'บ้านดินอาข่า โฮมสเตย์' ปั้นธุรกิจจากวัฒนธรรมท้องถิ่น

07 ม.ค. 2561 | 08:46 น.
ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบวิถีดั้งเดิมคือมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล และเชื้อเชิญให้ได้เข้าไปสัมผัส “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” คือธุรกิจที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของวิถีชุมชน โดย ประกาศิต เชอมือกู่ หรือโยฮัน ที่มีไอเดียแนวคิดในการนำเสนอวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวอาข่าให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้ามารู้จัก และเรียนรู้ควบคู่ไปกับบรรยากาศความเป็นธรรมชาติที่สวยงาม

[caption id="attachment_247684" align="aligncenter" width="377"]  ประกาศิต เชอมือกู่ ประกาศิต เชอมือกู่[/caption]

++สร้างบ้านดินจากความเชื่อ
โยฮัน ซึ่งปัจจุบันคือเจ้าของกิจการ “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” และผู้นำชุมชนหมู่บ้านหล่อโย เล่ากับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตนเองเป็นชาวอาข่าซึ่งมีความสนใจศึกษาหาความรู้อย่างมาก โดยเมื่อตอนที่จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้มีโอกาสเข้าไปเรียนที่ตัวเมืองจังหวัดเชียงราย หลังจากนั้นจึงได้ไปศึกษาที่ประเทศอิสราเอลอีก 2 ปี และต้องการจะไปศึกษาต่อที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ติดปัญหาเรื่องของการขอวีซ่าโครงการศึกษาต่อจึงต้องยุติลง

เมื่อไม่ได้ไปศึกษาต่อจึงตัดสินใจกลับมาบ้านและใช้ชีวิตโดยการท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ จนได้มาพบกับลุงท่านหนึ่งซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับโฮมสเตย์พานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับวิถีชีวิตพื้นเมืองทำให้ตนเกิดแรงบันดาลใจที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับโฮมสเตย์ โดยมองว่าคุณลุงที่จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ยังสามารถทำได้ขนาดนี้ ตนที่มีวุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญาตรีก็จะต้องไม่ยอมแพ้ พร้อมกับไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมัคคุเทศก์เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจที่กำลังจะดำเนินการ

TP13-3329-4A เมื่อความคิดทุกอย่างตกผลึกได้ที่แล้ว จึงตัดสินใจเลือกที่จะทำบ้านพักในรูปแบบของบ้านดิน เพราะดินที่หมู่บ้านจะเป็นดินที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถนำมาสร้างเป็นบ้านพักได้ พร้อมกับที่ได้พบเห็นเศษขยะประเภทขวดและเศษไม้ที่ชาวบ้านตัดทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก เพราะทุกคนจะเลือกใช้แต่ไม้ที่ตรงและไม่คดงอ ตนจึงรวบรวมวัสดุต่างๆดังกล่าวเหล่านี้มาสร้างเป็นบ้านดิน เพื่อทำเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว และได้เริ่มต้นธุรกิจ “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” ขึ้นมาในปี 2550

“ในช่วงแรกชาวบ้านเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตนต้องทำเป็นบ้านดิน แต่ก็ทำมาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องด้วยความเชื่อในเป้าหมาย และเชื่อในสิ่งที่ตนกำลังทำจากบ้าน 4 หลังปัจจุบันก็มีเพิ่มเป็น 18 หลังในที่สุด พร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น”

TP13-3329-1A ++ชูวัฒนธรรมชาวอาข่า
โยฮัน บอกอีกว่า การทำธุรกิจในแนวทางของตนสามารถดำเนินการไปได้ด้วยดี เพราะไม่ต้องแย่งชิงทรัพยากรกับผู้ใด เนื่องจาก “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” เป็นการประยุกต์นำวัสดุเหลือใช้มาสร้างบ้านพัก โดยนำวิถีธรรมชาติ และการดำเนินชีวิตแบบชาวอาข่า ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน วัฒนธรรมการละเล่น มาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะต้องดำเนินชีวิตในรูปแบบของชาวอาข่าทั้งหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังมีทางเลือกให้สำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับประทานอาหารแบบอาข่าได้จริงๆด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ทางบ้านพักได้จัดเตรียมไว้

