นายกฯลงพท.แม่ฮ่องสอนเป็นพยานมอบสมุดประจำตัวผู้ได้ที่ทำกินในชุมชน

นายกรัฐมนตรีตรวจราชการ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นสักขีพยานมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล

วันนี้ (17 ม.ค. 61) ณ โรงเรียนห้องสอนศึกษาในพระอุปถัมภ์ฯ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยานในการมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ให้แก่ผู้แทนประชาชน พร้อมพบปะประชาชน โดยมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ ประชาชนจำนวนมาก มารอให้การต้อนรับ ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้ชมการแสดง "สุนทรีถิ่นไทย สานสายใยชาติพันธุ์แม่ฮ่องสอน" ของนักเรียนโรงเรียนห้องสอนศึกษา จากนั้นชมวิดิทัศน์โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการให้ประชาชนที่มีสิทธิในการถือครองที่ดินของรัฐ เพื่อใช้ในการทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยปัจจุบันได้รับหนังสืออนุญาตแล้ว จำนวน 1 ป่า คือ ป่าแม่ปายฝั่งซ้าย เนื้อที่ 4,099 ไร่ จัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชน จำนวน 1,750 ราย ให้แก่ผู้แทนประชาชนจำนวน 8 ราย 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน เข้ารับมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน เป็นโครงการแรกและเป็นพื้นที่นำร่องที่ดำเนินการเสร็จ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและปัญหาความยากจนของประชาชน อีกทั้งจังหวัดแม่ฮ่องสอนเห็นถึงความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของประชาชน



โดยใช้งบประมาณตามแผนพัฒนาจังหวัดในการแก้ไขปัญหาความยากจน ส่งเสริมพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนการจัดที่ดินให้กับประชาชนตามแนวทางของ คทช. ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกร เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและทัดเทียมกับจังหวัดอื่น ๆ อีกด้วย


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานในการมอบสมุดประจำตัว ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ให้แก่ผู้แทนประชาชนจาก 3 ตำบลรวม 8 ราย ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกล่าวพบปะประชาชนว่า การมาลงพื้นที่ในวันนี้ มาพบปะพี่น้องประชาชนชาวแม่ฮ่องสอน มาเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตลอดจนนำคณะรัฐมนตรีมารับฟังปัญหาจากประชาชนด้วยตนเอง และนำข้อมูลต่าง ๆ มาแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมในทุก ๆ ด้าน

ไม่ได้มาทำเพื่อการเมืองทั้งสิ้น มาสร้างความเข้าใจระหว่างกัน เนื่องจากรัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อความอยู่ดีมีสุข อีกทั้งเราต้องร่วมเดินไปหน้าไปด้วยกัน และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยจะให้จัดทำแผนการพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้สำเร็จภายใน 5 ปี ซึ่งการพัฒนาประเทศจะสำเร็จตามเป้าหมายมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับความร่วมมือกันของทุกฝ่าย
นายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันว่า การมาครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อสร้างความคะแนนความนิยม แต่อยากมาด้วยใจ มานำร่องแก้ความยากจน ซึ่งประเทศไทยต้องมีประชาธิปไตยไทยนิยม คือคนไทยเข้าใจประชาธิปไตยที่ถูกต้อง โดยทุกคนมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน จึงจะเกิดผลดีต่อบ้านเมือง โดยรัฐบาลจะวางรากฐานไว้ก่อน แล้ววันข้างหน้าจะส่งต่อไปให้รัฐบาลต่อไปดำเนินการในการบริหารราชการแผ่นดินตามวิสัยทัศน์

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาคุณภาพชีวิตว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการเร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้อยู่ ซึ่งจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนคนยากจนสูงที่สุดของประเทศ เนื่องจากแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่มีแรงงานมีรายได้ต่ำมาก ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม อีกทั้งยังมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ทำให้การเดินทางมีความยากลำบาก ทั้งสภาพถนนในการเดินทางทำให้การทำเกษตรในจังหวัดมีต้นทุนสูงกว่าพื้นที่อื่น ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการพัฒนาอาชีพและรายได้ของผู้มีรายได้น้อย โดยเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตและจัดสวัสดิการให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับผู้มีรายได้น้อย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม โดยมุ่งเน้นการปฏิบัติอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ดังนั้นจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงเป็นจังหวัดเป้าหมายสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมนั้น จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีขีดจำกัดเนื่องจากสภาพพื้นที่ และลักษณะทางภูมิศาสตร์ ซึ่งการเดินทางมาจังหวัดแม่ฮ่องสอนในปัจจุบัน ใช้เส้นทางคมนาคมทางบกและทางอากาศ ซึ่งรัฐบาลได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกันศึกษาเส้นทางในการเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมระหว่างเมืองมายังจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยต้องหามาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการสายการบินที่สนใจ เข้ามาลงทุนเปิดเส้นทางการบินในเส้นทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อยกระดับรายได้ให้กับประชาชนและพื้นที่ใกล้เคียงได้เพิ่มขึ้น และให้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน



พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกภาคส่วนและประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกันรักษาอัตลักษณ์ ประเพณีวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ไว้ให้เป็นจุดเด่น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนด้วยมิติทางวัฒนธรรม และเชื่อมโยงให้เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่จะพัฒนาระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศอย่างยั่งยืน อีกทั้งจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีทุนทางวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ซึ่งชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์พัฒนาอาชีพ เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีผืนป่าสัก คือ “ป่าสักนวมินทรราชินี” ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ เหมาะสมสำหรับศึกษาวิจัย พัฒนาพันธุ์ไม้สัก ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สำหรับปัญหาหมอกควันไฟป่า ที่เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ส่งผลกับพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะการท่องเที่ยว การคมนาคม เฉพาะอย่างยิ่งการคมนาคมทางอากาศ ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมกันหาทางป้องกัน ปราบปรามและลดความรุนแรง ไม่ให้เกิดปัญหาไฟป่าและหมอกควันในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับผู้แทนประชาชนที่ได้รับสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาลจำนวน 120 ราย ก่อนออกเดินทางไปศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ (ท่าโป่งแดง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน