อินสตาแกรม การคาดการณ์ปี 61 ผู้ใช้ต้องการสื่อสารร้านค้าโซเชียลมีเดีย ทั้งร้านอาหาร-ท่องเที่ยว ขณะที่วิดีโอมาแรง การส่งข้อความจะกลายเป็นพื้นที่สำหรับธุรกิจ ส่วนธุรกิจขนาดเล็กจะช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมด้านการตลาด และเห็นการเติบโตของตลาดเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย
นายพอล เว็บสเตอร์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาและสร้างสรรค์แบรนด์ อินสตาแกรม ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า อินสตาแกรมคาดการณ์สิ่งเกิด ขึ้นในปี 2561 ซึ่งเป็นข้อมูลจากพฤติกรรมของผู้ใช้อินสตาแกรมที่สังเกตเห็นในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคอมมิวนิตีที่แข็งแกร่ง ด้วยสมาชิกมากถึง 800 ล้านคน โดยคาดการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
[caption id="attachment_249863" align="aligncenter" width="342"]
พอล เว็บสเตอร์[/caption]
อันดับแรกคือ ร้านค้าโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวล่าสุด ร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หรือเทรนด์แฟชั่นใหม่ล่าสุด ผู้คนต่างต้อง การที่จะติดต่อสื่อสารกับธุรกิจเหล่านี้
นอกจากนี้ 62% ของกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลยังบอกว่า หากแบรนด์ติดต่อกับพวกเขาผ่านโซเชียลมีเดียก็จะเพิ่มโอกาสในการเป็นลูกค้าประจำที่จงรักภักดีต่อแบรนด์นั้น เนื่องจากโซเชียลแพลตฟอร์มกำลังได้โอกาสที่น่าตื่นเต้นในการทำลายกำแพงที่จะเชื่อมต่อไปสู่การขายสินค้า โดยในปี 2561 จากการที่แบรนด์ต่างๆ เริ่มได้รับผลประโยชน์จากการเชื่อมต่อโซเชียลมีเดียจะกลายเป็นแหล่งซื้อขาย และจะช่วย กระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางโซเชียล โดยตลอดปีที่ผ่านมาในสหรัฐฯ อินสตา แกรมได้ทดลองฟีเจอร์ช็อปปิ้ง ซึ่งช่วยให้การซื้อสินค้าภายในแอพพลิเคชันเป็นเรื่องง่ายขึ้น และในปี 2561 มีแผนแนะนำฟีเจอร์ดังกล่าวไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
2. วิดีโอจะมาแรงในปี 2561 ทั้งนี้คาดการณ์ว่า 72% ของยอดการชมวิดีโอออนไลน์ทั้งหมดจะเกิดขึ้นบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งช่วยสร้างโอกาสครั้งสำคัญให้กับแบรนด์ต่างๆ ในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างประสบการณ์วิดีโอที่น่าสนใจที่จะช่วยดึงดูดผู้บริโภคผ่านเนื้อหาที่อยู่ในมือของพวกเขา ทั้งนี้คาดหวังว่าข้อมูลแบบชั่วคราวอย่างสตอรีจะได้รับความนิยมมากขึ้น และคาดหวังเห็นแบรนด์ต่างๆ กล้าที่จะลองเสี่ยงกับการใช้ข้อมูลแบบชั่วคราว โดยเชื่อมั่นว่าโพสต์ต่างๆ ที่จะหายไปหลังจากระยะเวลา 24 ชั่วโมงนั้นจะช่วยมอบอิสระในการคิดสร้างสรรค์เนื้อหามากขึ้น
3.การส่งข้อความจะกลายเป็นพื้นที่สำหรับธุรกิจ นอกเหนือจากการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้โทรศัพท์มือถือแล้ว ยังเห็นผู้คนเปลี่ยนวิธีการสื่อสารด้วยการส่งข้อความ ซึ่งเป็นรูปแบบการสื่อ สารที่รวดเร็ว ตรงไปตรงมา และเป็นส่วนตัว ผู้คนต้องการที่จะสื่อสารกับธุรกิจต่างๆ ในวิธีการที่รวดเร็วและเป็นกันเองมากขึ้น เช่นเดียวกับวิธีสื่อสารกับเพื่อนฝูง ที่ 64% ของผู้คนเลือกส่งข้อความเพื่อติดต่อสื่อสารกับธุรกิจ แทนการใช้โทรศัพท์หรือส่งอี-เมล คาดการณ์ว่าจำนวนนี้จะเติบโตขึ้นในปี 2561 และจะเห็นการซื้อขายผ่านการส่งข้อความมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
4.ธุรกิจขนาดเล็กจะช่วยกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมด้านการตลาด ในอดีตนั้น การสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดระดับโลกเคยเป็นสิ่งที่ถูกสงวนไว้สำหรับแบรนด์ขนาดใหญ่ที่มีงบประมาณจำนวนมากเท่านั้น แต่ความง่ายดายในการจัดการและประสิทธิภาพของโซเชียลมีเดียนั้นได้ยกระดับความเท่าเทียมให้กับสนามแห่งการตลาด ซึ่งช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กได้เกิดและเติบโตในระดับโลก โดยในปี 2561 เราคาดว่าบริษัทขนาดเล็กจะยังคงผลักดันที่จะลดขีดจำกัดต่างๆ และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับทุกคนในอุตสาหกรรม
5.การเติบโตของตลาดเฉพาะ ในโลกของโซเชียลมีเดีย ผู้คนจากทั่วโลกได้เชื่อมต่อกันผ่านการแบ่งปัน ความ สนใจและความชอบที่คล้ายกัน ในอินสตาแกรมประกอบด้วยคอมมิวนิตีที่มีความสนใจเฉพาะอยู่จำนวนมาก ซึ่งแปลว่ามีกลุ่มผู้ชมที่มีส่วนร่วมสูง มีคุณค่า และสามารถเข้าถึงได้ง่าย สำหรับแบรนด์ใดก็ตาม
6.การทบทวนประเมินคุณค่าของเนื้อหา ในขณะที่เครื่องมือวัดผลอย่าง “ยอดไลค์” และการแสดงความคิดเห็นนั้นเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสำเร็จเชิงการตลาดในโลกโซเชียล การวัดผลที่มีความหมายอย่างแท้จริงคือยอดขายหรือการกระทำเชิงธุรกิจอื่นๆ จากการที่แบรนด์ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ลึกขึ้นในปัจจุบัน ทำให้สามารถเลือกใช้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่ช่วยให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายและพัฒนาเนื้อหาได้ดีขึ้น ในขณะที่แบรนด์ได้เรียนรู้พฤติกรรมและความเป็นมาของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นก็สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาที่น่าสนใจในเวลาที่เหมาะสมขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขาย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,331 วันที่ 14 - 17 มกราคม พ.ศ. 2561