ศธ.นำเด็กและเยาวชนดีเด่นเข้าเยี่ยมคารวะนายกฯเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ

08 ม.ค. 2561 | 09:16 น.
กระทรวงศึกษาธิการ นำเด็กและเยาวชนดีเด่น เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2561 พร้อมกล่าวให้โอวาท โดยย้ำให้เด็กไทยทุกคน เป็นคนดีเพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในการร่วมกันพัฒนาประเทศให้มีความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

8 มกราคม 2561- ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะกรรมการ นำเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ 785 คน เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2561 โดยมีคณะผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ผู้แทนเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
chil7 โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานว่า ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ได้นำเด็กและเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกทุกสังกัดทั่วประเทศเข้ารับโล่รางวัล จำนวน 785 คน พร้อมเข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งเด็กและเยาวชนดีเด่นที่ได้รับการคัดเลือกจากส่วนราชการ 17 หน่วยงาน และหน่วยงานเอกชนต่าง ๆ โดยพิจารณาคัดเลือกจากเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี เรียนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีความซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด กตัญญูช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครอง และอุทิศตนเพื่อส่วนรวมจำนวน 550 คน

chil

เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ใน 5 ด้าน ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 235 คน ได้แก่ ด้านวิชาการ 93 คน ด้านศิลปะและดนตรี 10 คน ด้านคุณธรรมจริยธรรม 51 คน ด้านกีฬาและนันทนาการ 13 คน และด้านทักษะฝีมือ วิชาชีพ 68 คน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้กระทำความดีในด้านต่าง ๆ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในอนาคต และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ กระตุ้นให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนเอง ตลอดจนปลูกฝังให้มีส่วนร่วมในสังคม เป็นกำลังสำคัญของชาติ ตามคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2561 ที่ว่า “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี”
chil1 จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาท โดยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับเด็กและเยาวชนที่ได้รับรางวัลเด็กและเยาวชนดีเด่น และเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ในวันนี้ ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับเด็กและเยาวชนดีเด่นและเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ทั้ง 785 คน ที่ได้รับรางวัลอันน่าภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นผลจากที่เด็กและเยาวชนทุกคน มีความขยัน หมั่นเพียร ใฝ่หาความรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนพยายามฝึกฝนให้มีทักษะด้านต่าง ๆ จนเกิดประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ จึงขอเป็นกำลังใจและขอให้พัฒนาตนเองยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อเป็นเกียรติประวัติที่งดงามให้กับตนเอง วงศ์ตระกูล

chil2

รวมทั้งเป็นแบบอย่างให้กับเด็กและเยาวชนอื่น ๆ อีกด้วย ความจริงประเทศไทยของเรานั้น มีเด็กและเยาวชนเป็นจำนวนมากที่มีคุณภาพและมีความสามารถโดดเด่นเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เห็นได้จากการที่เราประสบความสำเร็จได้รับรางวัลมามากมายจากการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ การแข่งขันกีฬาในระดับต่าง ๆ รวมถึงการแข่งขันประกวดผลงานทางศิลปะในต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ในปัจจุบันทุกประเทศทั่วโลกได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของชาติ

chil3

โดยให้ความสำคัญตั้งแต่ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ การเสริมสร้างสถาบันครอบครัวให้มีความมั่นคง เพื่อเสริมสร้างให้เกิดสัมพันธภาพที่ดี และความรักความผูกพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ ลูก การส่งเสริมคุณภาพการศึกษาของเด็ก การพัฒนาการศึกษาของประชาชนในทุกช่วงวัยและปลูกฝังให้เด็กและเยาวชน ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติ รักษาเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมอันงดงาม และสร้างคนที่มีคุณธรรม เพื่อลดการทุจริตคอร์รัปชัน
chil4 ดังนั้น เด็กและเยาวชนไทยที่ได้รับการพัฒนา จึงได้รับการปลูกฝังในสิ่งที่ดีที่ควร เพื่อให้มีทัศนคติและค่านิยมที่ดี เป็นคนที่มีระเบียบวินัย มีสัมมาคารวะอ่อนน้อมถ่อมตน มีความรู้คู่คุณธรรม มีจิตสาธารณะ มีความซื่อสัตย์ และรู้จักใช้เหตุใช้ผล ที่สำคัญเด็กและเยาวชนจะต้องมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีสำนึกในความเป็นไทย และภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย มีความเข้มแข็งทางคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม และประพฤติตนให้เป็นคนดีของสังคม เด็กและเยาวชนจึงจะเติบโตเป็นทั้งคนเก่งและคนดีของประเทศ

