เอพี-ลลิลรุกลงทุน3หมื่นล้าน มั่นใจเศรษฐกิจแกร่งเปิดแผนลงทุนตั้งแต่ต้นปี

18 ม.ค. 2561 | 04:58 น.
อสังหาฯมั่นใจเศรษฐกิจปี 61 แข็งแกร่ง ลุยลงทุนต่อเนื่อง เอพีผนึกมิตซูบิชิ เอสเตท เตรียมลุย 4 โครงการใหญ่ในช่วงต้นปี รวมมูลค่าโครงการกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท ลลิล จ่อผุด 8-10 โครงการ มูลค่า 4,500-5,000 ล้านบาท ตั้งเป้าโต 15%

ปี 2561 นี้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มีความเชื่อมั่นเช่นเดียวกับภาคธุรกิจอื่นๆ ที่ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2561 ยังคงมีสัญญาณการเติบโตได้ในทิศทางที่ดี โดยคาดการณ์จะขยายตัวประมาณ 3.8-3.9% มีปัจจัยจากภาคการส่งออกที่ยังคงมีการขยายตัวได้ดีตามทิศทางเศรษฐกิจการค้าและการค้าโลก ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่าจะยังขยายตัวได้ดี นอก จากนี้ยังมีเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเม็ดเงินการลงทุนจากภาครัฐ รวมไปถึงความชัดเจนในการจัดการเลือกตั้ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจและลงทุนเพิ่มขึ้น

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2561 ยังคงร่วมมือกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปีมีแผนลงทุนพัฒนาโครงการ 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท โดย LIFE สุขุมวิท 62 จะเป็นโครงการแรกที่พร้อมเปิดในเดือนมีนาคม ผ่านระบบ AP i-Booking และโครงการอื่นๆ จะทยอยเปิดตัวตามแผนงานที่กำหนดไว้

[caption id="attachment_249696" align="aligncenter" width="335"] อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)[/caption]

“ปัจจุบันความร่วมมือเอพี กับมิตซูบิชิ เอสเตท ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 รวมมูลค่าโครงการร่วมทุน 5 ปีสูงถึง 74,430 ล้านบาท และในปีนี้ทางมิตซูบิชิ เอสเตทได้ส่งทีมงานจากญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มานั่งทำงานประจำร่วมกับทีมงานเอพีเพิ่มมากขึ้น เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการอนุมัติและดำเนินการต่างๆ”

นายโชจิโร โคจิมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ในนามของมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป กล่าวเพิ่มเติมว่า ยอดขายคอนโดมิเนียมภายใต้การร่วมทุนปี 2557-2560 ทั้งสิ้น 11 โครงการ มียอดขายรวมเฉลี่ย 90% จากมูลค่ารวมทั้งสิ้น 51,430 ล้านบาท โดยเป็นโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ (1) RHYTHM สุขุมวิท 36-38 (2) ASPIRE รัชดา-วงศ์สว่าง (3) ASPIRE สาทร-ท่าพระ (4) RHYTHM อโศก 2 และ 2 โครงการล่าสุด ที่ได้เปิดโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาส 4/2560 ที่ผ่านมา คือ (5) Life ปิ่นเกล้า และ (6) RHYTHM รางนํ้าโดยลูกค้าให้การตอบรับโอนกรรมสิทธิ์ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับปีนี้ยังคงตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการร่วมกับเอพี ด้วยมูลค่ารวมไม่ตํ่ากว่า 20,000 ล้านบาท

นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้หันมาเน้นเชิงรุกเพื่อตอกยํ้าความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยบริษัทยังคงมุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนแผนกลยุทธ์โครงการ “ลลิล ทาวน์” บริษัทมีแผนพัฒนาให้ครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดในส่วนของหัวเมืองหลักและหัวเมืองชั้นรอง แบ่งออกเป็น โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล 75-80% และในทำเลต่างจังหวัด 20-25%

728x90-03 โดยในปีนี้บริษัทได้วางงบซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ที่ได้มาจากการโอนโครงการต่างๆ และส่วนหนึ่งจะมาจากการออกหุ้นกู้ ซึ่งจะพิจารณาออกในจำนวนและช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้สอดรับกับการขยายธุรกิจ และการเติบโตในระยะยาวของบริษัท
นอกจากนี้ยังมีการทำดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม และยังมีการนำบิ๊กดาต้าเข้ามาใช้เพื่อเก็บข้อมูลของลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามในปี 2561 นี้บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 8-10 โครงการ มูลค่ารวมโครงการประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 4,400 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายมียอดรับรู้รายได้ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท เติบโต 15%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,331 วันที่ 14 - 17 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9