“บ้านพักทั้ง 18 ห้องมีห้องนํ้าในตัว และมีเครื่องทำนํ้าอุ่นไว้คอยให้บริการ ที่สำคัญทุกห้องสามารถมองวิวที่เป็นธรรมชาติได้จากด้านหน้าห้องพัก โดยตนยังต้องการท่องเที่ยวมาพัฒนาชุมชน จนปัจจุบันได้กลายเป็นผู้ใหญ่บ้าน และเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยตนเชื่อเสมอว่าการให้มีความสุขมากกว่าการรับเสมอ”

TP13-3329-2A ++ร่วมทำห้องพักเปิดหลังคา
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดเพิ่มเติมในปี 2561 นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเจรจากับบริษัทการท่องเที่ยวแบบโลคัล เพื่อทำแพ็กเกจท่องเที่ยวร่วมกัน รวมถึงการเจรจากับชาวบ้านในชุมชนเพื่อทำโครงการสวรรค์บนดอย โดยจะสร้างที่พักแบบเปิดหลังคาได้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมดาวจากที่พัก เพราะจะต้องใช้พื้นที่ป่าของชุมชนในการสร้าง ซึ่งจะเป็นการช่วยอนุรักษ์ป่าไปในตัว และช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยหากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จจะถือว่าเป็นที่พักแห่งแรกที่ดำเนินการในรูปแบบดังกล่าวทั้งในประเทศ และในจังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ จากเดิม “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” จะมุ่งเน้นการใช้ช่องทางของโซเชียลทุกช่องทางที่จะสามารถทำได้ ทั้งในส่วนของเพจเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการจองห้องพัก เป็นต้น นอก จากนี้ สิ่งที่ตนให้ความสำคัญเป็นอย่างมากก็คือการดูแลนักท่องเที่ยวเหมือนกับดูแลคนที่บ้าน หรือคนที่มาเยี่ยมเยือนบ้าน เมื่อนักท่องเที่ยวกลับไปก็จะไปเล่าถึงความประทับใจที่ได้พบ เสมือนเป็นการประชาสัมพันธ์แบบปากต่อปากที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก

“การใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการทำตลาดยุคปัจจุบันถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟนที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ เมื่อมีการโพสต์ภาพ หรือมีการรีวิวจากผู้ที่มาเข้าพัก ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวท่านอื่นต้องการที่จะเดินทางเข้ามาสัมผัสบ้าง ส่วนจุดเด่นของ “บ้านดินอาข่าโฮมสเตย์” อยู่ที่การรักษาความเป็นธรรมชาติ รวมถึงได้ใกล้ชิดกับวัฒนธรรมชาวอาข่า และความเป็นชุมชนแบบชาวบ้าน โดยจะไม่เน้นการบริหารจัดการแบบโรงแรม”

++วางเป้ารายได้ปี 61 หลักล้าน
โยฮัน กล่าวต่ออีกว่า จากการ ดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดดังกล่าว เพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวให้เพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าจะสร้างรายได้ในปี 2561 ได้ถึงล้านบาท จากที่ปี 2560 มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 6-7 แสนบาท ส่วนภาพรวมของธุรกิจในอนาคต ต้องการจะให้แนว ทางเศรษฐกิจพอเพียงที่ตนยึดหลักมาใช้ในการทำธุรกิจได้ถูกเผยแพร่ไปยังชุมชน และได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เพื่อนำไปพัฒนาชุมชนควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมตระหนักในเรื่องของการแบ่งปัน โดยให้ธุรกิจเติบโตไปอย่างช้าๆอยู่คู่กับชุมชน และให้เป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน

“กุญแจซึ่งไขประตูไปสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจที่ยึดถือมาตลอดก็คือเรื่องการแบ่งปัน เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยเชื่อว่าจะเป็นแนว ทางที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ทุกจุด และ ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของผู้ที่เห็นแก่ตัวให้เห็นคุณค่าของการแบ่งปันได้”

สัมภาษณโดย :นิธิโรจน์ เกิดบุญภาณุวัฒ เกิดบุญภาณุวัฒน์

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,329 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9