‘ชาริช’รุกนำเข้าเทสลา เคาะราคา 6.78 ล้านต่อยอดธุรกิจอีวี ผุดศูนย์บริการรองเมือง

16 ม.ค. 2561 | 12:09 น.
“ชาริช โฮลดิ้ง” ที่ถือแบรนด์รถจักรยานยนต์ในเครืออย่าง ดูคาติ และรอยัลเอนฟิลด์ มุ่งขยายไลน์ธุรกิจสู่รถพลังไฟฟ้า “อีวี” พร้อมนำเข้า “เทสลา”จากฮ่องกง และเปิดให้สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ www.sharenovation.com เคาะราคา “โมเดลเอ็กซ์” เริ่มต้น 6.78 ล้านบาท ผุดศูนย์ในซอยรองเมือง รับบริการหลังการขาย

หลังปั้นบิ๊กไบค์จากอิตาลี “ดูคาติ” ให้กระหึ่มลั่นทั่วเมืองไทย ล่าสุด “อภิชาติ ลีนุตพงษ์” บอสใหญ่ในฐานะซีอีโอของบริษัท ชาริช โฮลดิ้ง จำกัด เตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ แยกหน่วยงานความรับผิดชอบและทีมสนับสนุนให้มีความชัดเจน พร้อมเพิ่มโปรดักต์ใหม่อย่างบีวายดี (BYD) นิว (NIU) และเทสลา (Tesla-ชาริชฯเป็นเหมือน เป็นผู้นำเข้าอิสระ ไม่ใช่ดิสตริบิวเตอร์อย่างเป็นทางการ)

จะเห็นว่าทิศทางของ “อภิชาติ ลีนุตพงษ์” และ “ชาริช โฮลดิ้ง” กำลังมุ่งสู่ธุรกิจพลังงานยุคใหม่ หรือยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ “บีวายดี” จากประเทศจีน ที่จับมือกับเครื่องใช้ไฟฟ้า “เอเจ” ตั้งบริษัท ไรเซน เอนเนอร์จีฯ ขึ้นมาใหม่ สกูตเตอร์ไฟฟ้าแบรนด์ “นิว” จากประเทศจีน และการเป็นผู้นำเข้าอิสระรถ“เทสลา”แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา

[caption id="attachment_249732" align="aligncenter" width="503"] อภิชาติ ลีนุตพงษ์ อภิชาติ ลีนุตพงษ์[/caption]

“ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2018 เดือนมีนาคมนี้ บริษัทจะแยกบูธเกี่ยวกับพลังงานยุคใหม่ออกมาจากบูธบิ๊กไบค์ดูคาติ ซึ่งจะเป็นบูธที่แสดงถึงความก้าวหน้าของรถพลังไฟฟ้า รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการพลังงาน และระบบเอ็นเนอร์ยี สโตเรจ” อภิชาติ กล่าวและว่า

สำหรับรถพลังไฟฟ้า “เทสลา” ที่ตนเองและครอบครัวใช้มาตั้งแต่รุ่นแรกๆเป็นระยะเวลาร่วม 10 ปี ด้วยความชื่นชอบส่วนตัวและคิดว่ามีลูกค้าชาวไทยกลุ่มหนึ่งให้ความสนใจรถแบรนด์นี้อยู่พอสมควร จึงตัดสินใจนำเข้ามาจากเอเยนต์ที่ฮ่องกงชื่อ “รีโว่ สปอร์ต” (Revo Zport) ซึ่งมีทั้งรถแบบสำเร็จรูปมาตรฐานโรงงานและชุดแต่งพิเศษ โดยในส่วนชุดแต่งยังมีแบรนด์ “อันปลั๊กเพอร์ฟอร์แมนซ์” (Unplugged Performance) จากอเมริกามาเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าด้วย

“การนำเทสลาเข้ามา เราคงไม่ได้หวังยอดขายมาก ที่ทำเพราะชื่นชอบเป็นการส่วนตัว และคิดว่ามีความพร้อมในการดูแลลูกค้าได้ เพราะจริงๆแล้วรถพลังไฟฟ้าแทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหรือการดูแลรักษาอะไรมาก แต่กระนั้นเรายังสร้างความมั่นใจ ด้วยการเปิดเป็นศูนย์บริการของเทสลา โดยช่างผู้มีความชำนาญจะประจำอยู่ที่ซอยรองเมือง เขตปทุมวัน พร้อมเครื่องมือในการวิเคราะห์ปัญหาต่างๆอย่างแม่นยำ ตลอดจนการอัพเดตซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ยังมีการรับประกันตัวรถ ซึ่งก่อนการซื้อขายต้องคุยรายละเอียดให้ลูกค้าเข้าใจว่า สามารถดูแลครอบคลุมได้ขนาดไหนอย่างไรบ้าง”อภิชาติ กล่าวสรุป

ในส่วนราคาขาย จากการสำรวจในเว็บไซต์ www.sharenovation.com พบว่า เทสลา “โมเดล เอ็กซ์” รุ่น X 75D ใช้แบตเตอรี่ 75 kWh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 320-350 กม. ราคาเริ่มต้น 6.78 ล้านบาท
ส่วนรุ่น X 100D ใช้แบตเตอรี่ 100 kWh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 420-450 กม. ราคา 7.98 ล้านบาท และ X P100D ที่มีโหมดเพิ่มสมรรถนะ สามารถรีดอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม.ได้ในเวลา 2.9 วินาที ขายในราคา 11.38 ล้านบาท

โดย “เทสลา โมเดล เอ็กซ์” ยังโดดเด่นด้วย ประตูปีกนก(Falcon Wing) ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ในการเข้าห้องโดยสารสำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ซึ่งประตูสามารถเปิดได้แม้ในที่จอดรถที่แคบพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจสอบพื้นที่ที่รถจอดอยู่ขณะนั้น ขณะที่รุ่นเบาะ 5 ที่นั่งจะเป็นมาตรฐาน แต่ลูกค้าสามารถเลือกแบบ 6 หรือ 7 ที่นั่งได้เป็นออพชัน

728x90-03 ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเข้าไปดูรายละเอียด หรือเลือกออพชันการตกแต่ง พร้อมแสดงราคา อัตราผ่อนชำระ/ดอกเบี้ย ที่ชัดเจนในเว็บไซต์ www.sharenovation.com หรือจะเข้าไปชมรถยนต์คันจริงที่โชว์รูมปากซอยวิภาวดีรังสิต 22 (โชว์รูมดูคาติปัจจุบัน) ได้อีกด้วย

อนึ่ง “อภิชาติ ลีนุตพงษ์” และครอบครัว มีความหลงใหลในรถพลังงานไฟฟ้าและแบรนด์เทสลา โดยปี 2009 สั่งซื้อ “โรดสเตอร์” รถโมเดลแรกของเทสลามาใช้ จากนั้นมีรุ่น “โมเดล เอส” อีก 4 คัน “โมเดล เอ็กซ์” 2 คัน ไม่รวม นิสสัน ลีฟ, บีเอ็มดับเบิลยู ไอ3 และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ ซีโร่ จากสหรัฐอเมริกา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,331 วันที่ 14 - 17 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9