'เบนซ์' สั่งลุย AMG-ไฮบริด ยอดขายไทยโตสูงสุดเอเชีย ดันรถใหม่ 10 รุ่น

09 ก.พ. 2561 | 07:12 น.
1331

“เมอร์เซเดส-เบนซ์” โปรยยาหอม นโยบายส่งเสริม “ไฮบริด-รถไฟฟ้า” ของไทยดีสุดในภูมิภาคเอเชีย หลังยื่นแพ็กเกจต่อ BOI ทำทั้งรถและแบตเตอรี่ที่โรงงานธนบุรีฯ ลั่น! ปีนี้เตรียมเปิดตัวรถยนต์ 10 รุ่นใหม่ และเพิ่มตัวแรง “เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ซี 43 คูเป้” รุ่นประกอบในประเทศ

เจ้าพ่อรถหรูเมืองไทย ‘เมอร์เซเดส-เบนซ์’ เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในทุกมิติ ทั้งแบรนด์หลักและซับแบรนด์ อย่าง ‘เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี, เมอร์เซเดส-มายบัค และอีคิว’ ตลอดจนเครือข่ายผู้จำหน่าย

ขณะที่ ยอดขายในปี 2560 ยังเป็นอีกปีที่ทุบสถิติเดิม หรือทำได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของธุรกิจ ‘เมอร์เซเดส-เบนซ์’ ในไทย ด้วยจำนวน 14,484 คัน เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่อัตราเติบโตดังกล่าวยังถือว่า สูงสุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แซงทั้งเกาหลีใต้และไต้หวัน

ในจำนวนนี้แบ่งสัดส่วนเป็นของกลุ่มคอมแพ็กต์คาร์ (จีแอลเอ, ซีแอลเอ) 24%, คอนเทมโพรารี (ซี, อี, เอส-คลาส) 46%, ดรีมคาร์ (รถสมรรถนะสูง) 12% และเอสยูวี 18%

“ปัจจัยความสำเร็จดังกล่าวมาจากการดำเนินธุรกิจภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะมอบ ‘สิ่งที่ดีที่สุด’ ให้แก่ลูกค้า ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอรถยนต์รวม 18 รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ ที่สามารถตอบทุกความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสร้างสีสันให้กับวงการรถหรู ด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของแบรนด์รถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง Mercedes-AMG และแบรนด์รถยนต์หรูระดับอัลตร้าลักชัวรี Mercedes-Maybach รวมถึงแบรนด์เทคโนโลยี EQ-Electric Intelligence by Mercedes-Benz” นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ทั้งนี้ แนวโน้มของรถยนต์กลุ่มดรีมคาร์ ที่มีแบรนด์ ‘เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี’ เป็นจุดขายหลัก ซึ่งปีที่แล้วขายได้ 105 คัน เติบโต 44% เมื่อเทียบกับปี 2559 มาปีนี้ ‘เมอร์เซเดส-เบนซ์’ ยังใส่เกียร์เดินหน้าด้วยการประกาศ แต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์แบรนด์นี้อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย จำนวน 11 แห่งทั่วประเทศ (จากทั้งหมด 32 แห่ง) หวังรองรับยอดขายที่เติบโตและการให้บริการลูกค้าเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี โดยเฉพาะ

นายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังเปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างน้อย 10 รุ่น ในจำนวนนั้น คือ การนำรถยนต์แบรนด์ ‘เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี’ มาประกอบในเมืองไทย ประเดิมด้วยรุ่น C43 Coupe ที่จะทำตลาดภายในไตรมาสแรกปีนี้

“นอกจาก เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี แล้ว เรายังวางแผนด้านยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ภายใต้แบรนด์ EQ-Electric Intelligence by Mercedes-Benz ด้วยการขยายจุดติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Charging Station) อีกกว่า 80 จุด ภายในปีนี้ ซึ่งปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้งสิ้น 113 แห่ง ครอบคลุมทั้งผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ โรงแรมพันธมิตร และศูนย์การค้าชั้นนำ” นายชไตน์อัคเคอร์ กล่าวสรุป


mp32-3332-a

ในส่วนของแบรนด์เทคโนโลยี EQ ที่มีรถแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ทำตลาดครบในทุกรุ่นหลัก ๆ ซึ่งถือว่า ‘เมอร์เซเดส-เบนซ์ เมืองไทย’ ขยับปรับไลน์โปรดักต์มาสักระยะแล้ว

โดยคาดว่า ยอดขายรถยนต์นั่งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินจะทรงตัว แต่รถแบบ ‘ไฮบริด’ และ ‘ปลั๊ก-อินไฮบริด’ ตลาดจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งไฮบริดคาดว่า ปีนี้จะพุ่ง 490% หรือยอดขายทั้งตลาดจะมากกว่า 20,000 คัน ส่วนปลั๊ก-อินไฮบริด เติบโต 24% ด้วยจำนวนกว่า 9,500 คัน ส่วนรถพลังไฟฟ้า ‘อีวี’ น่าจะขายได้กว่า 500 คัน เพิ่มขึ้น 1.7%

ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังยื่นแพ็กเกจขอสนับสนุนการลงทุนจาก BOI ครอบคลุมทั้งรถปลั๊ก-อินไฮบริด และอีวี โดยใช้โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ ที่จะทำหน้าที่ผลิตทั้งรถและแบตเตอรี่ เริ่มดำเนินงานในปีนี้ รองรับความต้องการของตลาดในประเทศเป็นหลัก

“แพ็กเกจที่รัฐบาลไทยนำเสนอมา ถือว่า ดีที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก และเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเดินตาม ประกอบกับนโยบายระดับโลกของบริษัทก็มุ่งไปสู่การสร้างยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ปัจจุบันเรากำลังพูดคุยกับโรงงาน ซึ่งจะมีความคืบหน้าออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนการยื่นขอทั้งรถปลั๊ก-อินไฮบริด และอีวี เพราะมองว่า ปลั๊ก-อินไฮบริด มีอินเทนชีฟที่ดี ส่วนอีวีแม้จะน้อยกว่าแต่เป็นเทรนด์ในอนาคตที่จะต้องมี” นายไมเคิล เกรเว่ กล่าวสรุป


………………..
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,332 วันที่ 18-20 ม.ค. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-7-503x62