‘ทรัมป์’จ่องัดเซฟการ์ด เครื่องซักผ้าไทยระทึก
ส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า 7 แสนล้านลุ้นระทึก คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ เตรียมชง “ทรัมป์” ลงนามเห็นชอบใช้มาตรการเซฟการ์ดทั้งจำกัดโควตา ขึ้นภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้าจากไทย 3 ปี หลังสถิตินำเข้า 2 ปี ฟ้องชัดพุ่งปรี๊ด! วงการระบุผลพวง “ซัมซุง” ตั้งฐานในไทย
สหรัฐอเมริกา ถือเป็นตลาดส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันดับ 1 ของไทย จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร ช่วง 11 เดือนแรกปี 2560 ไทยมีการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไปสหรัฐฯ รวม 3.56 แสนล้านบาท จากที่ส่งออกไปทั่วโลกรวม 1.86 ล้านล้านบาท (เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า 7.34 แสนล้านบาท และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ 1.13 ล้านล้านบาท) อย่างไรก็ดีในส่วนของเครื่องซักผ้า หนึ่งในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออกสำคัญไปสหรัฐฯ ปีนี้มีสัญญาณที่ไม่ดีนัก
++ชง “ทรัมป์”ใช้เซฟการ์ด
รายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ เมืองไมอามี สหรัฐอเมริกา เผยว่า จากที่คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐ อเมริกาได้เปิดการไต่สวนเพื่อใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นมาก (Safeguard) กับสินค้าเครื่องซักผ้าจากทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ตามข้อร้องเรียนของผู้ผลิตเครื่องซักผ้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ (Whirlpool)ได้มีมติว่าปริมาณการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นก่อให้เกิดความเสียหายกับอุตสาห กรรมภายในประเทศ
เบื้องต้นคาดว่าสหรัฐฯ จะกำหนดให้ใช้มาตรการกำหนดโควตาการนำเข้าเครื่องซักผ้าและส่วนประกอบ พร้อมทั้งปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเป็นระยะเวลา 3 ปี (ยังไม่ทราบว่าจะเป็นอัตราเท่าใด) ซึ่งคณะกรรมาธิการฯจะรวบรวมข้อมูลก่อนนำเสนอต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพื่อลงนามเห็นชอบและประกาศให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
++ผลพวงซัมซุงย้ายฐานมาไทย
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯได้เรียกเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด(AD) จากเครื่องซักผ้าจากเกาหลี เม็กซิโก และจีน ขณะที่ไทยยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) สินค้าดังกล่าวทำให้เกาหลีย้ายฐานการผลิตเครื่องซักผ้ามาไทย ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องซักผ้าจากไทยไปสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษ โดยจากสถิติสหรัฐฯนำเข้าเครื่องซักผ้าจากไทยในปี 2559 มูลค่า 134 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีการนำเข้า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 769% และในปี 2560 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 325 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 221% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีมูลค่านำเข้า 101 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้เดือนพฤศจิกายน 2560 พบว่าไทยส่งออกเครื่องซักผ้าเกินเพดานที่สหรัฐฯ กำหนดจึงมีโอกาส ถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP)ในรอบต่อไปสูงมาก
นายวิษณุ ลิ่มวิบูลย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)กล่าวว่าการส่งออกเครื่องซักผ้าของไทยไปสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 มีผู้ส่งออกรายใหญ่สุดคือ ค่ายซัมซุง รองลงมาคือค่ายแอลจี ซึ่งได้เข้ามาตั้งฐานผลิตที่ จ .ชลบุรี และระยองเมื่อ 2 ปีก่อน มองว่าหากที่สุดแล้วสินค้าเครื่องซักผ้าจากไทยถูกใช้มาตรการเซฟการ์ดจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขส่งออกเครื่องซักผ้า รวมถึงกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยโดยรวมพอสมควร โดยจะทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้นและส่งออกได้ลดลง ต้องติดตามว่า สหรัฐฯจะใช้มาตรการกับไทยหรือไม่
“เครื่องซักผ้าที่ซัมซุงผลิตและส่งออกไปสหรัฐฯเป็นเครื่องซักผ้าภายในบ้านขนาดใหญ่ มีฟังก์ชันพิเศษ ทำให้ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ ดังนั้นถ้าสหรัฐฯจะทำให้ถูกจุดต้องจำกัดการนำเข้าจากซัมซุง เพราะเขาเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่สุดคาดสัดส่วนมากกว่า 30% ไม่ใช่มาจำกัดการนำเข้าจากไทยในภาพรวม แต่อีกมุมหนึ่งเราก็อยากให้ซัมซุงลงทุนอยู่ในไทยเพื่อใช้วัตถุดิบ และแรงงานในไทย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าซัมซุงจะปรับตัวไม่ดื้อดึงส่งออกไปสหรัฐฯมาก แต่หากถูกใช้มาตรการเขาคงต้องไปแก้ต่างเอาเอง”
