บีโอไอโชว์แผนดึงนักลงทุน เจาะกลุ่มเป้าหมาย-ประชิดประตูบ้าน60ทริป

17 ม.ค. 2561 | 05:17 น.
หลังจากที่มาตรการส่งเสริมการลงทุนปรับใหญ่ โดยพื้นที่ไข่แดงที่มีการลงทุนกระจุกตัวหนาแน่นที่สุดยังคงเป็นเป้าหมายแรกที่รัฐบาลโหมโรงหนักหน่วง โดยเฉพาะกับ 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ให้ความสำคัญด้านสิทธิประโยชน์แบบสุดโต่งสำหรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ 
อีอีซี

ล่าสุด “ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ถึงภารกิจชักจูงการลงทุนปี 2561 ภายหลังจากที่นโยบายหลัก ด้านสิทธิประโยชน์ประกาศใช้ไปแล้วก่อนหน้านี้

[caption id="attachment_249616" align="aligncenter" width="410"] นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)[/caption]

**เปิดแผนโรดโชว์ปีจอ
ตามแผนชักจูงการลงทุนปี 2561 ยังเดินหน้าตามกรอบเดิมที่ทำต่อเนื่องมาคือ เดินสายโรดโชว์ในต่างประเทศ เพื่อชักจูงการลงทุนทางตรงหรือเอฟดีไอเข้ามา ซึ่งในปีนี้ จะมีคณะที่เดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ 50-60 ครั้ง ไปทั้งเอเชีย ยุโรป ญี่ปุ่น จีนและตะวันออกกลาง แบ่งการไปโรดโชว์เป็น 2 ระดับ กลุ่มแรกที่มีหัวหน้าคณะเป็นระดับรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือไปร่วมทริปกับคณะท่านนายกรัฐมนตรี อีกกลุ่มจะไปโรดโชว์กับระดับสำนักงาน มีผู้บริหาร บีโอไอเป็นหัวหน้าคณะ โดยการออกไปโรดโชว์จะเน้นประเภทกิจการที่เป็น 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น กลุ่มยานยนต์ในอนาคต อากาศยาน เครื่องมือแพทย์ หุ่นยนต์ เป็นต้น

โดยปี 2561 จะไปชักจูงการลงทุนที่เน้นเฉพาะบางอุตสาหกรรม เช่น ไปโรดโชว์ที่ยุโรปก็จะเน้นเรื่องอากาศยานโดยเฉพาะ กลุ่มนี้จะเข้าไปเจาะ 2-3 ประเทศที่มีอุตสาหกรรมด้านอากาศยาน และการไปก็จะดึงบรรดาผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ไปให้ข้อมูล และเจาะลึก โดยชี้เป้าก่อนว่า เป็นใครที่บีโอไอจะไปพบ หรือใครสนใจอยู่ก่อนแล้ว จะทำการบ้านไปล่วงหน้าก่อน

“เมื่อก่อนเรามีอุตสาหกรรมเป้าหมายแต่เราไม่มีพื้นที่เป้าหมายแบบการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกหรืออีอีซีแบบปัจจุบันนี้ แล้วแต่ว่าผู้ประกอบการจะเลือกตั้งกิจการที่ไหน แต่ที่แน่ๆ พื้นที่อีอีซีเป็นพื้นที่สำคัญในการรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ เพราะมีระบบโครงสร้างพื้นฐานพร้อม”

นอกจากกลุ่มอากาศยานที่แสดงความสนใจเข้ามายังมีด้านไบโอเทคโนโลยีก็เป็นกลุ่มที่บีโอไอสนใจ เราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากสินค้าเกษตรได้จำนวนมาก และสามารถนำไบโอเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น ซึ่งตรงนี้มีหลายประเทศที่มีบริษัทที่น่าสนใจชักชวนเข้ามาลงทุนในไทยได้ รวมถึงกลุ่มยานยนต์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของไทยที่จำเป็นต้องดึงเข้ามาลงทุนให้เพิ่มขึ้นอีก หุ่นยนต์ตอนหลังเรามี 
ทริปออกไปดึงทุนกลุ่มนี้เข้ามาหลายครั้งแล้ว และไปหลากหลายประเทศมีทั้งยุโรป เอเชีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน ด้วยสภาพการแข่งขันทางธุรกิจ จะใช้คนในการผลิตน้อยลง โครงสร้างประชากรไทยก็มีคนในวัยทำงานน้อยลง บีโอไอเองก็ออกมาตรการที่จะทำให้อุตสาหกรรมหันไปใช้ระบบอัตโนมัติมากขึ้น

[caption id="attachment_249612" align="aligncenter" width="410"] นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)[/caption]

**ดึง2พันคนร่วมสัมมนา
นอกจากนี้ ปีนี้จะจัดสัมมนาใหญ่ประจำปีในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ในหัวข้อ “BOI Annual Conference 2018” มีวัตถุประสงค์ ต้องการให้ผู้ประกอบการรับทราบมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ของบีโอไอ อย่าลืมว่าในทุกปีรัฐบาลออกมาตรการใหม่ๆ ออกมาตลอด ถ้าไม่ทำมาร์เก็ตติ้งคนก็จะไม่ทราบ และจะเป็นเวทีที่ทำให้รับทราบความคิดเห็นของเอกชน ของผู้ประกอบการ ที่จะมีเวทีเปิดโอกาสให้แสดงความเห็น โดยเชิญผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศเข้าร่วม 2,000 คน จัดที่อิมแพ็คเมืองทองธานี โดยส่งอี-เมล์เชิญแต่ละบริษัท