chil6

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ว่า “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี” โดยตระหนักว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ทำให้สังคมโลกมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การพัฒนาเด็กและเยาวชนอาจจะต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามยุคสมัยของศตวรรษที่ 21 เนื่องจากเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนในทุกรูปแบบ
chil8 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลกันได้ทั่วโลก ช่องทางการติดต่อสื่อสารเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารแบบไร้ขีดจำกัด ทำให้คนเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมให้เด็กและเยาวชนตั้งแต่เด็กปฐมวัย ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา ให้มีความสมบูรณ์ครบทุกด้านเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้เท่าทันกระแสสังคมโลกได้

อย่างไรก็ตาม การเตรียมความพร้อมให้เด็กและเยาวชนได้รู้เท่าทันต่อสิ่งเหล่านี้ เป็นหน้าที่สำคัญของพ่อแม่ ผู้ปกครองและครู ที่ต้องปูพื้นฐานให้เด็กและเยาวชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขในโลกยุคดิจิทัล และใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด โดยเข้าใจธรรมชาติการใช้งานทั้งประโยชน์และพิษภัยเพื่อให้มีภูมิคุ้มกัน รู้จักป้องกันตนเอง รู้จักคิดวิเคราะห์และตั้งคำถามต่อสิ่งต่างๆ ทำให้เกิดพฤติกรรมที่เหมาะสมสามารถใช้สื่อเทคโนโลยี ให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต ทั้งของตนเอง ครอบครัวและสังคมต่อไปในอนาคต
chil9 นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า หน้าที่ของเด็กและเยาวชน คือการเป็นลูกที่ดี มีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ เชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน รวมทั้งต้องรู้ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ที่ได้กำหนดไว้ เพื่อจะได้มีความคิด ทัศนคติและค่านิยมที่ถูกต้องของคนไทย สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข และเติบโตขึ้นมารับผิดชอบการพัฒนาบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต ในโอกาสนี้ขอขอบคุณและชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมกันดำเนินงานและให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ

chil10

โดยเชื่อมั่นว่า รัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ จะช่วยกันส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะทางวิชาการและวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อเป็นกำลังทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนาประเทศไทยของเราสืบต่อไป ขอขอบคุณคุณครูทุกท่านที่มีส่วนสำคัญในการสร้างบุคลากรดี ๆ ให้แก่สังคม และขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนรักษาคุณงามความดีนี้เอาไว้ ขอให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรม รู้จักหน้าที่ของตนเอง ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และไม่ลืมที่จะแบ่งปันถ่ายทอดความรู้ ทักษะของตนให้แก่เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับรางวัล เพราะยิ่งเราให้มากเท่าไหร่เรายิ่งได้มากเท่านั้น

chil11

การแบ่งปันความรู้นั้น นอกจากจะเป็นการพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความชำนาญที่มากขึ้นแล้ว ยังเป็นการร่วมกันพัฒนาบุคลากรของชาติให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป และเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2561 ที่กำลังจะมาถึงในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม ศกนี้ ในนามของคณะรัฐมนตรี ขอเป็นตัวแทนผู้ใหญ่ทุกคนส่งความรักความปรารถนาดีไปยังเด็กและเยาวชนทั้งที่อยู่ในที่นี้และที่อยู่ในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ขออวยพรให้ทุกคนประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ มีความเจริญก้าวหน้า และคิดหวังสิ่งใดขอให้ได้ในสิ่งอันพึงปรารถนาทุกประการโดยทั่วกัน
chil12 ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี มอบของที่ระลึกแก่ตัวแทนเด็กและเยาวชน จากนั้น ตัวแทนเด็กและเยาวชนกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีร่วมถ่ายภาพร่วมกับเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเองด้วยอัธยาศัยอันดี

e-book-1-503x62