++จับตาสหรัฐฯนำเข้าลดลง
อย่างไรก็ตามรายงานจาก สคต. ณ เมืองไมอามี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ล่าสุดซัมซุงได้เข้าไปลงทุนเปิดโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าในรัฐ South Carolina ของสหรัฐฯแล้วด้วยงบลงทุนกว่า 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯและแอลจีลงทุนโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าในรัฐ Tennessee มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาสแรกของปี 2561 คาดจะสามารถทดแทนการนำเข้าในอนาคตได้ และการลงทุนในสหรัฐฯยังตรงกับความต้องการของทรัมป์ในการสร้างงานให้กับชาวอเมริกัน
แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระบุว่า ที่น่าจับตามองคือเครื่องซักผ้าที่ซัมซุงผลิตในสหรัฐฯจะเป็นรุ่นเดียวกับที่ผลิตในไทยแล้วส่งออกไปสหรัฐฯหรือไม่ หากเป็นรุ่นเดียวกันจะทำให้การส่งออกจากไทยในปีนี้ลดลงอย่างแน่นอน(ตัวเลข 11 เดือนปี 2560 ไทยส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปทั่วโลก 7.34 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเครื่องซักผ้ามูลค่า 4.98 หมื่นล้านบาท)
++วัดใจทรัมป์ตัดสินใจ
ด้านนายชัยชาญ เจริญสุข เลขาธิการสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก กล่าวว่าจากที่ซัมซุงได้ไปตั้งฐานผลิตเครื่องซักผ้าในสหรัฐฯคงช่วยลดการนำเข้าจากฐานผลิตในไทยและลดกระแสการตัดสินใจของทรัมป์ที่จะใช้มาตรการเซฟการ์ดกับเครื่องซักผ้าจากไทยได้ มองว่าไทยคงไม่ถูกใช้มาตรการ ทั้งนี้ในการตัดสินใจคงต้องพิจารณาจากราคาสินค้าที่ส่งเข้าไปเหมาะสมหรือไม่ กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศในภาพรวมหรือไม่ ซึ่งหากยอดขายของผู้ผลิตในประเทศลดลงมากต้องมองเป็นผลจากความต่างเรื่องราคาหรือจากการปรับตัวแข่งขันไม่ได้ต้องพิจารณาประกอบกัน
“หากที่สุดแล้วไทยถูกใช้มาตรการคงกระทบต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยไปสหรัฐฯในภาพรวมไม่มากนัก ขณะกรณีที่การให้สิทธิจีเอสพีสินค้าไทยกว่า 3,400 รายการได้หมดอายุลงเมื่อสิ้นปี 2560 และอยู่ระหว่างการพิจารณาต่ออายุ เรามั่นใจว่าสหรัฐฯจะยังคงต่อจีเอสพีให้ไทย จากที่ทรัมป์อยู่ระหว่างการดำเนินยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกเพื่อผนึกเป็นพันธมิตรกับชาติในเอเชียรวมทั้งไทยทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การเมืองที่จะโตไปด้วยกัน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561
สหรัฐอเมริกา ถือเป็นตลาดส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อันดับ 1 ของไทย จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร ช่วง 11 เดือนแรกปี 2560 ไทยมีการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไปสหรัฐฯ รวม 3.56 แสนล้านบาท จากที่ส่งออกไปทั่วโลกรวม 1.86 ล้านล้านบาท (เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า 7.34 แสนล้านบาท และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ 1.13 ล้านล้านบาท) อย่างไรก็ดีในส่วนของเครื่องซักผ้า หนึ่งในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าส่งออกสำคัญไปสหรัฐฯ ปีนี้มีสัญญาณที่ไม่ดีนัก
++ชง “ทรัมป์”ใช้เซฟการ์ด
รายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) ณ เมืองไมอามี สหรัฐอเมริกา เผยว่า จากที่คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐ อเมริกาได้เปิดการไต่สวนเพื่อใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นมาก (Safeguard) กับสินค้าเครื่องซักผ้าจากทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ตามข้อร้องเรียนของผู้ผลิตเครื่องซักผ้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ (Whirlpool)ได้มีมติว่าปริมาณการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นก่อให้เกิดความเสียหายกับอุตสาห กรรมภายในประเทศ
