นํ้ามะพร้าวยึดตลาดทั่วโลก แบรนด์ดังชิงแชร์คาดมูลค่าโตก้าวกระโดด1.5ล้านล้าน

11 ม.ค. 2561 | 08:24 น.
อานิสงส์ตลาดนํ้ามะพร้าวทั่วโลกแรงสุดขั้ว ผู้ผลิตไทยส้มหล่นรับออร์เดอร์อื้อ “ออลโคโค่” สยายปีกช็อปคาเฟ่มะพร้าวนํ้าหอม ประเดิมปักหมุดแอลเอ สหรัฐฯ ตามด้วยโซลเกาหลี ขณะที่ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มระดับโลกโคคา-โคลา เปิดตัว “ซิโค่” เจาะตลาดพรีเมียมในไทย

จากการคาดการณ์ของ Zenith บริษัทที่ปรึกษาด้านอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ของอังกฤษ ออกมาประเมินถึงแนวโน้มตลาดนํ้ามะพร้าวทั่วโลก ว่าจะมีการเติบโตสูงถึง 26.8% ในปี 2563 และมีมูลค่าสูงถึง 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอัตราการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากเข้ามารุกตลาดของบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ระดับโลกที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญให้ตลาดมีการเติบโต และมองว่าประเทศในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก และอเมริกาใต้ จะเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนมายังผู้ประกอบการชาวไทยที่จะใช้เป็นโอกาสสำคัญในการเข้าไปรุกตลาด โดยใช้จุดเด่นของคุณภาพมาเป็นจุดขายสำคัญในการขยายตลาดระดับโลก

นางสาวฑิภรัตน์ มนัสรังษี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการขายระหว่างประเทศ บริษัท ออลโคโค จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจส่งออกมะพร้าวนํ้าหอมผลสดและแปรรูปมะพร้าวนํ้าหอม แบรนด์ “ออลโคโค” (All Coco) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มการดูแลสุขภาพกำลังมาแรง และเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ส่งผลให้สินค้าโดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตสูงตามไปด้วย หนึ่งในสินค้าที่กำลังมาแรงได้แก่ นํ้ามะพร้าว ทั้งรูปแบบนํ้ามะพร้าวสด นํ้ามะพร้าวบรรจุกระป๋อง รวมไปถึงนํ้ามะพร้าวแปรรูป ดังนั้นบริษัทจึงมองเห็นโอกาสทางการเติบโต และได้เข้ารุกตลาดอย่างจริงจัง ผ่านแบรนด์ ออล โคโค่

สำหรับแผนการตลาดในปีนี้จะเน้นสร้างแบรนด์ผ่านการขยายสาขาช็อปคาเฟ่มะพร้าวนํ้าหอมอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดได้เตรียมผนึกพาร์ตเนอร์ขยายสาขาคาเฟ่มะพร้าวนํ้าหอมรูปแบบแฟรนไชส์ในเมืองลอสแองเจลีส สหรัฐอเมริกาและเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มกราคมนี้ ก่อนจะขยายสาขาในกรุงโซล ประเทศเกาหลีต่อไป หลังจากทดลองทำตลาดในประเทศดังกล่าวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

MP34-3329-1A ขณะที่ตลาดในประเทศได้เตรียมขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มขยายไปยังแหล่งท่องเที่ยวหัวเมืองหลักตามต่างจังหวัด ภายใต้ 2 โมเดล ได้แก่ 1. Take Away ในรูปแบบคีออสใช้งบลงทุน 1.5 ล้านบาทต่อจุด 2. Coco Cafeขนาด 10-20 ที่นั่ง พื้นที่ 30-60 ตารางเมตรใช้งบลงทุน 2 ล้านบาทต่อแห่ง ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบลงทุนเองและขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ จากปัจจุบันที่สาขาอยู่ในศูนย์การค้าในกรุงเทพมหานครจำนวน 13-14 สาขาเช่นสยามพารากอน ดิเอ็มควอเทียร์ เซ็นทรัลเวสต์เกต เน้นเจาะตลาดพรีเมียม กลุ่มคนรักสุขภาพ นอกจากนี้ยังได้เตรียมเปิดตัวเมนูใหม่ภายในร้านเพื่อสร้างความหลากหลายให้แก่ผู้บริโภค ทั้งเมนูประจำร้านและเมนูตามฤดูกาล โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการทำตลาดภายในประเทศ70%และต่างประเทศ 30%และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศในสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 40% และในประเทศ 60%

ด้านนางการะเกด ภูริพัฒน์ ผู้จัดการสื่อสารการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าจากความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคในประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะในตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างเช่นนํ้ามะพร้าว ที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลกในขณะนี้ ทำให้มีการคาดการณ์กันว่ามูลค่าตลาดนํ้ามะพร้าวทั่วโลกที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นถึง 50% ภายในปี 2020 (www.foodbev.com) ในขณะที่อัตราการเข้าถึงของนํ้ามะพร้าวในประเทศไทยยังอยู่เพียง 2% ดังนั้นบริษัทจึงมองเห็นโอกาสทางการเติบโตดังกล่าว จึงได้เปิดตัวนํ้ามะพร้าว 100%“ซิโค่” (Zico) โดยเน้นเจาะตลาดพรีเมียมเป็นหลัก

ทั้งนี้การเข้ามาของซิโค่ ถือเป็นการเสริมพอร์ตความแข็งแกร่งของบริษัทเพื่อตอบสนองความต้องการ และเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยตอบรับเทรนด์ใหม่ของผู้บริโภคที่นิยมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้วในกว่า 10 ประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกาสหราชอาณาจักรฝรั่งเศสเยอรมนี แคนาดาฮ่องกงและสิงคโปร์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในระดับโลกมองว่าตลาดเครื่องดื่มนํ้ามะพร้าวน่าจะมีการเติบโตขึ้นมากกว่าเท่าตัวจากปีที่ผ่านมาทั้งในด้านขนาดและมูลค่าตลาด จากมูลค่าตลาดรวมราว7แสนล้านบาท เป็น 1.5 ล้านล้านบาทภายในปี 2020 และคาดว่าตลาดในเมืองไทยจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,329 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9