แห่ผุดบ้าน-คอนโดหรู ‘ดีเวลอปเปอร์’มั่นใจทำเลไข่แดงกำลังซื้อยังวิ่งฉิว

13 ม.ค. 2561 | 11:39 น.
กูรูอสังหาฯฟันธง บ้าน-คอนโดฯไฮเอนด์-ยันลักชัวรียังรุ่ง ทำเลไข่แดงตารางเมตร 3 แสนบาทขึ้นไป ปี 2560 แห่เปิด 3,600 หน่วย ขายได้เฉียด 80% อนันดา-เอพี ลุยผุดโครงการมากสุด

กว่า 2 ปีที่ดีเวลอปเปอร์หนีจากตลาดล่างหันไปพัฒนาโครงการเจาะตลาดไฮเอนด์ และลักชัวรี ขายกลุ่มลูกค้าเศรษฐีกันมาก หลังระดับล่างกำลังซื้ออ่อนติดภาระหนี้ครัวเรือนสูงจนแบงก์ต้องปฏิเสธสินเชื่อ ขณะที่นักวิเคราะห์หวั่นๆว่าบ้าน-คอนโดฯหรูจะล้นตลาด

[caption id="attachment_207416" align="aligncenter" width="503"] ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต[/caption]

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวม กลุ่มระดับบนถือว่าดีต่อเนื่องและมองว่าปี 2561 ยังไม่ล้นตลาดเพราะแต่ละค่ายผลิตจำนวนน้อย หากเทียบกับความต้องการยังมีสูงกว่า ทั้งซื้อเพื่อลงทุนและเพื่ออยู่อาศัย ทั้งคนไทยและต่างชาติ สำหรับบ้านราคาอยู่ที่ 7 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 5 ล้านบาทขึ้นไป

MP29-3330-A ด้านมุมสะท้อนของ นายสุริยา สุริยาภิวัฒน์ ผู้จัดการ สำนักวิจัย บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า ตลาดบนยังไปได้ดี เนื่องจากความต้องการบ้าน-คอนโดระดับยังมีอีกมาก หรือ ดีมานด์ยังสูงกว่าซัพพลายที่ออกมา เนื่อง จากแต่ละค่าย พัฒนาออกมาไม่มาก เฉลี่ย 100 หน่วย แม้คนกลุ่มนี้จะมีไม่มาก แต่สามารถซื้อได้หลายหน่วยเพื่อลงทุนหรือปล่อยเช่า เพราะเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าแบบอื่นโดยเฉพาะการฝากเงินทิ้งไว้ในแบงก์ ในส่วนของบริษัท ได้ หันไปพัฒนาโครงการระดับบน ทำเลพระราม 3 ก่อนวิ่งเข้าถนนวงแหวนอุตสาหกรรม เนื่องจากตลาดล่างถูกปฏิเสธสินเชื่อจากแบงก์ค่อนข้างมาก และมีปัญหาหนี้ครัวเรือน คาดว่าจะเปิดขายกลางปีนี้ บนที่ดิน 24 ไร่ มูลค่า กว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครง การแนวราบและแนวสูง แนวราบจำนวน 100 หน่วย ทาวน์เฮาส์ราคา 18 ล้านบาทต่อหน่วย บ้านเดี่ยวราคา 30 ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียม จำนวน 600-700 หน่วย ขายตารางเมตรละ 9 หมื่นบาท ขึ้นไป และยังยืนยันว่า ตลาดระดับบนยังไปได้ จำนวนหน่วยเกิดขึ้นไม่มากแต่มูลค่าสูงซัพพลายไม่ล้นตลาดแน่นอน

1P332 นายสุรเชษฐ กองชีพ นักวิเคราะห์อสังหาริมทรัพย์ สะท้อนว่า ตลาดระดับไฮเอนด์-ลักซ์ชัวรี ยังขายได้ เพราะผลิตออกมาในตลาดไม่มาก และส่วนใหญ่มีกำลังซื้อจริงทั้งคนไทยและต่างชาติ ชาติมีบ้าน ที่สำคัญ ปี 2560 โครงการไฮเอนด์ผลิตออกมาน้อย ทำให้สัดส่วนคอนโดมิเนียมที่ออกมาก่อนหน้านั้นสามารถระบายออกไปได้ และไม่มีซัพพลายเพิ่ม แต่ปี 2561 คาดว่า จะพัฒนาออกมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับไฮเอนด์ตารางเมตรละ 1.5 แสนบาทขึ้นไป จนถึงโครงการลักชัวรี 3 แสนบาทต่อตารางเมตร ยังไปต่อได้ โดยเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้าใจกลางเมือง ได้แก่ ชิดลม พร้อมพงษ์ ทองหล่อ หลังสวน เพลินจิต วิทยุ เป็นต้น โดยบริษัทที่พัฒนาโครงการระดับราคาในกลุ่มดังกล่าวคือ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ กับ บมจ.เอพี ไทยแลนด์

[caption id="attachment_201250" align="aligncenter" width="335"] วสันต์ คงจันทร์ วสันต์ คงจันทร์[/caption]

นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โมเดิร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนส์ จำกัด กล่าวว่า คอนโดระดับบนมีสัดส่วน 10% จากการเทียบกับคอนโดมิเนียมในภาพรวมในตลาดกทม.ซึ่งมีออกมากว่า 1 แสนหน่วย ดังนั้นจึงมีไม่มากแต่สามารถขายได้ เพราะมีกำลังซื้อ ทั้งไทยและต่างชาติ

ด้านแหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า วันนี้ตลาดมีปัญหากับนักเก็งกำไร ที่ผ่านมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีทั้งกลุ่มที่ดี และไม่ดี ในปี 2560 กลุ่มที่ไปได้ดีคือสินค้ากลุ่มราคาระดับลักชัวรี บริษัทอสังหาฯต่างก็มุ่งไปในทิศทางเดียวกัน ล่าสุดบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ฯ เตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดฯหรูย่านหลังสวน ไม่ทราบว่าคอนโดมิเนียมระดับราคา 3-4 แสนบาทต่อตารางเมตร ที่เปิดตัวกันมากนั้น กลุ่มที่ซื้อเก็งกำไรจะสร้างผลประโยชน์อย่างไร ยิ่งเมื่อถึงเวลาที่โครงการเหล่านี้สร้างเสร็จก็จะเกิดปัญหาสินค้าล้นตลาด ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจที่มองว่าดีขึ้น แต่ก็มีบางกระแสยังไม่มั่นใจเต็มที่ว่าเศรษฐกิจจะดีจริง จึงมองว่าในช่วงนี้นักเก็งกำไรจะเริ่มหายไป เพราะเก็งกำไรไม่ได้แล้ว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9