กองทุนรวมโตทะลุ 5 ล้านล้าน เงินลงทุนนอกพุ่ง ประเมินขายคืน LTF ไม่กระทบตลาด

10 ม.ค. 2561 | 11:50 น.
กองทุนรวมอู้ฟู่ปี 60 สินทรัพย์เพิ่มขึ้น 3.8 แสนล้านบาท หรือ 8.32% นักลงทุนขยับลงทุนต่างประเทศต่อเนื่องสินทรัพย์แตะ 1.1 ล้านล้านบาท บลจ.เชื่อนักลงทุนจ่อขาย LTF เชื่อไม่กระทบตลาด

สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า ปี 2560 กองทุนรวมทั้งระบบมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) จำนวน 5,035,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 386,759 ล้านบาท หรือ 8.32% จากสิ้นปี 2559 อยู่ที่ 4,648,984 ล้านบาท ซึ่งกองทุนแต่ละประเภทส่วนใหญ่มีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น ยกเว้นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (กอง1)มูลค่าสินทรัพย์ลดลง 83,575 ล้านบาท หรือ 29.06% จาก 287,628 ล้านบาท มาอยู่ที่ 204,053 ล้านบาท ผลจากกลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เพิกถอนกองทุนออกจากตลาดกว่า 8 หมื่นล้านบาท รวมถึงกอง 1 แปลงสภาพเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่กองทุนรวมเพื่อไปลงทุนต่างประเทศ (FIF) ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 145,507 ล้านบาท หรือ 15.18% จากสิ้นปี 2559 อยู่ที่ 958,375 ล้านบาทมาอยู่ที่ 1,103,883 ล้านบาท

ด้านกองทุนรวมประหยัดภาษีอย่างกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ 251,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39,839 ล้านบาท หรือ 18.83% จากสิ้นปี 2559 ส่วนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ อยู่ที่ 397,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59,733 ล้านบาท หรือ 17.70% จากสิ้นปี 2559

MP19-3329-A ผู้จัดการกองทุนรายหนึ่ง กล่าวว่า นักลงทุนที่ถือครองกองทุน LTF ตามเงื่อนไขสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในปีนี้ประมาณ 2 แสนล้านบาท แต่จากข้อมูลปีที่ผ่านๆ มานักลงทุนขายคืนไม่ได้มากนัก โดยปีที่ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนสูงอย่างปี 2559 มีแรงขาย LTF ออกมาประมาณหมื่นล้านบาทในช่วงไตรมาสแรก ปี 2560 แต่ปีที่ตลาดหุ้นไม่ได้ผลตอบแทนสูงมากแรงขาย LTF ประมาณ 4-5 พันล้านบาท

ทั้งนี้ จากการสำรวจพบนักลงทุนขาย LTF ออกมาในวันเปิดการซื้อขายวันแรกในวันที่ 3 มกราคม2561 โดยบลจ.กสิกรไทยฯมีประมาณ700ล้านบาท บลจ.กรุงศรีฯ ประมาณ 600 ล้านบาท

นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า แม้จะมีแรงขายจากเม็ดเงิน LTF ที่ครบกำหนดอายุที่มีการซื้อในช่วงดัชนี SET 1,500-1,600 จุด เมื่อเทียบกับปัจจุบัน 1,750 จุด ปรับตัวขึ้นมากกว่า 9-17% ซึ่งมีโอกาสขายทำกำไร แต่มองว่าจะไม่ส่งผล กระทบต่อตลาดมากนัก จากมุมมองการลงทุนในปีนี้บริษัทจดทะเบียนยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจึงแนะนำหุ้นใหญ่

นายกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทยฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัท มีลูกค้าที่สามารถขายกองทุน LTF ตามเงื่อนไขได้ประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาท แต่จากข้อมูลปีที่ผ่านๆ มาลูกค้าขายบางส่วนเท่านั้น แต่ในปีนี้ตลาดหุ้นสร้างสถิติทำจุดสูงสุดใหม่ อาจทำให้นักลงทุนเห็นว่าได้ผลตอบแทนสูง ซึ่งอาจเกิดแรงจูงใจให้ขายก็เป็นไปได้

อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนยังไม่มีแผนใช้เงิน แนะนำให้ถือลงทุนต่อเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน เนื่องจากบริษัท มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังมีทิศทางที่ดีและมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน อีกทั้งจากข้อมูลพบว่าหากลงทุนในตลาดหุ้นได้ระยะยาวยิ่งให้ผลตอบแทนที่ดี โดย 10 ปีย้อนหลังให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี

สำหรับผลตอบแทนย้อนหลัง5ปีของนักลงทุนที่ถือครอง LTFครบ5ปีผลตอบแทนรวมเงินปันผลอยู่ที่29%เฉลี่ย 8.8% ต่อปี ข้อมูลจากปลายปี2557ถึงวันที่3มกราคม2561ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุนรับมือการขายคืนLTFไว้ โดยถือเงินสดบางส่วนแล้วจึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นโดยรวม อีกทั้งเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าแรงขายของ LTF จึงไม่น่าจะมีผลต่อตลาดมากนัก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,329 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9