**เปิด“เอสเอ็มอี คลินิก”
นอกจากการให้ความช่วยเหลือในเรื่องมาตรการทางภาษีและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีแล้ว แต่เอสเอ็มอีอาจจะอยากได้ความช่วยเหลือด้านอื่นด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังทำโครงการ “เอสเอ็มอี คลินิก” สำหรับเอสเอ็มอี เช่น สมมติว่าเอสเอ็มอีอยากจะมาขอบีโอไอแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี กรอกข้อมูลคำขออย่างไร จะทำรายละเอียดอย่างไร บีโอไอเลยจัดเป็น “เอสเอ็มอี คลินิก” ขึ้นมาให้บริการ จะเริ่มเปิดบริการได้ราวเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคมนี้ ที่อาจต้องไปจับมือ
กับหน่วยงานอื่นด้วย โดยเฉพาะกับหน่วยงานที่คอยช่วยเหลือเอสเอ็มอีมาอย่างต่อเนื่อง

728x90-03 **ยอดคำขอผลิตรถไฮบริด
เลขาธิการบีโอไอกล่าวถึงความคืบหน้าของยอดคำขอรับการส่งเสริมผลิตรถไฮบริด ที่สิ้นสุดการให้ส่งเสริมไปแล้วเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาว่า ขณะนี้มีการยื่นคำขอส่งเสริมผลิตรถยนต์ไฮบริดเข้ามาหลายราย และอยู่ในขั้นตอนรอการอนุมัติจากบอร์ดใหญ่บีโอไอ โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวมกันกว่า 40,000 ล้านบาท ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด จะพ้นกำหนดการยื่นขอส่งเสริมในสิ้นปี 2561 และกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าแบบแบต 
เตอรี่ จะสิ้นสุดการให้ส่งเสริมปลายปี 2562 จะเห็นว่ากลุ่มรถยนต์ต่างแสดงความสนใจยื่นขอรับการส่งเสริมเข้ามา แสดงว่าฐานการผลิตยานยนต์ในไทยยังน่าสนใจอยู่ โดยโครงการที่ยื่นคำขอมาแล้ว จะมีการพิจารณาอนุมัติให้การส่งเสริมในบอร์ดใหญ่ต่อไป

สุดท้ายสิ่งที่เลขาธิการ
บีโอไออยากฝากกระตุ้นผู้ประกอบการคือ เรื่องของมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ที่ให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนรายเดิม กรณีที่ไม่ต้องขยายกำลังผลิต แต่จะเอาไลน์ผลิตเดิมมาปรับปรุง หรือปรับปรุงบางเรื่อง เช่น มีการติดแผงโซลาร์บนหลังคาแล้วต่อสายมาใช้ในไลน์ผลิต บีโอไอก็ให้สิทธิประโยชน์ โดยยกเว้นภาษีเงินได้ แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องเป็นกิจการที่ขอบีโอไอได้หรือมีประเภทกิจการอยู่แล้ว

มาตรการปรับปรุงประ สิทธิภาพการผลิตนี้คนที่มาขอจะมี 2 กลุ่มคือ 1.คนที่เคยได้รับสิทธิประโยชน์จากบีโอไอและที่พ้นการได้รับสิทธิประโยชน์ไปแล้ว และกลุ่มที่ 2 เป็นรายที่ไม่เคยได้รับการส่งเสริมมาก่อน ก็มาขอได้ สิ่งที่บีโอไอให้สิทธิประ โยชน์คือยกเว้นภาษีเงินได้ 3 ปี โดยกำหนดแคมเปญวงเงินไว้

“สมมติลงทุน 30 ล้านบาท ยกเว้นภาษีเงินได้ให้ 3 ปี แต่ในวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาทให้ 50% เท่ากับรัฐช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง จะเป็นการส่งเสริมให้คนใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น หรือหากไม่มีการติดแผงโซลาร์บนหลังคา แต่กิจการนั้นมีการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ ทำให้ประ หยัดไฟ ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ เป็นเรื่องมาตรการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพ”

รวมถึงการปรับเปลี่ยนการผลิตเป็นระบบออโตเมชัน ถ้าโรงงานที่เคยได้บีโอไอแล้วหมดสิทธิประโยชน์ไปแล้วต่อมาอยากจะปรับเปลี่ยนการผลิตให้ทันสมัยยิ่งขึ้นเพื่อเข้ามาทดแทนแรงงานก็นำโครงการลงทุนนี้มาขอบีโอไอได้ ในไลน์ผลิตเดิม ซึ่งมาตรการเหล่านี้ใช้มานานแล้ว เพียงแต่ล่าสุดบอร์ดได้ขยายเวลาส่งเสริมไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2560 และยื่นคำขอได้ถึงปี 2563 ตอนนี้คนเริ่มตื่นตัวในการผลิตที่ทันสมัยมากขึ้น ทั้งระบบออโตเมชันและการใช้หุ่นยนต์ คาดว่าจะมีการยื่นคำขอในเรื่องปรับปรุงประสิทธิภาพเข้ามามากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,331 วันที่ 14 - 17 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9