บล.ไอร่า ชูกลุ่มแบงก์-รับเหมาก่อสร้าง-อาหารดาวเด่นน่าลงทุน

08 ม.ค. 2561 | 10:22 น.
บล.ไอร่า มองเศรษฐกิจฟื้น จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และยอดการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง คาด GDP ในปี 2561 ขยายตัว 4.1% จากปีก่อนคาดที่ระดับ 3.9% พร้อมจัดพอร์ตหุ้นเด่นน่าลงทุนสำหรับปี 61 แนะกลุ่มแบงก์-รับเหมาก่อสร้าง-อาหาร ชู BBL-S11-STEC-CK-BR–CBG เด่น

นางจิตรลดา เลขาพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ประเมินกลยุทธ์การลงทุนปี 2561 โดยเน้นการลงทุนในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจบ้านเรา (Domstic Play) อิงไปกับ Sector ที่มีการเติบโต ได้แก่ กลุ่มธนาคาร ที่คาดได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่มีการขยายตัว ซึ่งคาดช่วยให้ความต้องการสินเชื่อ ที่น่าสนใจในปีนี้ แนะนำ BBL และกลุ่ม Leasing แนะนำ S11

รองลงมาคือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการลงทุนที่ดีทั้งจากโครงการของภาครัฐ และการลงทุนจากภาคเอกชน ที่คาดมีความเชื่อมั่นดีขึ้นตามลำดับ และยังได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการลงทุนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ EEC ที่น่าสนในในกลุ่มนี้ แนะนำ STEC และ CK

และกลุ่มอาหาร ตามสัดส่วนส่งออก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70%ของ GDP โดยคาดได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจคู่ค้าที่เรามองว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งกลุ่มประเทศ Emerging Market กลุ่มประเทศกำลังการพัฒนา รวมถึงประเทศในกลุ่ม CLMV ที่คาดว่า GDP ในปีนี้ ขยายตัว 4.9% ที่น่าสนในกลุ่มนี้ แนะนำ BR และ CBG และในกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ ที่เรามองว่าค่าโฆษณายังมีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามทิศทางเศรษฐกิจ ที่น่าสนใจ แนะนำ WORK และ MONO

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2561 มีทิศทางที่ดีดีขึ้นตามลำดับ โดยได้รับปัจจัยบวกจากสภาพัฒน์ฯ คาด GDP ขยายตัว 4.1% จากคาดการณ์ในปี 2560 ที่ 3.9% และคาดเป็นปีที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงสุดนับจากปี 2557 จากทุก Sector จากการลงทุนของภาคเอกชน และภาครัฐ, การส่งออกที่มีการปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจโลก, การใช้จ่ายครัวเรือน และการท่องเที่ยว ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เช่น มาตรการลดหย่อนภาษี 15,000 บาท ตลอดปี 2561 สำหรับเมืองรอง 55 จังหวัด รวมถึงแผนการลงทุนภาครัฐ เช่น โครงการก่อสร้างระบบราง ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ,รถไฟฟ้า และ โครงการ Motorway เป็นต้น และ การเลือกตั้ง คาดตาม Load Map เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2561 - ต้นปี 2562 คาดส่งดีต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน

ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันภาพรวมการลงทุนในปี 2561 มาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่น โครงการ National Building หรือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 1.0 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งหากมีความชัดเจนคาดส่งผลดีต่อการลงทุน ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว