ศึก 2 บิ๊กอี-คอมเมิร์ซจีน ประชันไฮเทคชิงเค้กค้าปลีก

17 ม.ค. 2561 | 13:46 น.
เจดีดอทคอม (JD.com) ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของจีน ประเดิมศักราชใหม่ด้วยการเปิดตัวซูเปอร์มาร์เก็ตเทคโนโลยีระดับสูงซึ่งเป็นร้านค้าออฟไลน์แห่งแรกของบริษัทเมื่อเร็วๆ นี้ในกรุงปักกิ่ง หลังจากที่คู่แข่งรายสำคัญอย่างอาลีบาบา กรุ๊ป โฮล ดิ้งส์ เจ้าของเว็บไซต์ Alibaba.com นำหน้าไปก่อนหลายช่วงตัว ด้วยการเปิด “เหอหม่า” (Hema) ห้างค้าปลีกไฮเทคหลายสาขาในปีที่ผ่านมา พร้อมแผนจะเปิดเพิ่มอีก 30 สาขาภายในสิ้นปี 2561

ความเคลื่อนไหวของเจดีดอทคอมในครั้งนี้เป็นการตอกยํ้าแนวโน้มใหม่ในธุรกิจค้าปลีก นั่นคือการควบรวมร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันด้วยนวัตกรรมที่หลากหลายรวมทั้งการใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีการบริหารจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ของลูกค้าและซัพพลายเออร์

“เซเว่นเฟรช” (7Fresh) คือชื่อของซูเปอร์มาร์เก็ตที่เจดีดอทคอมเพิ่งเปิดสาขาแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา บริษัทมีแผนเปิดอีกหลายสาขาเป็นเชนร้านค้าปลีกและนับเป็นการเปิดแนวรุกครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัทในสังเวียนค้าปลีกออฟไลน์ ธุรกิจใหม่นี้จะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มใหม่ๆ และยังจะทำให้บริษัทได้ฐานข้อมูลที่มีคุณค่าสูงมากในเชิงธุรกิจจากการเชื่อมโยงระบบการค้าทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ที่มีอยู่เข้าด้วยกัน ทั้ง “เซเว่นเฟรช” เจดีดอทคอม และ “เหอหม่า” ของอาลีบาบา นำเทคโนโลยีการสื่อสารมาใช้ เพื่อให้ลูกค้าที่มาเดินช็อปปิ้งสามารถใช้แอพพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือและชำระเงินผ่านระบบดิจิตอล เป็นการเติมเต็มทางเลือกให้กับผู้บริโภค

[caption id="attachment_249632" align="aligncenter" width="503"] แอพพลิเคชันทางหน้าจอสมาร์ทโฟนช่วยให้ลูกค้าร้าน “เหอหม่า” ช็อปปิ้งได้ง่ายและสนุกขึ้น แอพพลิเคชันทางหน้าจอสมาร์ทโฟนช่วยให้ลูกค้าร้าน “เหอหม่า” ช็อปปิ้งได้ง่ายและสนุกขึ้น[/caption]

**จุดแข็งซัพพลายเชน
เจดีดอทคอมมีจุดแข็งที่โดดเด่นในด้านซัพพลายเชน บริษัทเป็นพันธมิตรกับวอล-มาร์ต สโตร์ ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกจากสหรัฐฯในประเทศจีน ทั้งยังมีประสบการณ์มายาวนานในการบริหารจัดการคลังสินค้า แตกต่างจากอาลีบาบาที่ทำหน้าที่หลักๆ เป็นแพลตฟอร์มหรือเป็นเวทีให้เจ้าของสินค้าหรือผู้ค้าได้มาพบกับผู้ซื้อ

นวัตกรรมหลากหลายที่จะพบเจอได้ในซูเปอร์มาร์เก็ต “เซเว่นเฟรช” สาขาแรกในย่านอี้จวงของกรุงปักกิ่ง ได้แก่ จอภาพอัจฉริยะที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินค้าที่ลูกค้าเลือกซื้อ และหุ่นยนต์รถเข็นที่คอยติดตามลูกค้าโดยอัตโนมัติขณะที่ลูกค้าเดินช็อปปิ้งอยู่ในร้าน ภายในพื้นที่ยังมีโซนร้านอาหารและแผนกอาหารสดที่นำเข้าสดใหม่มาจากต่างประเทศ โดยเล็งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไปที่ชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อสูง

หวัง เสี่ยวสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเซเว่นเฟรชมั่นใจว่า เจดีดอทคอม โดดเด่นในการนำเสนอประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบออฟไลน์คุณภาพยอดเยี่ยมระดับพรีเมียมเพราะมีเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการซัพพลายเชนที่ดี และยังได้เปรียบจากขนาดของธุรกิจที่มีเครือข่ายพันธมิตรกว้างขวางมากที่สุดในแวดวงค้าปลีกของจีน

