40 บิ๊กธุรกิจหมีขาว ตบเท้าลงทุนอีอีซี

20 ม.ค. 2561 | 02:54 น.
40 บิ๊กธุรกิจแดนหมีขาวยันมาแน่ปลายก.พ.นี้ แย้มรายชื่อมีทั้งยักษ์ใหญ่ไฮเทคเครื่องบิน ยานยนต์ โลจิสติกส์ หวังปักฐานในอีอีซีแข่งญี่ปุ่น ขณะเป้าการค้า 2 ฝ่าย 1 หมื่นล้านดอลล์ ยอดโตวันโตคืน

จากที่นักธุรกิจคณะใหญ่สุดจากรัสเซีย มีแผนเดินทางเยือนไทย เพื่อดูลู่ทางการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)นั้น นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เดิมคณะนักธุรกิจรัสเซียวางแผนจะมากลางเดือนมกราคม แต่ล่าสุดได้แจ้งเลื่อนเป็นปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เนื่องจากล้วนเป็นผู้บริหารของบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ประมาณ 30-40 คน ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของรัสเซีย และครอบครองวิทยาการชั้นสูงในหลากหลายสาขา ได้แก่ การบิน, ก่อสร้าง, ปิโตรเคมี,พลังงานทั้งนํ้ามัน ก๊าซ และนิวเคลียร์, ยา,โลจิสติกส์ ทั้งทางนํ้าและอากาศ รวมถึงดิจิตอลไอทีด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี และผู้ให้บริการระบบไฮเทคโซลูชันต่างๆ ซึ่งทั้งหมดอยู่กลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ที่รัฐบาลไทยจะดึงการลงทุนในอีอีซี

“ตารางเวลาที่ผู้บริหารบริษัทชั้นนำจะเดินทางมาพร้อมกันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อมค่อนข้างมาก โดยครั้งนี้มาภายใต้การนำของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการค้าของรัสเซีย ซึ่งกำหนดการที่ชัดเจน รวมถึงรายชื่อผู้บริหารของบริษัทชั้นนำที่จะมาครั้งนี้ ทางสภาธุรกิจไทย-รัสเซียอยู่ระหว่างประสานขอข้อมูลไป ได้รับแจ้งว่ายังไม่นิ่ง”

อย่างไรก็ดีรายงานจากสภาธุรกิจไทย-รัสเซียระบุผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ของรัสเซียที่จะเดินทางมาครั้งนี้ อาทิ บริษัท Sukhoi Civil Aircraft ผู้ผลิตเครื่องบินโดยสารที่มีชื่อเสียงในรัสเซีย, JSC Russian Helicopters ผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ ชั้นนำของโลก, Open Joint Stock Company Research and Production Corporation “Ural” ผู้ผลิตรถยนต์ รถถัง รถสำหรับก่อสร้างถนน, Rostec บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในรัสเซีย มีเครือข่ายกว่า 700 บริษัททั่วโลก ผลิตสินค้าครอบคลุมหลากหลาย และ Fesco Group กิจการโลจิสติกส์และเดินเรือชั้นนำ เป็นต้น

tp2-3332-3 “ครั้งนี้เชื่อว่าจะมีบริษัทขนาดใหญ่จากรัสเซียเข้ามาลงทุนในไทย แข่งกับนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน ยุโรป และสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ในภูมิภาคอาเซียนมี 2 ประเทศเป้าหมายที่รัสเซียสนใจลงทุน ได้แก่ เวียดนามและไทย ซึ่งในส่วนของเวียดนามรัฐบาลได้สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมทั่วไป ขณะที่รัฐบาลไทยสนับสนุนการลงทุนอุตสาห กรรมใช้เทคโนโลยีชั้นสูง และมีการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน และสิทธิพิเศษด้านการลงทุนรองรับ ซึ่งตรงกับเป้าหมายที่รัสเซียต้องการลงทุนมากกว่า”

ด้านการค้าไทย-รัสเซีย แหล่งข่าวจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า จากที่รัฐบาลไทยและรัสเซียตั้งเป้าจะขยายการค้าให้ได้ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2563 นั้น มองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ โดยจากข้อมูลการค้าไทย-รัสเซีย ช่วง 11 เดือนแรกปี 2560 มีมูลค่ารวม 2,779.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือกว่า 9.5 หมื่นล้านบาท) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 60% โดยไทยส่งออกมูลค่า 952.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 79% (กราฟิกประกอบ) และไทยนำเข้า 1,827.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไทยขาดดุลการค้ารัสเซีย 875.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

728x90-03-3-503x62 (1) อย่างไรก็ดีคาดการณ์การค้าไทย-รัสเซียในปี 2561 จะยังโตต่อเนื่อง ในอัตราการขยายตัวใกล้เคียงกับปี 2560 มีผลสืบเนื่องจากการค้า การลงทุนระหว่างรัสเซียกับสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป (อียู) สะดุดลง หลังสหรัฐฯและอียูควํ่าบาตรรัสเซียมาก่อนหน้านี้ (กรณียึดครองคาบสมุทรไครเมีย) ส่งผลให้รัสเซียหันมาทำการค้าการลงทุนโดยใช้นโยบาย Look East หรือมองตะวันออกมากขึ้น โดยหนึ่งในเป้าหมายคือประเทศไทย คาดเป้าหมายต่างๆ จะบรรลุผลได้ในเวลาอันใกล้นี้

ขณะรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ระบุในปี 2561 จะมี 2 เหตุการณ์ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของรัสเซียให้ขยายตัว ได้แก่ 1.การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม และ 2.การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคม โดยนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ประกาศตัวลงชิงตำแหน่งอีกครั้ง และมีแนวโน้มจะชนะการเลือกตั้ง และสามารถอยู่ในตำแหน่งได้อีก 6 ปี เป็นหลักประกันได้ว่า แนวนโยบายการบริหารประเทศจะยังคงเหมือนเดิมไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าการลงทุน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,332 วันที่ 18 - 20 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-7-503x62