หุ้นรับเหมาคึกคัก เปิดประมูลไตรมาส 1

เก็งกำไรคึกคักหุ้นรับเหมาก่อสร้าง บล.เอเซียพลัสฯ ฟันธงการประมูลงานภาครัฐรอบใหญ่ กดปุ่มไตรมาสแรกนี้ ปีนี้ไม่พลาด

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย รับศักราชปี 2561 คึกคัก ดัชนี SET สร้างสถิติสูงสุดตั้งแต่ตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยระหว่างวัน SET แตะ 1,803 จุด แล้วเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 เป็นครั้งแรก เป็นแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารพาณิชย์, พลังงาน และสื่อสาร ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ถูกสลับขึ้นมาเก็งกำไร เช่น ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง (STEC), ช. การช่าง (CK) ที่จะได้ประโยชน์จากโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ รวมทั้งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัสฯ เชื่อว่า ปีนี้เป็นปีของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง การประมูลงานภาครัฐรอบใหม่ รอบใหญ่ กำลังจะเริ่มต้นอีกครั้งในไตรมาสแรกปีนี้ ถือเป็นการลงทุนที่มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วนปี 2561 ซึ่งมีมูลค่าถึง 2.39 ล้านล้านบาท, โครงการ EEC อีกหลายแสนล้านบาท และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ราว 1.79 แสนล้านบาท

ก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 นี้ ตามโรดแมป ฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่า ช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาลชุดปัจจุบัน จะเร่งผลักดันให้เกิดการประมูลมากที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ
ส่วนพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างนั้น แม้จะทำให้การประมูลล่าช้าไปบ้าง แต่อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใส และเชื่อว่าหลังจากที่ทำความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว จะทำให้การทำงานมีความคล่องตัวขึ้น

ปีนี้ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จะกลับมาคึกคัก Backlog ในมือ จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งใน Q1 นี้ หลังจากที่ Backlog ของกลุ่มทรงตัวที่ 4.24 แสนล้านบาท เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ฝ่ายวิจัยบล.เอเซียพลัสฯ ให้นํ้าหนักลงทุนหุ้นรับเหมาก่อสร้าง “มากกว่าตลาด” เลือกหุ้น STEC และ ซีฟโก้ (SEAFCO) เป็นหุ้นโดดเด่น (Top Picks) ของกลุ่ม ให้ราคาเหมาะสมปีนี้ที่หุ้นละ 30 บาท และ 12 บาท ตามลำดับ

ด้านบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่นฯ(UNIQ) แจ้งการลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากนํ้าโพ สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 มูลค่ารวม 18,699 ล้านบาท โดยลงนามกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เมื่อวันที่ 28-29 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย

สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม (ทางรถไฟยกระดับ) ระยะทาง 29 กิโลเมตร มูลค่าโครงการ 10,050 ล้านบาท การรับงานดังกล่าว ดำเนินโดยกิจการร่วมค้ายูเอ็น-เอสเอช ซึ่งประกอบด้วย UNIQ และซิโนไฮโดร คอร์ปอเรชั่น ลิมิเต็ด โดยมูลค่าเฉพาะสัดส่วนของ UNIQ เท่ากับ 5,125.5 ล้านบาท และซิโนไฮโดร 4,925.4 ล้านบาท

สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค-ปาก นํ้าโพ มูลค่า 8,649 ล้านบาท เป็น การก่อสร้างทางวิ่งรถไฟเพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม ระยะทางประมาณ 116 กม.

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,329 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2561