‘แอสเซทพลัส’เจาะวัยทำงาน ชูบลจ.เน้นธีมลงทุนนวัตกรรมใหม่ จ่อออกกองหุ้นเวียดนาม

บลจ.แอสเซทพลัสฯ ชูธีมนวัตกรรมลงทุนใหม่ ดึงดูดลูกค้าตั้งเป้าปีนี้สินทรัพย์โต 20% เจาะกลุ่มคนทำงานเพิ่มพร้อมแอพพลิเคชันใหม่ ด้านกองทุนใหม่ประเดิม “หุ้นเวียดนาม” กำลังโต ผลตอบแทนดี

นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซทพลัส จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) เติบโตประมาณ20% จากสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 4.65 หมื่นล้านบาท หลังจากปีที่ผ่านมาปรับทิศทางการเติบโตอย่างระมัดระวัง โดยปรับลดขนาดกองทุนเทอมฟันด์ลงหลังจากเกิดปัญหาตั๋วบี/อีผิดนัดชำระช่วงที่ผ่านมา จึงออกกองทุนใหม่มา รองรับซึ่งลูกค้าให้การตอบรับที่ดีส่งผลให้เอยูเอ็มเติบโต 6.96%

“จากนี้เราจะสร้างแบรนด์และมุ่งขยายสินทรัพย์เพิ่มขึ้น หลังจากมีทีมงานพร้อมในการดูแลลูกค้า โดยปีนี้เน้นการเติบโตจากกองทุนเดิมสัดส่วนประมาณ 60% และจากออกกองทุนใหม่ 40%” นายรัชต์ กล่าว

สำหรับกองทุนเดิมที่เปิดตัวไปในปีที่ผ่านมาลูกค้าให้การตอบรับค่อนข้างดีและคาดว่ายังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัส โรโบติกส์ ซึ่งเป็นกองทุนแรกในอุตสาหกรรมที่เน้นลงทุนในธีมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ กองทุนเปิดแอสเซทพลัส สมอล แอนด์ มิดแคป อิควิตี้ ลงทุนหุ้นไทย

[caption id="attachment_248692" align="aligncenter" width="281"] รัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซทพลัส จำกัด[/caption]

นายรัชต์ กล่าวว่า แผนการออกกองทุนใหม่ในปีนี้จะเปิดตัวด้วยกองทุนหุ้นเวียดนามประมาณกลางเดือนมกราคมนี้ มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ลงทุนขั้นตํ่า 5,000 บาท เนื่องจากมองแนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามเติบโตระดับ 6% และตลาดหุ้นเวียดนามมีโอกาสเติบโตเฉลี่ย 30% ในปีนี้ เนื่องจากประชาชนมีระดับรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งกลุ่มรัฐวิสาหกิจเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนาม 30-40 บริษัท นอกจากนี้ค่าเงินดองมีเสถียรภาพเมื่อเทียบค่าเงินดอลลาร์

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนกองทุนหุ้นเวียดนามจะลงทุนผ่านกองทุนรวมในต่างประเทศ กองทุนอีทีเอฟและอีกส่วนผู้จัดการกองทุนจะเลือกหุ้นลงทุนโดยตรง โดยกองทุนจะเปิดให้ซื้อขายได้เดือนละครั้ง

นอกจากนี้บริษัท มีแผนเปิดตัวแอพพลิเคชันบนมือถือในไตรมาส 2 หรือ 3 ปีนี้ เพื่อสร้างแบรนด์และขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ลงทุนระดับกลางและรายย่อยมากขึ้น เช่น กลุ่มคนทำงาน จากปัจจุบันฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีสินทรัพย์ค่อนข้างสูง เช่น เจ้าของธุรกิจ โดยคาดหวังว่าจะมีลูกค้าจำนวน 2,000บัญชีเข้ามาใช้แอพพลิเคชันจากปัจจุบันมีจำนวนบัญชีที่มีการซื้อขาย (Active) ทั้งสิ้น 5,000-6,000 บัญชี

นายรัชต์ กล่าวว่า บริษัท ยังมีการทำงานใกล้ชิดกับบริษัทแม่ คือ บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มากขึ้น โดยมีแผนเพิ่มสัดส่วนการขายผ่านบริษัทแม่เป็น 50% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 40%ส่วนที่เหลือผ่านตัวแทนจำหน่ายและบริษัท รวมทั้งอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารพาณิชย์ 2แห่งเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนให้บริษัท คาดว่าจะชัดเจนไตรมาส 3

“เราต้องการเป็นบลจ.ที่เป็น innovative house ในช่วง 3 ปีนี้หลังจากนี้ หากลูกค้านึกถึงกองทุนรวมแบบใหม่ๆก็ต้องนึกถึงเราก่อนโดยในปีนี้เน้นช่องทางออนไลน์แอพพลิเคชันเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนทำงานได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลจะปรับวงเงินลงทุนจากขั้นตํ่า10ล้านบาท เป็น 30-50 ล้านบาทเพื่อให้ลูกค้าหันมาใช้บริการผ่านกองทุนรวม” นายรัชต์ กล่าว

นายคมสันต์ ผลานุสนธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แอสเซท พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2561 คาดว่าอยู่ที่ระดับ 1,850 จุดและกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตประมาณ 10% ส่วนพี/อีอยู่ที่ 17 เท่า โดยกลยุทธ์ลงทุนยังคงเน้นหุ้นรายตัวเป็นหลัก โดยหาจังหวะเข้าลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กคาดว่ายังมีโอกาสทำผลตอบแทน 15-20% มากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งหุ้นขนาดกลางและเล็กที่น่าสนใจเป็นธุรกิจที่ค้าขายกับจีนส่วนหุ้นขนาดใหญ่ ได้แก่กลุ่มแบงก์ เช่าซื้อ วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น

ส่วนพอร์ตลงทุนปีนี้แนะนำกระจายลงทุนในกองทุนหุ้นโรบอต กองทุนหุ้นเวียดนาม กองทุนหุ้นไทย เอเชียและจีน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561