ปรับกลยุทธ์รับทิศทางทองคำปี 2018

14 ม.ค. 2561 | 03:00 น.
MP18-3330-1A ปี 2017 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นอีก 1 ปีที่สดใสของ ทองคำ โดยราคาในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 150 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หรือคิดเป็น 13% โดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงกว่า 9% การพุ่งขึ้นของสกุลเงินยูโร และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตามความคืบหน้าเกี่ยวกับกฎหมายภาษีของสหรัฐฯ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนทั่วโลกเป็นปัจจัยที่กดดันการพุ่งขึ้นของราคาทองคำ

ปัจจัยพื้นฐานที่ต้องติดตามในปี 2018 ยังคงเป็นปัจจัยที่ต่อเนื่องมาจากปี 2017 โดยมีปัจจัยหนุน อาทิ ความไม่แน่นอนทางการเมืองสหรัฐฯ ที่อาจนำมาซึ่งสงครามการค้าโลกและเพิ่มความขัดแย้งกับนานาประเทศ ขณะที่การผลักดันกฎหมายต่างๆ อาจเผชิญอุปสรรคในชั้นของวุฒิสภา อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนหลังทรัมป์เผชิญกับการสอบสวนกรณีรัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ อีกด้วย นอกจากนี้ความขัดแย้งทางการเมืองหรือ Geopolitical ทั่วโลกอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่เข้ามาหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่ทองคำได้

ส่วนปัจจัยที่อาจกดดันราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของ เฟดโดยต้องระมัดระวังหากเฟดปรับขึ้นมากกว่า 3 ครั้งในปี 2018 อาจส่งผลหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า แต่หากเฟดปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือในอัตราที่เชื่องช้ากว่าที่คาด อาจหนุนราคาทองคำได้เช่นกัน

MP18-3330-B ขณะที่การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เป็นอีกปัจจัยที่ต้องจับตา หากไม่ต่ออายุมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรหรือยุติ QE จะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ นอกจากนี้นักลงทุนจะต้องจับตา การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยงทั้งในตลาดหุ้นและการพุ่งขึ้นของบิทคอยน์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาทองคำ แต่หากตลาดหุ้น มีการปรับฐานรุนแรงอาจกลับมาหนุนราคาทองคำในปี 2018 ได้

ด้านการเติบโตของตลาดสกุลเงินดิจิตอล(cryptocurrencies) โดยเฉพาะบิตคอยน์ ที่อาจกระทบต่อ ตลาดทองคำเช่นกัน หลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังจากที่บริษัท ซีเอ็มอี กรุ๊ป อิงค์ฯและบริษัท ซีบีโออี โกลบัล มาร์เก็ตส์ฯ (Cboe) เริ่มเปิดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าบิตคอยน์ อาจเป็นปัจจัยที่ดึงดูดเม็ดเงินเก็งกำไรออกจากตลาดทองคำ ในทางกลับกันหากเกิดการปรับตัวลงแรงของบิตคอยน์จะส่งผลให้เม็ดเงินไหลกลับเข้ามาในตลาดทองคำ

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในปี 2018 YLG ประเมินว่าราคาอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 1,200-1,390 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ด้านกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำให้เข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับและรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นและเน้นยํ้าว่านักลงทุนควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุนและปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมติดตามปัจจัยพื้นฐานที่อาจส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนอย่างใกล้ชิด

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9