เฮเฟเล่ทุ่ม400ล้านรับศก.ฟื้น ขยายคลังสินค้าเพิ่มเท่าตัว-ตั้งเป้าทั้งปีเติบโต10%
เฮเฟเล่ เดินเกมรุกรับเศรษฐกิจฟื้น ขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มอีก 1 หมื่นตร.ม. พร้อมเตรียมนำเข้าสินค้านวัตกรรมดีไซน์ใหม่เทรนด์ฮิตกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าดีไอวาย หวังโกยยอดขายทั้งลูกค้าโครงการยันผู้ใช้
นายโฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2561 เตรียมรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยวางแผนลงทุนกว่า 400 ล้านบาท ขยายพื้นที่คลังสินค้า บางนา กม. 22 เพิ่มเป็น 2 เท่าตัว จาก 1 หมื่นตารางเมตร เป็น 2 หมื่นตารางเมตร สำหรับรองรับสินค้าที่จะนำเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งในปี 2561 เฮเฟเล่วางแผนขยายไลน์สินค้ากลุ่มนวัตกรรม Internet of Things (IoT) อาทิ ระบบล็อกประตูด้วยไฟฟ้าซึ่งควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน จากแบรนด์รายใหม่จากยุโรปที่เป็นพันธมิตรธุรกิจ เน้นเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่มีนวัตกรรมสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนไทยในยุคดิจิตอล
[caption id="attachment_251790" align="aligncenter" width="340"]
โฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]
ทั้งนี้ในปี 2561 เฮเฟเล่จะทยอยเปิดตัวนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ซีรีส์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์วิสัยทัศน์องค์กร “การคิดไปข้างหน้า” อย่างต่อเนื่อง ที่มุ่งรักษาความเป็นผู้นำแบรนด์นวัตกรรมสินค้าเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นภายใต้แนวคิด “Complete building solutions อุปกรณ์ครบจบทุกเรื่องงานอาคาร” ซึ่งล้วนเป็นดีไซน์ใหม่ที่เป็นเทรนด์ฮิตของโลก
นอกจากนี้ในส่วนของโชว์รูมเฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิท 64 ยังได้มีการขยายพื้นที่สำหรับการแสดงสินค้ากลุ่ม DIY สำหรับตลาด B2B และเอนด์ยูสเซอร์ ตลอดจนกลุ่มสินค้าฮาร์ดแวร์ที่สนองความต้องการในยุคนี้อย่างมาก ปัจจุบันมีสินค้าในตลาดอยู่ 2.2 หมื่นรายการ โดยมีสินค้าเข้าใหม่ทุกเดือน เดือนละ 80-100 รายการ โดยแบ่งประเภทสินค้าเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ 2. อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ฟิตติ้ง 3. เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและครัวเรือน 4. ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องนํ้า 5. ระบบแสงสว่าง และ 6. กลุ่มเครื่องมือช่าง
สำหรับภาพรวมการตลาดในปี 2560 ที่ผ่านมายอมรับว่าภาวะยังทรงตัวจึงเติบโตไม่ได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ ดังนั้นปี 2561 จึงยังกำหนดเป้าไว้ในระดับของปีที่ผ่านมา แต่มั่นใจว่าปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีหลายปัจจัยบวกโดยเฉพาะภาวะและทิศทางเศรษฐกิจของประเทศชัด เจนขึ้นในหลายด้าน โดยเฉพาะการเปิดสินค้าใหม่อีกหลายรายการน่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้า ตลอดจนการรุกตลาดออนไลน์
“กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ยังน่าสนใจ อีกทั้งยังมองโอกาสเติบโตตามภาคธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ทุกกลุ่ม รวมถึงตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม และเมียนมา ที่อยู่ระหว่างการได้รับงานโรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองเนปิดอว์”
ปัจจุบันเฮเฟเล่มีโชว์รูม 6 สาขาในไทย การรุกตลาดยังเน้นขายตรงกับโครงการ และขายผ่านดีลเลอร์ โดยตลาดโครง การยังเติบโตดีกว่า อย่างไรก็ตามปีนี้เร่งกระจายศูนย์บริการสินค้าไปยังภูมิภาคต่างๆ เพราะแต่ละโชว์รูมดีลเลอร์จะเป็นจุดที่ให้ลูกค้ามาสัมผัสสินค้าได้เลยทันที เน้นโชว์ดีไซน์ อินโนเวชันให้ดีลเลอร์และสถาปนิกออกแบบได้อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้เฮเฟเล่ยังวาง แผนการสื่อสารการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งช่องทางไลน์ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม โดยในไตรมาสแรกปี 2018 เตรียมเปิดตัวสติกเกอร์ไลน์ ซีรีส์ 2 ตลอดจนขยายฐานการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์บน www.hafelethailandshop.com ซึ่งคาดว่าทั้งการนำเข้าผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิตอล และการวางแผนเชิงรุกการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์จะเป็น ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ยอดขายในปีนี้ของเฮเฟเล่ (ประเทศไทย) เติบโตขึ้น 7-10%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,333 วันที่ 21 - 24 มกราคม พ.ศ. 2561
นายโฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2561 เตรียมรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยวางแผนลงทุนกว่า 400 ล้านบาท ขยายพื้นที่คลังสินค้า บางนา กม. 22 เพิ่มเป็น 2 เท่าตัว จาก 1 หมื่นตารางเมตร เป็น 2 หมื่นตารางเมตร สำหรับรองรับสินค้าที่จะนำเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งในปี 2561 เฮเฟเล่วางแผนขยายไลน์สินค้ากลุ่มนวัตกรรม Internet of Things (IoT) อาทิ ระบบล็อกประตูด้วยไฟฟ้าซึ่งควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน จากแบรนด์รายใหม่จากยุโรปที่เป็นพันธมิตรธุรกิจ เน้นเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่มีนวัตกรรมสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนไทยในยุคดิจิตอล
[caption id="attachment_251790" align="aligncenter" width="340"]
ทั้งนี้ในปี 2561 เฮเฟเล่จะทยอยเปิดตัวนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ซีรีส์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์วิสัยทัศน์องค์กร “การคิดไปข้างหน้า” อย่างต่อเนื่อง ที่มุ่งรักษาความเป็นผู้นำแบรนด์นวัตกรรมสินค้าเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นภายใต้แนวคิด “Complete building solutions อุปกรณ์ครบจบทุกเรื่องงานอาคาร” ซึ่งล้วนเป็นดีไซน์ใหม่ที่เป็นเทรนด์ฮิตของโลก
นอกจากนี้ในส่วนของโชว์รูมเฮเฟเล่ ดีไซน์ สตูดิโอ สุขุมวิท 64 ยังได้มีการขยายพื้นที่สำหรับการแสดงสินค้ากลุ่ม DIY สำหรับตลาด B2B และเอนด์ยูสเซอร์ ตลอดจนกลุ่มสินค้าฮาร์ดแวร์ที่สนองความต้องการในยุคนี้อย่างมาก ปัจจุบันมีสินค้าในตลาดอยู่ 2.2 หมื่นรายการ โดยมีสินค้าเข้าใหม่ทุกเดือน เดือนละ 80-100 รายการ โดยแบ่งประเภทสินค้าเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ 2. อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ฟิตติ้ง 3. เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและครัวเรือน 4. ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องนํ้า 5. ระบบแสงสว่าง และ 6. กลุ่มเครื่องมือช่าง
สำหรับภาพรวมการตลาดในปี 2560 ที่ผ่านมายอมรับว่าภาวะยังทรงตัวจึงเติบโตไม่ได้ตามเป้าที่กำหนดไว้ ดังนั้นปี 2561 จึงยังกำหนดเป้าไว้ในระดับของปีที่ผ่านมา แต่มั่นใจว่าปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากมีหลายปัจจัยบวกโดยเฉพาะภาวะและทิศทางเศรษฐกิจของประเทศชัด เจนขึ้นในหลายด้าน โดยเฉพาะการเปิดสินค้าใหม่อีกหลายรายการน่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้า ตลอดจนการรุกตลาดออนไลน์
“กลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ยังน่าสนใจ อีกทั้งยังมองโอกาสเติบโตตามภาคธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ทุกกลุ่ม รวมถึงตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม และเมียนมา ที่อยู่ระหว่างการได้รับงานโรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองเนปิดอว์”
นอกจากนี้เฮเฟเล่ยังวาง แผนการสื่อสารการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งช่องทางไลน์ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม โดยในไตรมาสแรกปี 2018 เตรียมเปิดตัวสติกเกอร์ไลน์ ซีรีส์ 2 ตลอดจนขยายฐานการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์บน www.hafelethailandshop.com ซึ่งคาดว่าทั้งการนำเข้าผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิตอล และการวางแผนเชิงรุกการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์จะเป็น ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ยอดขายในปีนี้ของเฮเฟเล่ (ประเทศไทย) เติบโตขึ้น 7-10%
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,333 วันที่ 21 - 24 มกราคม พ.ศ. 2561