[caption id="attachment_249630" align="aligncenter" width="503"] แผนกอาหารสดของ “เซเว่นเฟรช” แผนกอาหารสดของ “เซเว่นเฟรช”[/caption]

**ไฮเทคนำ ทำกำไร
ในเวลาไล่เลี่ยกัน (3 ม.ค. 61) ผู้บริหารของอาลีบาบาได้ประกาศจะผุดห้างเหอหม่าที่เน้นความอลังการของแผนกอาหารสด อาหารนำเข้าและอาหารทะเล เพิ่มอีก 30 สาขาในกรุงปักกิ่งภายในปีนี้ โดยจะเน้นย่านธุรกิจการค้า ที่สำคัญคือทางห้างจะเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อและชำระค่าสินค้าในร้านผ่านทางสมาร์ทโฟนแล้วทางห้างสามารถนำไปส่งให้ถึงบ้านในเวลา 30 นาที (โดยจุดนัดส่งต้องอยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตร) ทั้งนี้ สาขาแรกของเหอหม่าในเมืองเซี่ยงไฮ้ซึ่งเปิดมาแล้วกว่า 2 ปี ได้เสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีและสามารถทำกำไรในปัจจุบัน จากสถิติพบว่า ลูกค้ามาจ่ายตลาดเดือนละ 4.5 ครั้ง และแวะมาเข้าร้านเหอหม่าเฉลี่ยราวคนละ 50 ครั้งต่อปี สามารถทำยอดขายได้มากกว่าร้านค้าแบบทั่วไป 3-5 เท่า

[caption id="attachment_249633" align="aligncenter" width="335"] หุ่นยนต์รถเข็นของเซเว่นเฟรชวิ่งตามผู้ซื้อได้เองขณะจ่าย ตลาด หน้าจอสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้ หุ่นยนต์รถเข็นของเซเว่นเฟรชวิ่งตามผู้ซื้อได้เองขณะจ่าย
ตลาด หน้าจอสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้[/caption]

คู่แข่งในแวดวงอี-คอมเมิร์ซของจีนที่เริ่มหันเข้าหาช่องทางการค้าปลีกแบบออฟไลน์มากขึ้นไม่ได้มีเพียงอาลีบาบาและเจดีดอทคอมเท่านั้น แต่ยังมีรายอื่นๆ ในระดับชั้นแนวหน้าของประเทศ อาทิ เท็นเซนต์ โฮลดิ้งส์ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดของจีน ที่เข้ามาร่วมตอกยํ้าแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นในแวดวงค้าปลีกของประเทศที่ได้ชื่อว่ามีขนาดของตลาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นั่นคือการสร้างร้านค้าออฟไลน์ที่ทันสมัยและเพียบแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทั้งในส่วนที่ลูกค้าสามารถจับต้อง-สัมผัสได้ และเทคโนโลยีในส่วนของการบริหารจัดการคลังสินค้าและฐานข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบันเจดีดอทคอมกำลังทดลองโครงการเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการจับมือกับวอลมาร์ตที่เป็นพันธมิตร ผนึกรวมการทำงานของคลังสินค้าและห้องเย็นของทั้ง 2 ฝ่ายเข้าด้วยกันเพื่อลดระยะเวลาในการส่งสินค้าถึงบ้านหรือที่ทำงานของลูกค้า

TP10-3331-2A นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่สำคัญก็คือการผนวกรวมข้อดีหรือจุดเด่นของร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันเพื่อบริการที่ดีที่สุด วิธีการนี้ไม่เพียงช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มยอดการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ แต่ทำให้ได้ฐานข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อและความชื่นชอบของลูกค้าที่เป็นข้อมูลที่มีมูลค่าสูงมากสำหรับผู้ประกอบการ ดังนั้นสิ่งที่ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซเหล่านี้มุ่งหวังจากการเข้ามาเปิดร้านค้าแบบออฟไลน์ที่ลูกค้าสามารถเดินเข้ามาดูและสัมผัสสินค้าได้นั้น ก็คือการช่วยเสริมประโยชน์ให้กับธุรกิจหลักที่อยู่ในโลกออนไลน์และได้เชื่อมโยงแบรนด์ของบริษัทเข้ากับผู้บริโภคกลุ่มใหม่อีกนับล้านๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขยายเครือข่ายเข้าสู่ลูกค้าที่ยังไม่มีใครเข้าถึงมากนักในเขตหัวเมืองที่ห่างไกล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,331 วันที่ 14 - 17 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9