเพิ่มเติมใน GEP นั้น จะต้องมีมติอนุมัติ จากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2561 ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้

ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 บริษัทจะขอพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการเข้าลงทุนเพิ่มเติมใน บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (Green Earth Power (Thailand) Co., Ltd.) หรือ GEPT โดยบริษัทจะทำการชำระการซื้อหุ้นและชำระค่าหุ้น ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้เป็นการแลกเปลี่ยน โดยจะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GEPT จำนวน 188,634 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็น 15% ของหุ้นสามัญทั้งหมดของ GEPT ในราคาหุ้นละ 1,021.35 บาท จากผู้ถือหุ้นเดิมของ GEPT รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 192,661,336 บาท

728x90-03-3-503x62

นายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ กรรมการบริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่บริษัทและผู้ถือหุ้น ประการแรกในฐานะที่บริษัทเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าที่ประเทศเมียนมานั้น บริษัทจะนำเงินทุนที่ได้ไปใช้ในการชำระหนี้จากตั๋วแลกเงิน(B/E) ที่กู้ยืมมาใช้สำหรับการก่อสร้างครั้งนี้ ซึ่งการลดภาระทางการเงินดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในปีนี้และต่อเนื่องไปอีก 4ปี จนถึงปี 2564 ตามระยะการก่อสร้างของโครงการที่ถูกแบ่งออกเป็น 4 เฟส

ประการต่อมา เป็นผลดีต่อกลุ่มผู้ถือหุ้นเก่าเพราะการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนโดยการแลกหุ้นกับ GEPT จะทำให้บริษัทถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 12% เป็น 27% และส่งผลให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นตามอัตราส่วนการถือหุ้น โดยรายได้จากการเข้าถือหุ้น GEPT จะเป็นรายได้ที่มั่นคงและมีระยะเวลานานถึง 30 ปี
ทั้งนี้โครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จและ COD ได้ช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบอัตราส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น ต่อจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการเพิ่มทุน (EPS) แล้วนั้น พบว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะสูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งบริษัทฯและผู้ถือหุ้นของบริษัท

e-book