เบื้องต้นคาดว่าสหรัฐฯ จะกำหนดให้ใช้มาตรการกำหนดโควตาการนำเข้าเครื่องซักผ้าและส่วนประกอบ พร้อมทั้งปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเป็นระยะเวลา 3 ปี (ยังไม่ทราบว่าจะเป็นอัตราเท่าใด) ซึ่งคณะกรรมาธิการฯจะรวบรวมข้อมูลก่อนนำเสนอต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพื่อลงนามเห็นชอบและประกาศให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯได้เรียกเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด(AD) จากเครื่องซักผ้าจากเกาหลี เม็กซิโก และจีน ขณะที่ไทยยังได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) สินค้าดังกล่าวทำให้เกาหลีย้ายฐานการผลิตเครื่องซักผ้ามาไทย ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องซักผ้าจากไทยไปสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษ โดยจากสถิติสหรัฐฯนำเข้าเครื่องซักผ้าจากไทยในปี 2559 มูลค่า 134 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่มีการนำเข้า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น 769% และในปี 2560 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 325 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 221% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีมูลค่านำเข้า 101 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้เดือนพฤศจิกายน 2560 พบว่าไทยส่งออกเครื่องซักผ้าเกินเพดานที่สหรัฐฯ กำหนดจึงมีโอกาส ถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP)ในรอบต่อไปสูงมาก
นายวิษณุ ลิ่มวิบูลย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)กล่าวว่าการส่งออกเครื่องซักผ้าของไทยไปสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 มีผู้ส่งออกรายใหญ่สุดคือ ค่ายซัมซุง รองลงมาคือค่ายแอลจี ซึ่งได้เข้ามาตั้งฐานผลิตที่ จ .ชลบุรี และระยองเมื่อ 2 ปีก่อน มองว่าหากที่สุดแล้วสินค้าเครื่องซักผ้าจากไทยถูกใช้มาตรการเซฟการ์ดจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขส่งออกเครื่องซักผ้า รวมถึงกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยโดยรวมพอสมควร โดยจะทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้นและส่งออกได้ลดลง ต้องติดตามว่า สหรัฐฯจะใช้มาตรการกับไทยหรือไม่
“เครื่องซักผ้าที่ซัมซุงผลิตและส่งออกไปสหรัฐฯเป็นเครื่องซักผ้าภายในบ้านขนาดใหญ่ มีฟังก์ชันพิเศษ ทำให้ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ ดังนั้นถ้าสหรัฐฯจะทำให้ถูกจุดต้องจำกัดการนำเข้าจากซัมซุง เพราะเขาเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่สุดคาดสัดส่วนมากกว่า 30% ไม่ใช่มาจำกัดการนำเข้าจากไทยในภาพรวม แต่อีกมุมหนึ่งเราก็อยากให้ซัมซุงลงทุนอยู่ในไทยเพื่อใช้วัตถุดิบ และแรงงานในไทย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าซัมซุงจะปรับตัวไม่ดื้อดึงส่งออกไปสหรัฐฯมาก แต่หากถูกใช้มาตรการเขาคงต้องไปแก้ต่างเอาเอง”
อย่างไรก็ตามรายงานจาก สคต. ณ เมืองไมอามี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ล่าสุดซัมซุงได้เข้าไปลงทุนเปิดโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าในรัฐ South Carolina ของสหรัฐฯแล้วด้วยงบลงทุนกว่า 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯและแอลจีลงทุนโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าในรัฐ Tennessee มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาสแรกของปี 2561 คาดจะสามารถทดแทนการนำเข้าในอนาคตได้ และการลงทุนในสหรัฐฯยังตรงกับความต้องการของทรัมป์ในการสร้างงานให้กับชาวอเมริกัน
แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระบุว่า ที่น่าจับตามองคือเครื่องซักผ้าที่ซัมซุงผลิตในสหรัฐฯจะเป็นรุ่นเดียวกับที่ผลิตในไทยแล้วส่งออกไปสหรัฐฯหรือไม่ หากเป็นรุ่นเดียวกันจะทำให้การส่งออกจากไทยในปีนี้ลดลงอย่างแน่นอน(ตัวเลข 11 เดือนปี 2560 ไทยส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าไปทั่วโลก 7.34 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเครื่องซักผ้ามูลค่า 4.98 หมื่นล้านบาท)
++วัดใจทรัมป์ตัดสินใจ
ด้านนายชัยชาญ เจริญสุข เลขาธิการสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก กล่าวว่าจากที่ซัมซุงได้ไปตั้งฐานผลิตเครื่องซักผ้าในสหรัฐฯคงช่วยลดการนำเข้าจากฐานผลิตในไทยและลดกระแสการตัดสินใจของทรัมป์ที่จะใช้มาตรการเซฟการ์ดกับเครื่องซักผ้าจากไทยได้ มองว่าไทยคงไม่ถูกใช้มาตรการ ทั้งนี้ในการตัดสินใจคงต้องพิจารณาจากราคาสินค้าที่ส่งเข้าไปเหมาะสมหรือไม่ กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศในภาพรวมหรือไม่ ซึ่งหากยอดขายของผู้ผลิตในประเทศลดลงมากต้องมองเป็นผลจากความต่างเรื่องราคาหรือจากการปรับตัวแข่งขันไม่ได้ต้องพิจารณาประกอบกัน
“หากที่สุดแล้วไทยถูกใช้มาตรการคงกระทบต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยไปสหรัฐฯในภาพรวมไม่มากนัก ขณะกรณีที่การให้สิทธิจีเอสพีสินค้าไทยกว่า 3,400 รายการได้หมดอายุลงเมื่อสิ้นปี 2560 และอยู่ระหว่างการพิจารณาต่ออายุ เรามั่นใจว่าสหรัฐฯจะยังคงต่อจีเอสพีให้ไทย จากที่ทรัมป์อยู่ระหว่างการดำเนินยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกเพื่อผนึกเป็นพันธมิตรกับชาติในเอเชียรวมทั้งไทยทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การเมืองที่จะโตไปด้วยกัน”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561
