ร.พ.ธนบุรีชูปันผลเด่น ยอดนักลงทุนระยะยาวพุ่ง-แรงขายสะเด็ดนํ้า
ร.พ.ธนบุรี ปลอบนักลงทุน ปันผลเด่น ต่อเนื่อง 40 ปี มั่นใจผู้ถือหุ้น 9 พันรายถือลงทุน ชี้หุ้นเดิมต้นทุนตํ่าหยุดขาย ตีขิมรอรายได้ร.พ.จีนเริ่มเข้า
น.พ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ปฯ (THG) ผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเครือธนบุรี เปิดเผยว่า ราคาหุ้น THG ปรับตัวตํ่ากว่าราคาที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เป็นเรื่องความต้องการขายของผู้ถือหุ้นเดิมที่ถือหุ้นมานาน ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ถือหุ้นหลัง IPO มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ราย จากก่อนหน้าที่มีเพียง 3,000 ราย สะท้อนความมั่นใจในศักยภาพกลุ่มโรงพยาบาลที่ดำเนินการมา 42 ปี และมีเงินปันผล 40% ของกำไรสุทธิมาต่อเนื่อง 40 ปี ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนในตลาด หลักทรัพย์ฯที่มีประสบการณ์ถึง 40 ปี มีมาตรฐานการแพทย์ที่ดี ราคาเหมาะสม
“เรื่องราคาหุ้นตํ่าจอง ก็ เป็นเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องโรงพยาบาลธนบุรี ทำการแพทย์ที่มีจริยธรรมอยู่ได้ยาวๆ แพทย์และพยาบาล รวมทั้งผู้ถือหุ้นอยู่กันมายาวมากๆ ปันผล 40% มาตลอด 40 ปี เรื่องคนขายหุ้นเป็นส่วนน้อย และปัจจุบันนิ่งแล้ว ขอให้ดูที่ผลประกอบการของบริษัทเป็นตัววัด”
[caption id="attachment_249100" align="aligncenter" width="335"]
น.พ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ปฯ (THG)[/caption]
รองประธาน กล่าวว่า ปีนี้ผลประกอบการเติบโตจากรายได้โรงพยาบาล Welly Hospital ที่เมืองเวยไห่ ประเทศจีน ที่บริษัทลงทุน 58% เริ่มมีรายได้หลังจากเปิดดำเนินการวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา จำนวน 150 เตียง เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านผ่ากระดูกสันหลังและสูตินรีเวช โดยใช้หมอจีน 100% คาดคุ้มทุนตามประมาณการ 8-9 ปี นับจากลงทุนในปี 2560 ซึ่งการลงทุนในจีน เป็นโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจสูง ซึ่ง THG เข้าไปให้คำปรึกษาการบริการ รวมถึงรับจ้างบริหารด้วย ซึ่ง ร.พ.ธนบุรี ถือเป็นโรงพยาบาลแรกที่ไปลงทุนในประเทศจีน
นอกจากนี้ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพธนบุรี (บำรุงเมือง) ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุง คาดเปิดให้บริการไตรมาส 4/2561 นี้ เฟสแรก 59 เตียง จากทั้งหมด 144 เตียง เป็นศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาเร่งด่วน แต่ไม่สามารถอยู่บ้านได้ ไม่มีคนดูแล เช่น คนไข้อัมพฤกษ์ อัมพาต ต้องการฟื้นฟูและฟื้นฟู ค่ารักษาพยาบาลจะตํ่ากว่าโรงพยาบาลทั่วไป 30% ของค่าใช้จ่าย
ปัจจุบัน THG มีโรงพยาบาลในกลุ่ม คือ ร.พ.ราษฎร์ยินดี หาดใหญ่ ซึ่ง THG ถือหุ้น 100%, ร.พ.สิริเวช จ.จันทบุรี ถือหุ้น 31.9% , ร.พ.อุบลรักษ์ จ.อุบลราชธานี และร.พ. AR YU โรงพยาบาลร่วมทุน 40% ที่ประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ บริษัท จะใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพเพื่อมองหาโอกาสการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี เพื่อกระจายการลงทุนและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในรูปแบบการร่วมทุน การเป็นที่ปรึกษา และการบริหารกิจการโรงพยาบาล ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว
ด้านราคาหุ้น THG ล่าสุดอยู่ที่ 30 บาท ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ฯ ให้ราคาเหมาะสมปี 2561 ที่ 38-40 บาท รายได้ส่วนใหญ่ 93% มาจากบริการทาง การแพทย์ ลูกค้ากว่า 70% เป็นลูกค้าที่ชำระเงินเอง และแม้จะมีอัพไซด์ในอนาคตจากการเปิดโรงพยาบาลที่เมียนมาและถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 40% (ขนาด 200 เตียง) และศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยที่ทยอยเปิดดำเนินงานในปี 2561 ซึ่งคาดว่าการดำเนินงานของโรงพยาบาลใหม่ในระยะแรก จะกดดันผลประกอบการของโรงพยาบาลในช่วงแรก
