พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ หมอนักลงทุนยุคดิจิตอล

12 ม.ค. 2561 | 03:45 น.
น.พ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ หรือ “หมอบอย” หมอผู้ก่อตั้งคลินิกความงาม “วงศ์ษฏาคลินิก” เขาเป็นหมอความงามผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้บุกเบิกการร้อยไหมเกาหลีคนแรกของเมืองไทย และการฉีดฟิลเลอร์ปลายทู่ ปัจจุบันเป็นวิทยากรสอนการฉีดฟิลเลอร์ให้กับหมอความงามในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมความงาม AIC ด้วย

อาชีพหมอกับการลงทุนมักจะมาด้วยกันเสมอ เช่นเดียวกับ “หมอบอย” เป็นนักลงทุนในตลาดทุนไทยและการลงทุนบนโลกดิจิตอล (Cryptocurrency) และอาจจะเป็นดีเอ็นเอตัวหนึ่งของเขาเลยทีเดียว ซึ่ง “หมอบอย” เล่าว่า ชื่นชอบการลงทุนตั้งแต่เด็กๆ เริ่มต้นตั้งแต่เป็นนักเรียนแพทย์ศิริราช จากเงินหลักหมื่นสู่เงินลงทุน 9 หลัก ตามอายุการลงทุนที่มากขึ้น

[caption id="attachment_248181" align="aligncenter" width="306"] น.พ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ น.พ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ[/caption]

ประสบการณ์ลงทุนที่ผ่านมาในตลาดหุ้นไทย ผลตอบแทนสูง ตามมาด้วยความเสี่ยงสูง แต่ละปีมีทั้งแพ้และชนะที่มาคู่กันเสมอ ดังนั้น “หมอบอย” จึงพยายามหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆเสมอ ควบคู่กับการหาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อให้การลงทุนแต่ละครั้งของเขา มีความเสี่ยงน้อยที่สุด และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องการให้เกิดความเสี่ยงกับการลงทุน

บนการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เข้าสู่ยุคดิจิตอล “หมอบอย” ไม่ยอมตกกระแสเด็ดขาด แต่ก็ไม่ละทิ้งวิชาชีพที่ดำเนินการอยู่ เขาวางแผนช่องทางการลงทุนทั้งทางแพทย์และตลาดทุน ในปี 2561 ไว้ 2 ทาง คือ ด้านการแพทย์ และ ตลาดทุน

ด้านการแพทย์ “หมอบอย” แตกไลน์จากธุรกิจความงามสู่ธุรกิจคลินิก IVF (เด็กหลอดแก้ว) ให้แก่คนไทยและต่างชาติ ซึ่งใช้เทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์คัดกรองคุณภาพของเด็ก แม้ว่าธุรกิจ IVF จะไม่ใช่เรื่องใหม่ของเมืองไทย แต่ “หมอบอย” มั่นใจในศักยภาพการแข่งขัน โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการต้นไตรมาส 2 ปีนี้ เน้นลูกค้าไทยและจีนเป็นหลัก

“หัวใจสำคัญของความสำเร็จ IVF คือ นักวิทยาศาสตร์ ซึ่งผมได้ทีมชื่อดังของออสเตรเลียมาช่วย ซึ่งธุรกิจนี้เป็นทางเลือกหนึ่งของการลงทุนที่ดีทางวิชาชีพผม เพราะคลินิกความงามไม่ใช่ดาวรุ่งอีกต่อไป แต่ยังเมนเทนไว้”

[caption id="attachment_248180" align="aligncenter" width="377"] น.พ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ น.พ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ[/caption]

อีกการลงทุนในตลาดทุน “หมอบอย” พุ่งเป้าไปที่ดิจิตอล Currency โดยเฉพาะ Cryptocurrency เตรียมเพิ่มพอร์ตลงทุนจาก 3-5% ของพอร์ต เป็น 30% หลังจากที่มีการเรียนรู้มากขึ้นมาระยะหนึ่งพอสมควรแล้ว อีกทั้งเห็นว่ามีผลตอบแทนดี ปลอดภัย เป็นการลงทุนสตาร์ทอัพในเทคโนโลยีของเงินสกุลดิจิตอล (Blockchain) หรือการทำเหมืองขุดบิทคอย (Bitcion) เป็นธุรกิจที่ได้ค่าฟี จากการยืนยันการทำธุรกิจในเครือข่ายของบล็อกเชน ซึ่งเหมืองขุดบิตคอยน์ มีความเสี่ยงตํ่า ผลตอบแทนดี เนื่องจากอนาคต การทำธุรกิจในเครือข่ายบล็อกเชน มีการเติบโตสูงมาก ดังนั้นความผันผวนของบิตคอยน์ ไม่มีผลต่อธุรกิจเหมืองหรือค่าฟีที่ได้รับ เขาคาดหวังการลงทุนใน Cryptomoney ไม่ตํ่ากว่า 60% ของเงินลงทุน

หมอบอย ให้ความรู้เพิ่มเติมถึงวิธีการหาเงินใน Cryptomoney มี 3 วิธี วิธีแรกคือ การเทรดดิ้งหรือซื้อขายเงินดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin , Ethereum , Ahcion วิธีที่ 2 การทำเหมืองขุดบิตคอยน์ ที่ตนเองทำอยู่ และวิธีที่ 3 การระดมผ่านตลาด ICO ให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่ง ICO มีความเสี่ยงสูงที่สุด มีการฉ้อโกง หลอกลวงมากที่สุด หากบริษัทที่ออกไม่มีตัวตนหรือธุรกิจรองรับ การลดความเสี่ยงต้องเลือกบริษัทที่มีสินทรัพย์เป็นรูปธรรม มีความเป็นไปได้ของธุรกิจโดยศึกษาได้จาก White Paper ที่มีลักษณะเดียวกับหนังสือชี้ชวน

“หมอบอย” แนะนำ สำหรับคนที่ไม่เคยลงทุนในตลาดเงินดิจิตอลแล้ว ไม่ควรลงทุนมากกว่า 3-5% ของพอร์ต เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงมาก จากความผันผวนของราคาและการฉ้อโกงสูง มีโอกาสเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ ซึ่งต้องทำใจไว้แต่เนิ่นๆ ด้วย และวิธีการปิดความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือ การศึกษาให้ละเอียดลึกซึ้งก่อนการลงทุน และพร้อมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เพราะธุรกิจนี้ผลตอบแทนสูงที่มาคู่กับความเสี่ยงที่สูงด้วยเช่นกัน จึงต้องระมัดระวังการลงทุน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,329 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9