‘นิว เอสเคิร์ฟ’มาแรง ยื่นลงทุนปิโตรเคมีพุ่ง

“คณิศ” เผยยื่นขอรับส่งเสริมในอีอีซี “นิว เอสเคิร์ฟ” มาแรง กลุ่มปิโตรเคมีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้รับการตอบรับลงทุนต่อเนื่อง ขณะที่อุตฯเป้าหมายเดิมยังเป็นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนได้รับความสนใจ

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กนศ.) เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลมีนโยบายการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) โดยออกมาตรการส่งเสริมต่างๆ ส่งผลให้มีนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามายื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอในปี 2560 อย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า มีจำนวน 388 โครงการ เงินลงทุน 2.96 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง49% ที่มีมูลค่าลงทุน 1.99 แสนล้านบาท

[caption id="attachment_183607" align="aligncenter" width="503"] คณิศ แสงสุพรรณ[/caption]

โดยจังหวัดระยอง มียอดขอรับการส่งเสริมในรูปมูลค่าเงินลงทุนสูงสุดอยู่ที่ 1.88 แสนล้านบาท จำนวน 142 โครงการ รองลงมาเป็นจังหวัดชลบุรี มูลค่าเงินลงทุน 8.78 หมื่นล้านบาท จำนวน 188 โครงการ และจังหวัดฉะเชิงเทรา เงินลงทุน 3.92 หมื่นล้านบาท จำนวน 58 โครงการ

สำหรับการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี พบว่าอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (นิว เอสเคิร์ฟ) มีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1.316 แสนล้านบาท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีมูลค่าเงินลงทุนอยู่ที่ 1.24 แสนล้านบาท รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ เงินลงทุน 2,991 ล้านบาท
อุตสาหกรรมอากาศยาน เงินลงทุน 1,681 ล้านบาทอุตสาหกรรมดิจิตอลเงินลงทุน 1,676 ล้านบาทและอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเงินลงทุน 1,045 ล้านบาท

ส่วนอุตสาหกรรมเป้าหมายเดิม (เฟิร์ส เอสเคิร์ฟ) มียอดเงินลงทุน 1.174 แสนล้านบาท โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มีมูลค่าลงทุนสูงสุดที่ 5.209 หมื่นล้านบาท รองลงมาเป็น อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เงินลงทุน 3.49 หมื่นล้านบาท และอุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ เงินลงทุน 2.22 หมื่นล้านบาท เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,332 วันที่ 18 - 20 มกราคม พ.ศ. 2561