แอร์เปิดศึกชิง 3 หมื่นล. แห่ออกรุ่นใหม่ ขยายฐานเจาะโครงการ โฮมออฟฟิศ

20 ม.ค. 2561 | 09:35 น.
เครื่องปรับอากาศ ชิงเค้กตลาด 3 หมื่นล้าน หลังปัจจัยบวกทั้งอากาศ กำลังซื้อหนุนตลาดเติบโต 5-10% จากก่อนหน้าตลาดหดตัว 10% แบรนด์ดังเปิดศึกชิงตลาดรับไฮซีซัน ออกรุ่นใหม่-ขยายฐานลูกค้าโครงการเพิ่มยอด

เครื่องปรับอากาศแบรนด์ต่างๆ เริ่มทยอยเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่กันบ้างแล้ว เพื่อหวังชิงส่วนแบ่งการตลาดในช่วงไฮซีซันหรือหน้าร้อนที่จะถึงนี้ เพราะตลาดเครื่องปรับอากาศเมืองไทยมูลค่ามากกว่า 3 หมื่นล้านบาท แม้ผู้ประกอบการหลายรายประเมินว่าในปีที่ผ่านมาตลาดเครื่องปรับอากาศจะติดลบ แต่ทิศทางในปีนี้ทุกรายต่างฟันธงเป็นสียงเดียวกันว่า ในปีนี้จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากปัจจัยบวกสภาพอากาศที่คาดว่าจะร้อนยาวนานกว่าปีที่ผ่านมา สภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว ก็ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการผลักดันตลาดให้เติบโตด้วยเช่นกัน รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมสินค้าที่จะสร้างให้เกิดความต้องการมากขึ้นด้วย

ขณะที่เทรนด์เครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์หรือเครื่องปรับอากาศนวัตกรรมใหม่ที่มีจุดเด่นเรื่องการประหยัดไฟและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ก็ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน ซึ่งเครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์เข้ามาในเมืองไทยกว่า 8-9 ปีแล้ว และมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีสัดส่วนในตลาดเริ่มแซงหน้าเครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา และภายในปีนี้คาดว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 60% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 43%

[caption id="attachment_32358" align="aligncenter" width="333"] นายนิพนธ์ วงศ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด นายนิพนธ์ วงศ์แสงอรุณศรี
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]

นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์แอลจี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในช่วงหน้าร้อนปีนี้ว่า น่าจะมีการเติบโตที่ 5-10% สำหรับช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม จากปีที่ผ่านมามูลค่าตลาดติดลบในอัตรา 10%

การเติบโตของตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้นั้น เป็นผลจากปัจจัยบวกที่สภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการแต่ละแบรนด์ต่างเร่งจัดกิจกรรมการตลาดกระตุ้นยอดขายอีกครั้ง ขณะที่สภาพอากาศที่น่าจะกลับมาร้อนยาวนานกว่าปีที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ตลาดกลับมาเติบโตได้ในปีนี้เช่นกัน
“ยอดขายของเครื่องปรับอากาศที่มาจากหน้าร้อนมีสัดส่วนสูงถึง 50% จากสัดส่วนยอดขายตลอดทั้งปี”

MP36-3332-A ขณะที่เทรนด์เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรง และได้รับความนิยมในเมืองไทยขณะนี้ เนื่องมาจากมีจุดเด่นในการประหยัดไฟ มีฟังก์ชันให้เลือกหลากหลาย สังเกตได้จากสัดส่วนเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ในเมืองไทย ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของตลาดเครื่องปรับอากาศในเมืองไทย เริ่มมีการนำระบบอินเวอร์เตอร์เข้ามาใช้เมื่อช่วง 8-9 ปีที่ผ่าน และมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 29% ในปี 2559 และเพิ่มเป็น 43% ในปี 2560 โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 60% ในสิ้นปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัท ที่ได้ปรับไลน์การผลิตเครื่องปรับอากาศแอลจีเป็นแบบอินเวอร์เตอร์ทุกรุ่นเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559

สำหรับแผนงานของบริษัทในปีนี้ได้เตรียมเปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่ทั้งสิ้น 4 ซีรีส์ 16 รุ่น ได้แก่ 1.ซีรีส์สแตนดาร์ด 2.ซีรีส์ 2 ที่มีฟังก์ชันไว-ไฟเข้ามาเสริมความต้องการของลูกค้า 3.ซีรีส์ Hight HEER ที่มีค่าประหยัดเป็นพิเศษ และซีรีส์สุดท้ายจะเปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ พร้อมกันนี้ได้เตรียมจัดโปรโมชันพิเศษในช่วงหน้าร้อนนี้

ด้านนายอดิศักดิ์ รัมมณีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะ ดูแลธุรกิจร่วมระหว่างเครื่องปรับอากาศแคเรียร์กับโตชิบา โดย บริษัท โตชิบา แคเรียร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ระบบ VRF รุ่นใหม่ในรอบ 3 ปี ออกทำตลาดในปีนี้ ทั้งสิ้น 2 รุ่น SMMS-7 เน้นเจาะตลาดลูกค้าโครงการ และ Mini-7 ซึ่งเป็นการเปิดตลาดเครื่องปรับอากาศระบบ VRF ในเซ็กเมนต์ใหม่ โดยมีจุดเด่นคือมีขนาดเล็กและประหยัดไฟ และสามารถขยายเข้าไปในตลาดกลุ่มเครื่องปรับอากาศ โฮมออฟฟิศ หรือบ้านพักอาศัยได้ จากเดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้าโครงการขนาดใหญ่ โดยมั่นใจว่า การรุกตลาดในปีนี้จะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากปัจจุบันอยู่อันดับที่ 3 ขึ้นไปเป็นอันดับที่ 2 ได้

[caption id="attachment_248840" align="aligncenter" width="503"] อดิศักดิ์ รัมมณีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด อดิศักดิ์ รัมมณีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด[/caption]

ก่อนหน้านี้ทางแคเรียร์ ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศภาย ในบ้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย นายวรเศรษฐ์ ตันติศิริวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.กริม แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดเครื่องปรับอากาศ คาดว่าน่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 5-10% โดยบริษัทได้เพิ่มงบโฆษณาอีก 50% แบ่งงบประมาณเป็นสื่อทางออฟไลน์ 60% และออนไลน์ 40% พร้อมกับเปิดตัวแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของแคเรียร์ คือ ทอม Room 39

สำหรับตลาดรวมของเครื่องปรับอากาศปีที่ผ่านมามีมูลค่าราว 2.5 หมื่นล้านบาท สัดส่วนยอดขายตลาดเชิงพาณิชย์อยู่ที่ 35% ตลาดภาย ในบ้าน สัดส่วน 65% โดยในส่วนยอดขายเครื่องปรับอากาศแบรนด์แคเรียร์ ในปี 2017 มีอัตราการเติบโตที่ 22% ซึ่งถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด โดยแคเรียร์ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 20% ของตลาดรวมทั้งประเทศ

[caption id="attachment_181280" align="aligncenter" width="503"] มร.จาง เจิ้งฮุ้ย มร.จาง เจิ้งฮุ้ย[/caption]

ด้านนายจาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหารบริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดทำให้บริษัทมีการเดินหน้ารุกตลาดเข้า ไปในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า Mid-Hi-end มากขึ้น เนื่องจากในปีหน้า อัตราภาษี FTA ไทย-จีน จะลดลงเหลือ 5% ซึ่งส่งผลดีต่อสินค้านำเข้า โดยได้เตรียมนำสินค้ากลุ่ม ดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น เพื่อเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้ากลุ่ม Mid-Hi-end เพิ่มขึ้นเป็น 50% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 30% โดยได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดเพิ่มขึ้น 30-40% จากปีที่ผ่านมาเพื่อใช้ในการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมายังได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศ รุ่นใหม่ 8 ซีรีส์ 25 รุ่น เพื่อทำตลาดในปีนี้โดยเฉพาะ

728x90-03-3-503x62 (1) ขณะที่กลุ่มเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ บริษัทมีแผนจะขยายเข้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ปัจจุบันทำตลาดในกลุ่มโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัย ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายเครื่องปรับอากาศทั้งหมด 2 แสนชุด คิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านบาท และตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 12-15% ขึ้นติด 1 ใน 3 ของผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศ ภายใน 3 ปี หรือปี 2563 และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 35% เป็นผู้นำตลาดภายใน 5 ปี หรือปี 2565 จากเป้าภายในสิ้นปี 2560 นี้ ที่คาดการณ์ว่าจะมีส่วนแบ่ง ตลาด 6% เป็นอันดับ 6 และจะเพิ่ม ขึ้นเป็น 7-8% ภายในปี 2561

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,332 วันที่ 18 - 20 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-7-503x62