‘ดีแทค’เพาะพันธุ์มนุษย์ดิจิตอล

24 ม.ค. 2561 | 13:52 น.
“ดีแทค” ตั้งเป้าเชิงรุก สร้างพนักงานที่มากความสามารถด้านดิจิตอลระดับท็อปได้ ภายในปี 2561 เปิดตัวอบรม หลักสูตรดิจิตอล 40 ชั่วโมงแห่งความท้าทาย

นางสาวนาฎฤดี อาจหาญวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ขณะนี้ ดีแทค ได้จัดโปรแกรม “40-hour Challenge” เพื่อสนับสนุนให้พัฒนาทักษะด้านดิจิตอล และเข้าร่วมคอร์สอบรมเกี่ยวกับดิจิตอลผ่านระบบออนไลน์จำนวน 40 ชั่วโมงให้เสร็จสิ้นภายในปี 2561 นี้ ซึ่งจำนวนชั่วโมงการอบรมดังกล่าวสูงกว่าค่าเฉลี่ยปัจจุบันของดีแทคถึง 3-4 เท่า และมากกว่าที่กฎหมายกำหนดสูง สุดถึง 10 เท่า โปรแกรมนี้นำเสนอชั้นเรียนออนไลน์ระดับโลก ซึ่งจัดทำโดยความร่วมมือระหว่าง Lynda.com Coursera

และเทเลนอร์ โปรแกรมนี้เป็น โปรแกรมที่ยิ่งใหญ่กว่าโปรแกรมอื่นๆ ที่ได้เคยจัดมา โดยมีเป้าหมายการฝึกอบรมให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งตั้งไว้มากกว่า 100,000 ชั่วโมง โดยนับจำนวนชั่วโมงรวมของพนักงานทั้งองค์กร

อย่างไรก็ตาม ดีเอ็นเอ ของ ดีแทค คือการลงมือทำอย่างรวดเร็ว คิดแตกต่าง กล้าที่จะทำ และมีความกระตือรือร้นที่จะมุ่งสู่ชัยชนะ ขณะนี้ดีเอ็นเอดังกล่าวได้ถูกฝังอยู่ในวัฒนธรรมของบริษัทแล้ว พนักงานที่กำลังตั้งคำถามว่า “เราจะช่วยอย่างไรได้บ้าง มีที่ไหนบ้างที่เราสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้” นี่คือตัวตนของโปรแกรม “40-hour Challenge” ที่จะเป็นเครื่องมือที่พนักงานต้องการ ในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

MP20-3333-1B สำหรับโปรแกรม “40-hour Challenge” นี้จะช่วยพัฒนา บุคลากรทั้งทักษะดิจิตอลในรูปแบบฮาร์ดสกิล และซอฟต์สกิล โดยจะมีคะแนนของแต่ละคลาสในหัวข้อตั้งแต่รูปแบบการทำงานแบบอะไจล์ ไปสู่การวิเคราะห์ และประสบการณ์ของลูกค้าดิจิตอล คลาสต่างๆที่มีให้เรียนออนไลน์จะพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา กับการใช้งานด้วยโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นพนักงานสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา การอบรมของดีแทคครั้งนี้ยังใช้เกมเข้ามาประยุกต์ใช้ (gamification) ซึ่งเมื่อเรียนคลาสไหนสำเร็จแล้วสามารถปลดล็อกรับ badge คอร์สขั้นสูง และดีแทคคอยน์ได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนพนักงานให้จัดการการเรียนรู้ในหัวข้อที่พวกเขารัก และสามารถช่วยวางแผนความก้าวหน้าของการเรียนตามความต้องการส่วนบุคคลและยังรวมถึงความต้องการของทีมอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การฝึกอบรม จะได้รับแรงสนับสนุนจากการจ้างผู้มีความสามารถด้านดิจิตอลหน้าใหม่ๆ และการโยกย้ายภายในของพนักงาน ดีแทคมีอัตราการย้ายหน่วยงานภายในสูงมากถึง 38% ในแต่ละปี และกำลังประกาศรับพนักงานใหม่ในด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) การตลาดโซเชียล มีเดีย (Social Media Marketing) และพาณิชย์อิเล็ก ทรอนิกส์ (e-commerce)

728x90-03-3-503x62 ทั้งนี้ในปี 2560 ลูกค้า ดีแทค มากกว่าครึ่งหนึ่งชำระเงินค่าบริการผ่านแอพดีแทค ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมถึง 50% แอพสำหรับรีเทลเลอร์เติมเงินชื่อ ดีแทควัน ได้ถูกดาวน์โหลด 60,000 ครั้ง และสามารถลดขั้นตอนการทำงานพวกการเติมเงินลงจาก 45 วินาที เหลือแค่ 5 วินาทีเท่านั้น Chatbot สามารถตอบสนองได้มากถึง 30% ของความต้องการของลูกค้า ทั้งหมด จากช่องทาง SMS และจะมีการขยายช่องทางไปยัง Facebook ฟีเจอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมอะไจล์ ซึ่งทำงานแบบ Project- driven โดยที่บุคลากรต่างสาย งานมาทำงานร่วมกัน และสามารถ ทำงานได้สำเร็จอย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่ 2 สัปดาห์

“ปี 2561 จะเป็นปีที่สำคัญสำหรับดีแทค ได้รุกนำไปแล้วในอุตสาหกรรมด้วยทีมอะไจล์ที่มีมากกว่า 10 ทีมทั่วทั้งองค์กร แต่มันยังเป็นปีที่เราต้องนำดิจิตอลไปสู่ทุกคนอีกด้วย การฝึกอบรมจะช่วยให้ผู้ที่เต็มใจที่จะรับโอกาสเพื่อที่จะอยู่แถวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,333 วันที่ 21 - 24 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9