ทั้งนี้ บริษัท จะใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพเพื่อมองหาโอกาสการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี เพื่อกระจายการลงทุนและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในรูปแบบการร่วมทุน การเป็นที่ปรึกษา และการบริหารกิจการโรงพยาบาล ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561
น.พ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ปฯ (THG) ผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเครือธนบุรี เปิดเผยว่า ราคาหุ้น THG ปรับตัวตํ่ากว่าราคาที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เป็นเรื่องความต้องการขายของผู้ถือหุ้นเดิมที่ถือหุ้นมานาน ซึ่งปัจจุบันจำนวนผู้ถือหุ้นหลัง IPO มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ราย จากก่อนหน้าที่มีเพียง 3,000 ราย สะท้อนความมั่นใจในศักยภาพกลุ่มโรงพยาบาลที่ดำเนินการมา 42 ปี และมีเงินปันผล 40% ของกำไรสุทธิมาต่อเนื่อง 40 ปี ถือเป็นโรงพยาบาลเอกชนในตลาด หลักทรัพย์ฯที่มีประสบการณ์ถึง 40 ปี มีมาตรฐานการแพทย์ที่ดี ราคาเหมาะสม
“เรื่องราคาหุ้นตํ่าจอง ก็ เป็นเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องโรงพยาบาลธนบุรี ทำการแพทย์ที่มีจริยธรรมอยู่ได้ยาวๆ แพทย์และพยาบาล รวมทั้งผู้ถือหุ้นอยู่กันมายาวมากๆ ปันผล 40% มาตลอด 40 ปี เรื่องคนขายหุ้นเป็นส่วนน้อย และปัจจุบันนิ่งแล้ว ขอให้ดูที่ผลประกอบการของบริษัทเป็นตัววัด”
[caption id="attachment_249100" align="aligncenter" width="335"]
รองประธาน กล่าวว่า ปีนี้ผลประกอบการเติบโตจากรายได้โรงพยาบาล Welly Hospital ที่เมืองเวยไห่ ประเทศจีน ที่บริษัทลงทุน 58% เริ่มมีรายได้หลังจากเปิดดำเนินการวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา จำนวน 150 เตียง เป็นศูนย์เชี่ยวชาญด้านผ่ากระดูกสันหลังและสูตินรีเวช โดยใช้หมอจีน 100% คาดคุ้มทุนตามประมาณการ 8-9 ปี นับจากลงทุนในปี 2560 ซึ่งการลงทุนในจีน เป็นโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจสูง ซึ่ง THG เข้าไปให้คำปรึกษาการบริการ รวมถึงรับจ้างบริหารด้วย ซึ่ง ร.พ.ธนบุรี ถือเป็นโรงพยาบาลแรกที่ไปลงทุนในประเทศจีน
นอกจากนี้ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพธนบุรี (บำรุงเมือง) ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุง คาดเปิดให้บริการไตรมาส 4/2561 นี้ เฟสแรก 59 เตียง จากทั้งหมด 144 เตียง เป็นศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาเร่งด่วน แต่ไม่สามารถอยู่บ้านได้ ไม่มีคนดูแล เช่น คนไข้อัมพฤกษ์ อัมพาต ต้องการฟื้นฟูและฟื้นฟู ค่ารักษาพยาบาลจะตํ่ากว่าโรงพยาบาลทั่วไป 30% ของค่าใช้จ่าย
ปัจจุบัน THG มีโรงพยาบาลในกลุ่ม คือ ร.พ.ราษฎร์ยินดี หาดใหญ่ ซึ่ง THG ถือหุ้น 100%, ร.พ.สิริเวช จ.จันทบุรี ถือหุ้น 31.9% , ร.พ.อุบลรักษ์ จ.อุบลราชธานี และร.พ. AR YU โรงพยาบาลร่วมทุน 40% ที่ประเทศเมียนมา
ทั้งนี้ บริษัท จะใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพเพื่อมองหาโอกาสการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี เพื่อกระจายการลงทุนและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในรูปแบบการร่วมทุน การเป็นที่ปรึกษา และการบริหารกิจการโรงพยาบาล ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว
ด้านราคาหุ้น THG ล่าสุดอยู่ที่ 30 บาท ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ฯ ให้ราคาเหมาะสมปี 2561 ที่ 38-40 บาท รายได้ส่วนใหญ่ 93% มาจากบริการทาง การแพทย์ ลูกค้ากว่า 70% เป็นลูกค้าที่ชำระเงินเอง และแม้จะมีอัพไซด์ในอนาคตจากการเปิดโรงพยาบาลที่เมียนมาและถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 40% (ขนาด 200 เตียง) และศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วยที่ทยอยเปิดดำเนินงานในปี 2561 ซึ่งคาดว่าการดำเนินงานของโรงพยาบาลใหม่ในระยะแรก จะกดดันผลประกอบการของโรงพยาบาลในช่วงแรก
ทั้งนี้ บริษัท จะใช้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพเพื่อมองหาโอกาสการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี เพื่อกระจายการลงทุนและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในรูปแบบการร่วมทุน การเป็นที่ปรึกษา และการบริหารกิจการโรงพยาบาล ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561
